รวมร้านชิโอะปังในกรุงเทพฯ เช็กลิสต์ขนมปังเกลือฉ่ำเนยสไตล์ญี่ปุ่น

ร้านเบเกอรีขนาดกะทัดรัดที่ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของโครงการดาดฟ้าลาซาล เพียงแค่เปิดประตูก็ได้กลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วร้าน หลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของร้านนี้มาไม่น้อย เพราะที่นี่เสิร์ฟเบเกอรีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเพรตเซล บัน เบเกิล ขนมปังกระเทียมครีมชีส และชิโอะปังที่ขายดีมาตั้งแต่ก่อนกระแสจะมาแรงในช่วงนี้ ซึ่งทางร้านนำเสนอชิโอะปังทั้งหมด 4 รูปแบบ หนึ่งคือ Shio Pan แบบคลาสสิก แป้งด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่มหนึบ ได้รสชาติเค็มจากเนยและเกลือแบบกำลังพอดี / Shio Strawberry ชิโอะปังไส้ครีมและสตรอว์เบอร์รีสด / Shio Taro Butter ชิโอะปังไส้เผือกและก้อนเนยโตๆ 2 ก้อน และสุดท้ายคือ Shio Ham Cheese ชิโอะปังไส้แฮมชีส เหมาะสำหรับทานมื้อเช้าคู่กับกาแฟร้อนๆ สักแก้ว หากใครอยากลิ้มลองความอร่อยแบบโฮมเมดของร้านนี้ แนะนำให้เช็กรอบอบขนมกับทางร้านก่อน จะได้ชัวร์ว่าไปถึงแล้วยังมีเมนูในใจอยู่ในถาดขนม หรือจะสั่งเดลิเวอร์รีก็ได้เช่นกัน ที่ โครงการดาดฟ้าลาซาล ชั้น 2 ราคาเริ่มต้น 65 บาท เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 - 19.00 น.

หากให้แนะนำร้านที่สั่งมาแล้วมั่นใจได้ว่าอร่อยทั้งขนมและกาแฟ เราขอแนะนำคาเฟ่สไตล์โฮมมี่ บรรยากาศอบอุ่นในย่านเอกมัย เพราะที่นี่มีทั้งเบเกอรีที่ได้แรงบันดาลใจจากขนมญี่ปุ่น และกาแฟรสชาติดีให้เลือกหลากหลายเมนู โดยก่อนหน้านี้ ทางร้านมีเมนูซิกเนเจอร์เป็นเพรตเซลครีมชีสต้นหอม ที่เสิร์ฟมาในรูปแบบคล้ายเบเกิล แต่ตอนนี้ชิโอะปังกลายเป็นเมนูขึ้นแท่นไปแล้ว ด้วยผิวสัมผัสด้านนอกกรอบ ด้านในชุ่มฉ่ำไปด้วยเนย และโรยเกลือมาด้านบนตามสไตล์ชิโอะปัง บอกเลยว่าหากได้ชิมคำแรกแล้ว จะอยากทานจนหมดชิ้น อีกหนึ่งความพิเศษคือ สั่งเดลิเวอร์รีมาแล้วยังคงความกรอบไว้ได้เหมือนทานที่ร้าน ซึ่งนอกจากชิโอะปังแบบดั้งเดิมแล้ว ทางร้านยังมี Black Truffle Shio Pan / 4 Cheese Honey Shio Pan และ Hokkaido Milk Cream Shio Pan ให้เลือกทานอีกด้วย และหากอยากเพิ่มคอมโบความอร่อย ต้องไม่พลาดสั่งกาแฟคั่วกลาง เมล็ด Ethiopia-Blueberry มาทานคู่กับขนมอบหอมๆ ที่ MiKA Bakehouse & Coffee ซอยสุขุมวิท 61 ราคาเริ่มต้น 89 บาท เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 - 17.30 น.

ร้านกาแฟและชิโอะปังที่ไม่มีหน้าร้าน แต่กลายเป็นที่นิยมของชาวออฟฟิศ เพราะราคาย่อมเยา รสชาติดี แถมยังสั่งเดลิเวอร์รีได้แบบสะดวกมากๆ โดยทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ มัตฉะ ช็อกโกแลต รวมถึงชาและโซดารสชาติต่างๆ ส่วนขนมของร้านนี้มีให้เลือกไม่เยอะมากนัก แต่รับประกันได้ว่าอร่อยแน่นอน มีทั้งครัวซองต์ คุกกี้ไวต์ช็อกโกแลตแครนเบอร์รี คุกกี้ช็อกโกแลตชิปส์ และชิโอะปัง ขนมปังเกลือรสชาติดั้งเดิมที่ทางร้านนำเสนอความเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่สามารถทานได้ทุกวัน ด้วยผิวด้านนอกที่มีความกรอบเล็กน้อย กัดแล้วได้สัมผัสนุ่มหนึบ ปริมาณเนยด้านในไม่เยอะและไม่น้อยจนเกินไป แถมยังอุ่นร้อนมาให้ทุกออเดอร์ จนใครหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทานชิ้นเดียวไม่เคยพอ ที่ Brew & Co (ในแอปเดลิเวอร์รี) ซอยพหลโยธิน 24 ราคา 65 บาท เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00 - 20.00 น.

