เมื่อทุกสิ่งหมุนเวียนบรรจบกันอย่างสวยงาม 'Carol' ภาพยนตร์รักที่สอนให้เราทำตามใจปรารถนา

Carol (2015) เป็นภาพยนตร์ที่ให้อะไรเรามากกว่าการเล่าเรื่องราวของ หญิงรักหญิง เพราะนอกจากบทที่ดัดแปลงมาจากนิยายอันงดงาม ผู้กำกับก็สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครผ่านภาพเคลื่อนไหว บรรยากาศ เสื้อผ้า และบทสนทนา ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จนภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มากถึง 6 รางวัลเลย

ภาพยนตร์เรื่อง Carol ดัดแปลงมาจากนวนิยายคลาสสิคเรื่อง The Price of Salt เขียนโดย แพทริเซีย ไฮสมิธ (Patricia Highsmith) ซึ่งเล่าเกี่ยวกับ แครอล หญิงผู้เพียบพร้อมทั้งครอบครัว ฐานะ และหน้าตาในสังคมคนหนึ่ง ที่เกิดมีความสัมพันธ์กับ เทเรซ หญิงสาวอายุ 20 กว่าปี ซึ่งมีอาชีพเป็นพนักงานในห้างสรรพสินค้า โดยที่โลกและลักษณะนิสัยของทั้งสองคนนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทว่าจุดนั้นอาจเป็นสิ่งดึงดูดให้เธอสองคนอยากรู้จักกันมากขึ้น จนเกิดเป็นความรักที่ลึกซึ้ง โดยมีพื้นหลังอยู่ในมหานครนิวยอร์ก ช่วงปี ค.ศ. 1950

เชื่อว่าสิ่งที่ทำให้หลายคนประทับใจหนังเรื่องนี้ รวมถึงนักวิจารณ์หนังต่างๆ ก็ยกให้เป็นภาพยนตร์ที่ดีเยี่ยมและงดงามแห่งปี หนึ่งคือเนื่องจากฝีมือการแสดงของนักแสดงนำอย่าง เคท แบลนเชตต์ (รับบทเป็น แครอล) และ รูนีย์ มาร่า (รับบทเป็น เทเรซ) ที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครออกมาได้อย่างถ่องแท้และสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง น้ำเสียง หรือแววตา ที่สามารถทำให้เราสามารถเชื่อได้ว่า ตัวละครทั้งสองตกหลุมรักกันด้วยความรู้สึกอย่างแท้จริง ส่วนอีกเหตุผลหนึ่ง คือหนังเรื่องนี้ต้องการสื่อถึง ความรักและการออกนอกกรอบสังคม มากกว่าการเล่าถึงความผิดแผกในการรักร่วมเพศ ซึ่งเชื่อว่าทั้งสองประเด็นทำให้ภาพยนตร์เรื่อง Carol เรียกว่าเป็นหนังรักที่สวยงามเรื่องหนึ่งก็คงไม่ผิดนัก

ในเรื่อง แครอล เป็นสตรีที่มีพร้อมทั้งสามี ลูก และฐานะ ซึ่งการพบกันของทั้งคู่จะเรียกว่าเป็นโชคชะตาหรือความตั้งใจก็ไม่อาจทราบได้ โดยเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่การได้ชมความสัมพันธ์ของตัวละครที่ค่อยๆ พัฒนา เข้าหา และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันอย่างช้าๆ ไม่ฉาบฉวย คนหนึ่งมีความเป็นผู้ใหญ่ แข็งแกร่ง และมีความรับผิดชอบ ขณะที่อีกคนหนึ่งยังคงไร้เดียงสา ไร้การผูกมัด และยังไม่กล้าเดินตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ

อีกสิ่งหนึ่งที่เราประทับใจจากเรื่องนี้เป็นพิเศษ คือการแสดงออกของตัวละครเมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกัน และแสดงออกว่ากำลังเป็นตัวเองอย่างธรรมชาติ ตรงกันข้ามกับในโลกความจริงที่มีกรอบของสังคมครอบพวกเขาเอาไว้

หากใครต้องการชมหนังรัก หรือหนังแนว LGBTQ+ ที่เล่าเรื่องอย่างอบอุ่น รู้สึกดี และไม่โหดร้ายเกินไป เราไม่อยากให้พลาดชมเรื่องนี้ เพราะนอกจากเนื้อหาที่งดงามอย่างที่บอกมาตั้งแต่ต้น ภาพยนตร์ยังถ่ายทอดทุกมุมมองออกมาได้งดงามราวกับผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง

ภาพยนตร์กำกับโดย ท็อดด์ เฮย์เนส และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (เคท แบลนเชตต์) สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม (รูนีย์ มาร่า) สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม สาขากำกับภาพยอดเยี่ยม สาขาออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม และ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม