[title]
วันนี้เป็นวันแรกที่ กทม. ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนัก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมและผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ซึ่งผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พรบ.โรคติดต่อฯ มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
จากประกาศดังกล่าว ประชาชนมีข้อสงสัยในบางกรณี ซึ่งล่าสุด กทม. ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติม โดยระบุว่า
เจตนาในการประกาศคือการป้องกันการติดต่อของโรคจากบุคคลไปสู่บุคคล การอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในอาคารหรือที่ต่าง ๆ จะต้องสวมหน้ากาก สำหรับในที่สาธารณะต้องใส่ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่คนเดียวหรือไม่ เพราะบุคคลอื่นอาจมาใช้สถานที่นั้นต่อ
กรณีอยู่ในรถยนต์ส่วนตัว: เมื่อมีบุคคลอื่นร่วมอยู่ในรถด้วยต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ไม่ยกเว้นแม้เป็นครอบครัวเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการควบคุมโรคและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ อนุโลมไม่ต้องสวมหน้ากากเฉพาะกรณีนั่งรถคนเดียว
กรณีผู้ประกาศข่าว/จัดรายการในสตูดิโอ: เนื่องจากสตูดิโอถือว่าเป็นสถานที่นอกเคหะสถานและสถานที่พำนัก ตามประกาศดังกล่าว อีกทั้งเป็นสถานที่มีผู้ปฏิบัติงานรวมกันมากกว่า 1 คน มีลักษณะเป็นห้องปิด ซึ่งจะมีผู้เข้ามาใช้งานต่อเนื่อง การทำงานของผู้ประกาศขณะอ่านข่าวหรือจัดรายการจึงอยูในเกณฑ์ที่ต้องสวมหน้ากากตามที่กำหนดในประกาศ อีกทั้งผู้ประกาศข่าวเป็นบุคคลสาธารณะที่จะมีภาพปรากฏต่อสาธารณชนทั่วไปจึงควรเป็นภาพที่สวมใส่หน้ากากเพื่อเป็นแบบอย่างในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดมีความรุนแรงและต้องการร่วมมือจากประชาชนในการดำเนินการตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคอย่างเข้มข้น
กรณีเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ: ทางการแพทย์ไม่แนะนำให้สวมหน้ากาก เพราะเด็กยังไม่รู้วิธีถอดหน้ากาก อาจขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้ จึงเข้าข่ายอนุโลมไม่ต้องสวมหน้ากาก แต่ให้หลีกเลี่ยงการพาเด็กเล็กไปในสถานที่แออัด หรือพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด