นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ดูเหมือนจะดึงผ้าเบรกแผนเปิดคาสิโนในประเทศอย่างจริงจัง หลังกล่าวกับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ประจำประเทศจีนว่า การพนันจะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเรื่องราวการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย
ทั้งสองผู้นำได้พบกันระหว่างการประชุมสุดยอด APEC ที่เมืองคย็องจู ประเทศเกาหลีใต้ โดยนายกอนุทินยืนยันว่ารัฐบาลของเขาได้ระงับการออกกฎหมายคาสิโนทั้งหมดที่เคยถูกเสนอไว้แล้ว พร้อมระบุว่าการเติบโตของไทยจะมาจาก ‘คนของเรา สินค้าของเรา และเทคโนโลยีของเรา’ — สะท้อนให้เห็ยจุดแข็งของประเทศในด้านการท่องเที่ยว เกษตรกรรม และการผลิต
โดยประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวชื่นชมการตัดสินใจดังกล่าว โดยมองว่าเป็นก้าวที่ดีในการต่อต้านการพนันข้ามพรมแดน เพราะจีนเองระมัดระวังมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการที่พลเมืองของตนเดินทางไปเล่นคาสิโนในประเทศต่างๆ ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งบางเมืองถึงกับสร้างขึ้นรอบๆ ธุรกิจพนันโดยเฉพาะ และการที่ไทยปิดประตูคาสิโนอย่างเป็นทางการในตอนนี้ จึงถือเป็นการส่งสัญญาณว่าปักกิ่งได้พันธมิตรที่พร้อมร่วมมือในการจัดการปัญหาสังคมนี้แล้ว
ทางเดินต่อไป
การพบกันครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่การแสดงจุดยืนทางศีลธรรมเท่านั้น เพราะทั้งสองประเทศยังตกลงที่จะเพิ่มความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว การค้าดิจิทัล และเกษตรกรรม โดยจีนตกลงจะซื้อข้าวไทย 500,000 ตัน ภายใต้ข้อตกลงใหม่ และทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันผลักดันให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวกลับไปสู่ระดับเดิมก่อนการแพร่ระบาดของโควิด ประเทศไทยยังคงเข้าร่วมกับจีนในการให้คำมั่นว่าจะปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์และมิจฉาชีพออนไลน์ที่มุ่งเป้าไปยังชาวจีนอีกด้วย
สำหรับประเทศไทย การประกาศจุดยืน ‘ไม่เอาคาสิโน’ ในครั้งนี้สะท้อนการเปลี่ยนทิศทางอย่างชัดเจน เพราะรัฐบาลหลายยุคก่อนเคยมีแนวคิดเรื่อง ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ รวมถึงรีสอร์ตครบวงจรที่มีพื้นที่เล่นพนัน เพื่อเพิ่มรายได้ภาษีและดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ฝั่งผู้สนับสนุนเชื่อว่าอาจสร้างรายได้มหาศาล ขณะที่ฝ่ายคัดค้านเตือนถึงปัญหาการเสพติด การคอร์รัปชัน และการทำลายคุณค่าทางวัฒนธรรมของไทย
การตัดสินใจของนายกอนุทินจึงไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจแต่ยังสะท้อนถึงจิตใจและค่านิยมของคนไทยด้วย เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลนี้เลือกจะเติบโตอย่างมั่นคงและมีความรับผิดชอบ มากกว่าจะเสี่ยงเอาแบบได้ผลเร็วแต่ไม่ยั่งยืน
ในทางปฏิบัติ การตัดสินใจนี้ยังช่วยให้ไทยเดินไปในทิศทางเดียวกับความคาดหวังของจีนในระดับภูมิภาคอีกด้วย ถือเป็นหมากการทูตที่ชาญฉลาด ขณะที่ทั้งสองประเทศกำลังขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจในด้าน เทคโนโลยีการผลิต แบตเตอรี่รถ EV และพลังงานสีเขียว
แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่น เพราะไทยยังต้องเผชิญกับ หนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น การใช้จ่ายที่ซบเซา และการแข่งขันที่ดุเดือดจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามและมาเลเซีย เพราะเมื่อไม่มีทุนคาสิโนเข้ามาเป็นตัวเร่ง รัฐบาลจำเป็นต้องเร่งเครื่องหนักขึ้น เพื่อดึงดูดการลงทุนและทำให้กระแสท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน
ถึงอย่างนั้น การตัดสินใจครั้งนี้ก็ยังได้รับเสียงสนับสนุนจากคนไทยจำนวนมาก ที่มองว่าการพนันเป็นสิ่งที่เป็นพิษต่อสังคมและยังสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของนายกอนุทินในฐานะผู้นำที่เน้นการพัฒนาอย่างโปร่งใสและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง สารที่เขาตั้งใจส่งถึงสี จิ้นผิง ชัดเจนมาก: ประเทศไทยสามารถเติบโต และยังสนุกได้โดยไม่ต้องมีวงล้อรูเล็ตอีกต่อไป

