ขึ้นเหนือไปชมพืชผลหลากสีของ 'โครงการหลวง' ก่อนส่งถึงมือคนกรุงปลายเดือนนี้

ปลายเดือนนี้สยามพารากอนเตรียมขนผลผลิตจากมูลนิธิโครงการหลวงมาให้ได้อุดหนุนกันสดๆ ในงาน Royal Project Gastronomy Festival 2020 @Siam Paragon ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 สาย Healthy เตรียมอุดหนุนพืชผักคุณภาพกันให้จุใจได้เลย แต่ก่อนจะถึงวันนั้น เราขอพาทุกคนขึ้นเหนือ ไปเยือนแหล่งกำเนิดของผักผลไม้เหล่านี้ ณ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และสถานีวิจัยเกษตรหลวงต่างๆ ของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย แต่ละที่เขามีพืชผลอะไรโดดเด่นบ้าง ตามเรามาดู

หลังจากแลนดิ้งที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จุดหมายแรกของเราอยู่ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยลึก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ที่ส่งเสริมให้ชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ ม้ง ลาหู่หรือมูเซอ และคนเมือง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ผลผลิตที่โดดเด่นของที่นี่ คือ เคปกูสเบอร์รี หรือชื่อไทยคือ ระฆังทอง ผลไม้เมืองหนาวที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าอยากได้รสชาติหวานต้องรอให้ผลมีสีส้มจัด แต่ถ้าชอบรสเปรี้ยวควรกินเคปกูสเบอร์รีช่วงผลที่สีมีเหลือง

จุดหมายต่อไปอยู่ที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ใคมาเที่ยวที่นี่จะได้ชมความงามของซากุระโดยไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่น แต่นอกจากซากุระสถานีเกษตรหลวงอ่างขางยังมีพืชผลอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายชนิด ทั้งบลูเบอร์รี กุหลาบตัดดอก ดอกไม้กินได้ และพืชไร่อย่าง ลินิน ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ลำต้นนำไปปั่นเป็นเส้นใยทำเครื่องนุ่งห่ม เมล็ดสามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันประกอบอาหารหรือนำเมล็ดมาใช้เป็นส่วนประกอบของขนมแทนงาได้ ซึ่งมีโอเมก้า 3 สูง ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี ต้านการอักเสบ ลดความดันโลหิต ลดการเกิดโรคหัวใจ

ถัดไปไม่ไกลมีไร่ สตรอว์เบอร์รีพันธุ์พระราชทาน 80 ที่โครงการหลวงพัฒนาสายพันธุ์มาเพื่อให้เหมาะสมกับการเพาะปลูกตามสภาพภูมิศาสตร์มากที่สุด มีจุดเด่นคือผลสีแดงสด กลิ่นหอม รสชาติหวาน อร่อย สามารถเก็บกินสดๆ ได้เลย

มุ่งหน้าต่อไปที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหมอกจ๋าม อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ที่นี่มีพืชผักหลากสี ไม่ว่าจะเป็นฟักทองญี่ปุ่น ฟักทองญี่ปุ่นสีส้ม ฟักทองญี่ปุ่นสีขาว ฟักทองจิ๋ว มันเทศญี่ปุ่น มะเขือม่วงก้านดำ มะเขือม่วงก้านเขียว ข้าวโพดหวานสีม่วง มะม่วงพันธุ์ต่างประเทศ เสาวรสหวานไทนุง อาโวคาโด มะละกอ ฯลฯ ซึ่งโครงการหลวงได้สนับสนุนให้ชาวลาหู่หรือมูเซอปลูกพืชเหล่านี้แทนการทำไร่เลื่อนลอยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 มีไฮไลต์เป็นไร่ ฟักทองญี่ปุ่น ที่ปลูกแบบใช้ค้างเพราะพื้นเป็นที่ลุ่ม เราได้ลงไปดูอย่างใกล้ชิด เห็นขั้นตอนการดูแลอย่างพิถีพิถันของเกษตรกรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีที่สุด

จากเชียงใหม่ เราตรงขึ้นเชียงรายเพื่อเยี่ยมชม ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้ง อ.เวียงแก่น ที่เคยเป็นหน่วยย่อยของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้ง ก่อนที่มูลนิธิโครงการหลวงจะได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงผาตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2550 และส่งเสริมการปลูกพืชผักและไม้ผลเขตหนาวชนิดต่างๆ เช่น ฟิลเลย์ โอ๊คลีฟแดง บัตเตอร์เฮด เบบี้คอส เบบี้ฮ่องเต้ ปวยเหล็ง ผักกาดขาวปลี กะหล่ำปลีหัวใจ คื่นฉ่าย คอสสลัด บร็อกโคโลนี อาโวคาโด พีช พลัม พลับ สตรอว์เบอร์รี เคปกูสเบอร์รี โดยมีพืชผลที่โดดเด่นเป็น องุ่นดำไร้เมล็ด

อีกหนึ่งศูนย์ฯ ที่มีความโดดเด่นของจังหวัดเชียงรายคือ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงห้วยแล้ง อ.เวียงแก่น นอกจากจะมีผักผลไม้ปลอดสารพิษแล้ว ยังเป็นแหล่งอนุรักษ์ภูมิปัญญาชาวบ้านอย่าง เครื่องจักสาน ของชนเผ่าขมุ ที่วัสดุธรรมชาติมาประยุกต์เป็นเครื่องใช้เพื่อการดำรงชีพ และ ผ้าทอมือ ของชนเผ่าไทยลื้อ ซึ่งมีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ กว่าจะได้ผ้าแต่ละผืนต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ เพราะชาวบ้านจะทอด้วยมือทุกผืน

ทุกอย่างที่ว่ามาจะส่งตรงถึงมือคนกรุงเทพฯ ในงาน “Royal Project Gastronomy Festival 2020 @Siam Paragon : Colors of Health สีสันแห่งยอดดอยสู่สุขภาพที่ดีของคนเมือง” เต็มอิ่มไปกับกิจกรรมมากมาย ช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพกันแบบจุใจ และชิมอาหารอร่อยๆ จากร้านโครงการหลวงและร้านดังในกรุงเทพฯ

รวมถึงเมนูพิเศษจากเชฟชื่อดังที่นำผลผลิตจากโครงการหลวงมาเนรมิตเป็นเมนูสุดพิเศษ ได้แก่ เชฟต้อม เชื้อนาหว้า แห่งร้านสุกี้มาสะ กับเมนู Chicken Roll with Winter Salad ที่ใช้ส่วนผสมหลักจากโครงการหลวง ไก่เบรส ซูกินี เห็ดรวม  ฟักทองจิ๋ว มะเขือเทศ เคปกูสเบอร์รี่ ผักสลัดรวม และดอกไม้กินได้ และ เชฟนิโคลัส โบเรว จากร้านแฮร์รอดส์ ที รูม กับเมนู Royal Pumpkin Crème Brulee โดยใช้ฟักทองโครงการหลวงเป็นวัตถุดิบหลักเช่นกัน

งานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2563 ณ พาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน