ณเดชน์-ญาญ่า และการกลับมาของ "นาคีฟีเวอร์" ในว่าที่หนังไทยร้อยล้านเรื่องล่าสุด

"บางอย่าง สิ่งที่เรามองไม่เห็น ใช่ว่าจะไม่มี" ประโยคจากละครสุดฮิตทางช่อง 3 ได้สานต่อตำนานความรักของพญานาค สู่ภาพยนตร์ นาคี 2 ที่หลายคนรอคอย ผลงานของผู้กำกับมือทอง อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ผู้เคยสร้างปรากฏการณ์นาคีฟีเวอร์มาแล้วทั่วประเทศ โดยในเวอร์ชั่นภาพยนตร์นี้เป็นเรื่องราวของ สร้อย (ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์) สาวผู้เติบโตมาพร้อมกับความศรัทธาต่อเจ้าแม่นาคี และป้องปราบ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) สารวัตรหนุ่มผู้ไม่เชื้อในสิ่งลี้ลับ ซึ่งหลังย้ายมาประจำที่ดอนป่าไม้ ก็เกิดเหตุคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญขึ้นมากมายโดยหลายคดีชี้ชัดว่าไม่ใช่ฝีมือคน ซ้ำร้ายสร้อยยังถูกกล่าวหาว่าเป็นร่างประทับของเจ้าแม่นาคี ป้องปราบจึงต้องสืบคดีเพื่อค้นหาความจริงให้จงได้

M Pictures

M Pictures

M Pictures

สิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็น่าจะเป็นอินเนอร์ของนักแสดงคู่พระนางแห่งยุคอย่าง ณเดชน์-ญาญ่า ที่ไม่ทำให้เราผิดหวัง ทั้งในแง่การถ่ายทอดอารมณ์ รวมไปถึงการพูดภาษาอีสานได้ลื่นหูดีแท้ ส่วนคู่หลักในละครอย่าง แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ และเคน-ภูภูมิ พงศ์ภานุภาค ถึงจะมีฉากออกมาน้อย แต่มีอิมแพคมากโดยเฉพาะฉากสุดพีคตอนท้ายเรื่อง นอกจากนี้ 2 นักแสดงตลกอย่าง ปอยฝ้าย มาลัยพร และอี๊ด
โปงลางสะออน ที่ขนมุขความฮามาสร้างสีสันได้ตลอดทั้งเรื่อง ในส่วนของพล็อตเรื่องก็ยังสามารถคงความรู้สึกแบบดูละครได้ดี แต่เพิ่มการสืบสวนสอบสอย และความสยองขวัญชวนขนลุก ถึงแม้จะมีบทพูดน้อย แต่เน้นการใช้ภาพและมุมกล้องเล่าเรื่องได้ดีมาก อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ CG สุดอลังการ ที่หลายคนอาจกังขาว่าบ้านเราจะไหวหรอ? แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับสร้างขึ้นมาได้ดี เช่น เกล็ดหรือเหงือพญานาคที่ดูดีไม่แพ้หนังฮอลลีวู้ดเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ของพญานาคที่ทำให้เรารู้สึกว่าน่าจะเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ไทยที่มี CG ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้

ใครที่ลังเลว่าไม่เคยดูภาคแรกจะดูหนังรู้เรื่องไหม บอกได้เลยว่ารู้เรื่องแน่นอน เพราะหนังเล่าเก็บทุกอย่าง ส่วนแฟนละครยิ่งต้องมาดู เพราะหนังเตรียมฉากเซอร์ไพรซ์ที่คาดไม่ถึงรอคุณอยู่