ไม่มีคำว่า ‘ล็อกดาวน์’ ศบค. จัด กทม.เป็นพื้นที่ควบคุม สั่งงดกิจกรรมสาธารณะหากไม่จำกัดคน

วันนี้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบค.)​ ชุดใหญ่ มีมติ ไม่มีการล็อกดาวน์ สำหรับการระบาดระลอกใหม่ แต่จะใช้มาตรการแบ่งพื้นที่่ควบคุมตามสถานการณ์ โดยแบ่งเป็น 4 พื้นที่ ดังนี้

พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) = พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 พื้นที่ย่อย ได้แก่ สมุทรสาคร และให้ใช้มาตรการควบคุมดังนี้

• เร่งรัดการตรวจหาผู้ติดเชื้อในพื้นที่เสี่ยง
• แยกกักผู้ติดเชื้อด้วยการจัดตั้ง รพ.สนาม ตามขีดความสามารถ
• พิจารณาเยียวยาและดูแลความเป็นอยู่ของครอบครัวของผู้ติดเชื้อตามขีดความสามารถ
• เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรค เช่น สวมหน้ากากอนามัย 100 % เน้นการทำความสะอาด (มือ, สถานที่หรืออุปกรณ์ที่สัมผัสบ่อยๆ) หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก และติดตั้งแอปพลิเคชันหมอชนะ เพิ่มเติมจากการใช้ แอปพิลเคชันไทยชนะ
• จำกัดเวลาเปิด - ปิดสถานประกอบการที่มีความจำเป็น
• ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
• ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า - ออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด
• ควบคุมการเข้า - ออกของยานพาหนะ และคนไทยโดยมิให้กระทบต่อการค้าและการอุตสาหกรรมมากเกินความจำเป็น
• ตั้งด่านตรวจคัดกรอง จุดสกัด และสายตรวจ เพื่อให้มีการควบคุมและจำกัดการเข้า - ออกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
• ใช้มาตรการ Work from Home อย่างเต็มขีดความสามารถ
• สถานศึกษาปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์
• งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากทุกรูปแบบ
• ทุกสถานประกอบการและโรงงานที่ยังเปิดดำเนินการ แต่ให้เน้นมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเต็มขีดความสามารถ หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่ ศบค.กำหนด ให้พิจารณาหยุดการดำเนินการ
• การประมงสมารถดำเนินการได้ แต่ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด -19 ก่อนการออกเรือ

พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) = พื้นที่ที่ติดกับพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 10 รายและมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ได้แก่ กรุงเทพ สมุทรสงคราม ราชบุรี นครปฐม และให้ใช้มาตรการควบคุมดังนี้

• พิจารณาการตรวจหาเชื้อชิงรุกในพื้นที่
• เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19
• พิจารณาจำกัดเวลาเปิด - ปิดสถานประกอบการที่มีความจำเป็นตามความเหมาะสม
• พิจารณาปิดหรือจำกัดเวลาเปิด - ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด
• ห้ามแรงงานต่างด้าวเคลื่อนย้ายเข้า - ออกจากพื้นที่
• ตั้งด่านคัดกรองกับจังหวัดพื้นที่สีแดงตามความเหมาะสม
• ใช้มาตรการ Work from Home สำหรับบุคคลที่มาจากพื้นที่สีแดง
• ให้สถานศึกษาพิจารณาหยุดการเรียนการสอน หรือปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์ ตามสถานการณ์ในพื้นที่
• หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีกรรวมคนจำนวนมาก
• สถานประกอบการและโรงงานที่ยังคงเปิดดำเนินการ ให้เน้นมาตรการป้องกันโควิด-19 หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามที่ ศบค.กำหนด ให้พิจารณาหยุดการดำเนินการ
• เฝ้าระวังการลักลอบเข้าพื้นที่ของแรงงานต่างด้าวที่มาจากพื้นที่สีแดง หากตรวจพบให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ

พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) = พื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 ราย แต่มีแนวโน้มสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ได้แก่ สระบุรี สมุทรปราการ สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี อุตรดิตถ์ ฉะเชิงเทรา กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ อยุธยา ภูเก็ต เพชรบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี กระบี่ ขอนแก่น ชัยนาท อุดรธานี พิจิตร นครศรี สุราษฏ์ธานี ประจวบ ชัยภูมิ นครสวรรค์ อ่างทอง ให้ใช้มาตรการควบคุมดังนี้

• เร่งรัดการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่
• เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19
• พิจารณาปิดหรือจำกัดเวลาเปิด - ปิดสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดตามความเหมาะสม
• ห้ามแรงงานต่งด้าวเคลื่อนย้ายเข้า - ออกจากพื้นที่
• พิจารณาใช้มาตรการ Work from Home ตามความเหมาะสม
• พิจารณาใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของระบบตามความเหมาะสม
• หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมากทุกรูปแบบ

พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) = พื้นที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และยังไม่มีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีผู้ติดเชื้อ ให้ใช้มาตรการควบคุมดังนี้

• ให้มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อชิงรุกในพื้นที่
• เน้นย้ำมาตรการป้องกันโรคโควิด-19

สำหรับการจัดกิจกรรมฉลองปีใหม่ 2564 และการจัดกิจกรรมงานวันเด็กต้องดำเนินการดังนี้

• พื้นที่สีแดง ให้งดจัดกิจกรรมฉลองทุกชนิด เว้นแต่จัดกิจกรรมแบบออนไลน์
• พื้นที่สีส้ม งดการจัดกิจกรรมที่เป็นสาธารณะ แต่ผ่อนผันให้จัดกิจกรรมที่จำกัดผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือกิจกรรมที่มีเฉพาะผู้คุ้นเคยได้ หรือพิจารณาจัดกิจกรรมแบบออนไลน์
• พื้นที่สีเหลืองและพื้นที่สีเขียว สามารถจัดกิจกรรมได้ แต่ต้องลดขนาดลงกว่าปกติ มีมาตรการลดความหนาแน่นของผู้ร่วมกิจกรรม และมีมาตรการควบคุมไม่ให้เกิดความคับคั่ง ทั้งนี้สามารถหารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อของ กทม.ได้