สรุปประเด็นร้อน “หอศิลป์ - กทม.” นายกฯ รับรู้แล้ว และประชาชนสามารถบริจาคสบทบทุน

เขียนโดย
Time Out Bangkok editors
การโฆษณา

หลังจากสถานการณ์คลุมเครือมานาน วานนี้ (26 กันยายน พ.ศ. 2561) ผู้อำนวยการหอศิลปและวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ออกมาแถลงแล้วว่าจะยืนหยัดให้บริการประชาชนต่อไป ไม่หวั่นแม้ถูกตัดน้ำไฟ

ผศ. ปวิตร มหาสารินันทน์ ผู้อำนวยการหอศิลปฯ ออกมาแถลงการณ์ถึงจุดยืนของหอศิลป์เนื่องจากปัญหาเรื่องงบประมาณการอุดหนุนประจำปีที่ไม่ผ่านการอนุมัติและยังไม่ได้รับการแก้ไขจากสภากรุงเทพมหานคร ทำให้หอศิลป์ไม่ได้รับงบประมาณการอุดหนุนจนต้องประสบปัญหาทางการเงินอื่นๆ ตามมา

ด้วยเหตุนี้ทำให้หอศิลป์จำเป็นต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัด ลดนิทรรศการ ลดงานบางอย่างลง เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดและเพื่อให้ดำรงอยู่ต่อไปได้ ถึงแม้มาตราการนี้จะส่งผลกระทบให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการขาดความสะดวกสบายด้านสาธารณูปโภคน้ำ-ไฟไปบ้าง แต่เพื่อการดำรงอยู่ของพื้นที่การเรียนรู้ผ่านศิลปะ จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการดังกล่าวในข้างต้น

ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทางหอศิลป์ได้ส่งจดหมายถึงสำนักวัฒธรรมฯ ของกรุงเทพมหานคร ผู้ที่มีหน้าที่จัดการเบิกจ่ายงบประมาณของหอศิลป์ปี พ.ศ. 2560 (1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 – 30 กันยายน พ.ศ. 2561) จำนวนกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งได้เบิกจ่ายจริงเพียง 9 เดือนเท่านั้น และคาดว่ายังมีเงินคงเหลืออยู่ โดยหอศิลป์ได้ร้องขอผ่านจดหมายด้วยใจความที่ว่า ขอการชี้แจงงบประมาณจากสำนักสำนักวัฒธรรมฯ ที่ได้เบิกจ่ายให้กับหอศิลป์ และร้องขอให้กันงบประมาณส่วนที่เหลือไว้ เพื่อนำมาใช้ในปี 2562 ที่กำลังจะถึงนี้ (1 ตุลา 2561 – 30 กันยายน 2562)

 

BACC

 



ด้าน ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ผู้อำนวยการ Bangkok Art Biennale หนึ่งในผู้ร่วมแถลงการณ์ได้ออกมากล่าวว่า ถึงแม้จะเกิดปัญหาอะไรก็ตามทางบางกอก อาร์ต เบียนนาเล่จะพร้อมรับและปรับตัวไปกับหอศิลป์ เพื่อให้พื้นที่ของการเรียนรู้ศิลปะจะยั่งยืนอยู่ต่อไป

แต่ที่เซอร์ไพรซ์สุดๆ ก็คือในระหว่างการแถลงการณ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ได้โผล่มาแบบไม่ได้บอกล่วงหน้า เข้ามารับรู้ปัญหาดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งเป็นที่น่ายินดีเพราะนายพุทธิพงษ์รับหน้าที่จากนายกรัฐมนตรีโดยตรง อาจแปลได้ว่าท่านนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในปัญหานี้เช่นกัน

อีกด้าน พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ค ผู้ว่าฯ อัศวิน โดยยืนยันว่า กทม. จะไม่เข้าไปยึดหอศิลป์ฯ มาบริหารจัดการเองอย่างแน่นอน ในขณะที่เรื่องงบประมาณนั้นยังให้ไม่ได้เพราะยังไม่ผ่านการพิจารณาจากสภากรุงเทพมหานคร ถึงแม้ว่าจะขอบรรจุเข้าวาระงบประมาณประจำปีมาแล้ว 3 ครั้งก็ตาม ดังนั้นหากหอศิลป์ฯ ต้องการงบอุดหนุนจากกทม. หอศิลป์ฯ ก็จำเป็นต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยจัดทำโครงการเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาเงินอุดหนุน เพื่อให้ความเห็นชอบแล้วนำเสนอต่อสภากรุงเทพฯ เพื่อบัญญัติเป็นงบประจำปีต่อไป

ผู้อำนวยการหอศิลป์ทิ้งท้ายในงานแถลงข่าวขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนให้เข้ามาใช้บริการหอศิลปและวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือร่วมแชร์#saveyourbacc และถ้าต้องการบริจาคเงินสมทบทุนก็สามารถบริจาคได้โดยตรงที่กล่องรับบริจาคบริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ชั้น 5 หรือ โอนเข้า บัญชีมูลนิธิหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ธนาคารกรุงไทย สาขา ศาลาว่าการกทม. บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 088–0–022930

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา