ข่าวดีสำหรับสายกลางคืน ดูเหมือนว่าการสั่งปิดร้านตอนตีสองอาจกลายเป็นอดีต เพราะ นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล กำลังผลักดันนโยบายใหม่ในการยกเลิกระบบโซนจำกัดเวลาจำหน่ายแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ เป็นขยายเวลาปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 และยกเลิกข้อห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงบ่าย 2 โมงถึง 5 โมงเย็น โดยหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน การเปลี่ยนแปลงนี้จะเริ่มใช้ในเดือนมกราคม ปี 2569
ปัจจุบัน มีเพียงบางพื้นที่เท่านั้นที่สามารถเปิดเกินตีสองได้ เช่น สีลม, RCA และ รัชดาภิเษก ในกรุงเทพฯ รวมถึง ภูเก็ต, เชียงใหม่, ชลบุรี และเกาะสมุย ส่วนพื้นที่อื่นๆ จะต้องปิดเวลาตีสองแบบไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งระบบนี้ถูกประชาชนหลายคนวิจารณ์มานานว่าล้าสมัย และไม่ยุติธรรม
ภายใต้แผนปฏิรูปใหม่นี้ รัฐบาลตั้งใจจะทำให้เกิดความเท่าเทียมกันสำหรับทุกฝ่าย ทั้งร้านอาหาร บาร์ หรือสถานที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ต้องวิ่งเต้นขอใบอนุญาตสถานบันเทิงแบบเดิม แต่สามารถลงทะเบียนตรงกับกระทรวงมหาดไทยได้ในฐานะร้านจำหน่ายสุราภายใต้ระบบที่เรียบง่ายและตรงไปตรงมามากขึ้น
แน่นอนว่าแรงจูงใจของรัฐบาลไม่ได้มีแค่เรื่องความสะดวก แต่ยังรวมถึงเม็ดเงินด้วย เพราะการขยายเวลาเปิดและลดข้อจำกัดต่างๆ คาดว่าจะช่วยเพิ่มตัวเลขการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ภาษี หลายแสนล้านบาทต่อปี
ตอนนี้ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข กำลังหารือกันถึงแนวทางปฏิบัติจริงว่าจะยกเลิกข้อบังคับโซนเหล่านี้ผ่านช่องทางกฎหมายใดได้บ้าง แม้ยังอยู่ในขั้นต้น แต่ถ้าครม. เห็นชอบจริง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและสถานบันเทิงของไทย (รวมถึงทุกคนที่เคยหงุดหงิดกับกฎ ห้ามขายเหลาตอนบ่าย) อาจได้เฮกันในปีหน้า
ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของบาร์ที่มองเห็นโอกาสรายได้เพิ่ม หรือแค่คนที่คิดว่าการดื่มเบียร์ตอนบ่ายสามไม่ควรถูกนับเป็นของผิดกฎหมาย นี่อาจเป็นการปฏิรูปที่สายดื่มในไทยรอคอยมานาน
อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายฝ่ายแสดงความกังวลต่อผลกระทบด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่อง เมาแล้วขับ หลายเสียงเรียกร้องให้เพิ่มบทลงโทษให้เข้มงวดขึ้น เช่น เพิกถอนใบขับขี่ตลอดชีวิต หรือ บังคับตรวจระดับแอลกอฮอล์ในเลือดทันทีโดยไม่ต้องขออนุมัติ แนวคิดคือทั้งสองด้านต้องเดินไปคู่กัน ทั้งเปิดทางเศรษฐกิจและเก็บภาษีมากขึ้น แต่ก็ต้องดูแลความปลอดภัยของคนที่ไม่ได้อยู่ในวงปาร์ตี้ด้วยเช่นกัน

