ใหญ่ขึ้นอีก! บ้านหลังใหม่ของ Le Cordon Bleu บนเซ็นทรัลเวิร์ลที่มาพร้อมวิว 360 องศา

เราเชื่อว่าชื่อของ Le Cordon Bleu (เลอ กอร์ดอง เบลอ) น่าจะอยู่อันดับต้นๆ ที่ทุกคนนึกถึงในกลุ่มคนรักการทำอาหาร ด้วยความน่าเชื่อถือในมาตรฐานหลักสูตรสไตล์ฝรั่งเศส รวมถึงรูปแบบการเรียนที่เน้นการปฏิบัติจริงจนทำให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจาก เลอ กอร์ดอง เบลอ เป็นที่ยอมรับในวงการอาหาร โรงแรม และการบริการอย่างต่อเนื่อง ภายใต้วิสัยทัศน์แบบฉบับฝรั่งเศส "L 'Art de Vivre" หรือสุนทรียแห่งการใช้ชีวิตที่แสนประณีต

โดยหลังจากที่โรงแรมดุสิตธานีต้องปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลานาน เลอ กอร์ดอง เบลอ ก็ได้ย้ายมาปักหลักอยู่ที่บ้านหลังใหม่บนอาคารเซ็นทาวเวอร์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 17-19 พื้นที่รวมกว่า 3,000 ตารางเมตร ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมราว 1,000 ตารางเมตร กับงบลงทุนถึง 300 ล้านบาท ทำให้สามารถรองรับนักเรียนในหลักสูตรหลักของโรงเรียนได้เพิ่มขึ้นประมาณ 600 คนต่อปี

ข้อดีของการย้ายมาอยู่ที่เซ็นทรัลเวิร์ลคือสามารถชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของกรุงเทพฯ แบบ 360 องศาในขณะที่ทำอาหารไปด้วยได้ ในขณะที่การตกแต่งโรงเรียน การวางแผนผังห้องเรียน ห้องปฏิบัติการครัว และอุปกรณ์อันทันสมัย ยังจัดเต็มให้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับทุกคนได้อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนทุกคนได้เริ่มต้นเส้นทางในอาชีพทำอาหารด้วยประสบการณ์ที่ดีที่สุด (แลกกับค่าเรียนที่เพิ่มขึ้นราวๆ 30,000 บาท...ก็คุ้มอยู่นะ)

 

Le Cordon Bleu Dusit Culinary School

Le Cordon Bleu Dusit Culinary School

 

ไม่เพียงแต่ขยายพื้นที่เท่านั้น เลอ กอร์ดอง เบลอ ยังเปิดตัวหลักสูตรใหม่ การจัดการด้านอาหารขั้นสูง (The Advanced Culinary Management Programme) ซึ่งจะสอนทักษะการเป็นผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการทำอาหารให้นักเรียนมีทักษะที่จำเป็นในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบสนองเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการมีธุรกิจร้านอาหารเป็นของตนเอง รวมทั้งเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเครือที่มีการพัฒนาหลักสูตรเฉพาะของประเทศนั้นๆ ด้วยการเปิดสอน หลักสูตรวิชาการครัวไทย (The Professional Thai Cuisine) ที่นำเอาสูตรอาหารไทยแท้ๆ มาสอนร่วมกับหลักสูตรพื้นฐานอื่นๆ อาทิ หลักสูตรการประกอบอาหาร หลักสูตรการประกอบขนมอบ และการทำขนมปัง

นอกเหนือจากนั้นยังมีหลักสูตรอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน อาทิ หลักสูตรความรู้เกี่ยวกับไวน์ (Wine Studies Course) ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม วิธีการดื่มไวน์ และสุนทรียศาสตร์ในการดื่มไวน์คู่กับอาหาร กว่า 60 ชนิด ทั้งจากแหล่งผลิตทั้งเก่าและใหม่ หรือ ศิลปะการทำฟองนมลาเต้อาร์ต (Latte Art) ที่ครอบคลุมตั้งแต่ความรู้พื้นฐานทางเคมีของน้ำนมที่มีผลต่อการทำฟองนม เทคนิคการทำฟองนม ลาเต้อาร์ต และการเทฟองนมเป็นลวดลายต่าง ๆ

ค่าใช้จ่ายในการเรียนก็เริ่มต้นอยู่ที่ราวๆ 8,500 บาทเท่านั้นนนน ใครสนใจก็สามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์