ปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน และถือว่าเป็นจังหวะทองของปี เพราะคืนนั้นจะมี ซูเปอร์ฟูลมูน หรือพระจันทร์เต็มดวงที่ใหญ่และสว่างที่สุดในรอบปี 2568 พอดิบพอดี
พระจันทร์จะอยู่ห่างจากโลกแค่ราวๆ 356,800 กิโลเมตรเท่านั้น ใกล้จนเห็นดวงกลมโตเต็มตาโดยไม่ต้องพึ่งเลนส์ซูม นักดาราศาสตร์เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า เพริจี (Perigee) ซึ่งเป็นช่วงที่ดวงจันทร์โคจรมาใกล้โลกที่สุดในรอบเดือน ขนาดของมันจะใหญ่กว่าปกติราว 14 เปอร์เซ็นต์ และสว่างขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์ คืนนี้เรียกได้ว่าแสงดีสุดๆ ถ่ายรูปยังไงก็ออกมาปังแน่นอน
ส่วนฝั่งกทม. ก็เตรียมพร้อมกันสุดๆ เพราะปีนี้มีการเปิดสวนสาธารณะ 33 แห่งให้ประชาชนได้ลอยกระทงกันยาวถึงเที่ยงคืน จะไปสวนใหญ่ๆ อย่างสวนลุมพินีหรือสวนเบญจกิติก็ครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คน หรือถ้าใครอยากหลีกหนีความวุ่นวาย ก็มีสวนเล็กๆ หลายแห่งให้ได้นั่งดูพระจันทร์แบบสงบๆ เหมือนกัน
ลอยกระทงไม่ได้มีแค่ความสวยงามของแสงไฟที่ลอยบนผิวน้ำ แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่เราได้ ‘ปล่อยวาง’ เรื่องที่ค้างคาใจ ไม่ว่าจะเป็นความน้อยใจ ความเสียใจ หรือความคิดที่ยังวนอยู่ในหัวตอนตีสอง คืนนี้อาจเป็นจังหวะดีที่จะปล่อยมันไปพร้อมกับแสงเทียนบนกระทง
และอย่าลืมอีกเรื่องที่สำคัญนั่นคือการช่วยกันใช้ ‘กระทงรักษ์โลก’ แม่น้ำเจ้าพระยาและแหล่งน้ำสายอื่นเหนื่อยมามากพอแล้วกับเศษโฟมที่ลอยอยู่ทุกปี ถึงเวลาที่เราควรใส่ใจสิ่งมีชีวิตใต้น้ำที่ต้องเผชิญกับของเสียเหล่านั้นแทน
คืนวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ อาจเป็นหนึ่งในไม่กี่คืนที่กรุงเทพฯ ชะลอจังหวะลง ให้ทุกคนได้เงยหน้ามองท้องฟ้าไปพร้อมกัน ท่ามกลางซูเปอร์มูนที่ใหญ่และสว่างที่สุดของปี กับบรรยากาศอบอุ่นของเทศกาลที่ผสมความสนุกเข้ากับความตั้งใจดีต่อธรรมชาติได้อย่างลงตัว
ลอยกระทงปีนี้ อย่าพลาดเลยจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะได้เห็นพระจันทร์ลูกโตขนาดนี้อีก และในเมืองที่หมุนเร็วตลอดเวลาค่ำคืนที่ทุกคนหยุดมองท้องฟ้าพร้อมกันอาจเป็นของขวัญเล็กๆ ที่เราทุกคนสมควรจะได้รับ