จากร้านกาแฟที่จังหวัดตาก สู่ร้านขนมอบชื่อดังในกรุงเทพฯ เราเชื่อว่าหลายคนคนน่าจะเคยได้ยินชื่อและได้ชิมครัวซองต์ของร้านนี้ในช่วง Croissant Fever กันมาแล้ว และไม่ว่าจะมีกระแสขนมใดๆ ก็ตาม ร้านเถียงนาก็ทำออกมาได้อร่อยถูกปาก จนขึ้นแท่นร้านขนมสุดโปรดของเหล่าคนรักขนมหวาน ไม่ว่าจะครัวซองต์ ทาร์ตไข่ คาเนเล่ มาจนถึงกระแสล่าสุดอย่างชิโอะปัง ทางร้านจึงนำเมนูธรรมดาๆ มาทำให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้เลอแวง (Levain) หรือยีสต์ธรรมชาติสำหรับทำขนมปังซาวร์โด ซึ่งมีเนื้อสัมผัสและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ จนได้ออกมาเป็น Levain Shio Pan หรือ Pain au sel  ที่ชิ้นค่อนข้างใหญ่ ฐานด้านล่างกรอบ เนื้อด้านในนุ่มฟู กลิ่นหอมของเนยตีฟุ้งขึ้นทุกคำที่กัด แต่ทานจนหมดชิ้นก็ไม่เลี่ยน แถมยังโรยเกลือผลึกใหญ่มาด้านบนแบบไม่ให้เสียชื่อขนมปังเกลือเลยทีเดียว ที่ Tiengna Viennoiserie ซอยสีลม 9 ราคา 95 บาท เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 07.00 - 19.00 น.

อีกหนึ่งร้านที่มีตัวชูโรงเป็นครัวซองต์ แต่ยังทำชิโอะปังออกมาได้ดีไม่แพ้กัน กัปตันสควิดเป็นร้านครัวซองต์ในย่านศาลาแดง ซึ่งถือเป็นเพื่อนบ้านของชาว Time Out ใครที่เดินผ่านในช่วงเช้าก็มักจะได้กลิ่นหอมของเนย จนต้องเดินกลับมาซื้อติดมือไปสักชิ้นสองชิ้น และสิ่งที่ทำให้หลายคนประทับใจคือ ทางร้านมีทั้งครัวซองต์ขนาดปกติและครัวซองต์ไซซ์จิ๋ว ทำให้เราสามารถทานทั้งไส้คาวและไส้หวาน ที่มีให้เลือกหลากหลายรสชาติได้ในครั้งเดียว และพอถึงคราวของชิโอะปัง หรือขนมปังเกลือที่กำลังฮิตอยู่ตอนนี้ ทางร้านก็เลือกใช้เนยสดจากฝรั่งเศส และแป้งสูตรเฉพาะที่ทำให้ผิวด้านนอกกรอบกำลังดี ด้านในนุ่มหนึบ ได้รสชาติเค็มๆ นัวๆ ในราคาสุดย่อมเยา จนเราต้องสั่งมากกว่า 1 ชิ้น ส่วนใครอยากสั่งไปแชร์กับเพื่อนๆ ก็สามารถสั่งเซต 4 ชิ้นที่ทางร้านเตรียมไว้ได้เลย ที่ Captain Squid ซอยศาลาแดง 1 ราคา 59 บาท เปิดให้บริการวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 07.30 - 18.00 น.

ร้านเบเกอรีญี่ปุ่นขนาดเล็กในซอยสุขุมวิท 36 อบขนมสดใหม่ทุกวันโดยเชฟชาวโอซาก้า ที่มาพร้อมประสบการณ์ทำขนมกว่า 35 ปี โดยเชฟใช้แป้งญี่ปุ่นและเทคนิคนวดแป้งด้วยมือในการทำขนมทุกชิ้น เราจึงได้ทานรสชาติและเนื้อสัมผัสแบบโฮมเมด โดยเฉพาะชิโอะปัง หรือ Salt Butter Bread ที่มีสัมผัสเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ ฐานกรอบ ได้รสชาติเค็มอ่อนๆ จากเกลือ และความหอมมันจากเนยด้านในขนมปัง แม้จะวางทิ้งไว้ 2 ชั่วโมงก็ยังอร่อย เมื่อนำไปอุ่นใหม่ก็เหมือนได้ทานสดๆ ที่ร้าน หากใครอยากลองชิม เราแนะนำให้ดูรอบอบขนมของทางร้านให้ดี เพราะมีลูกค้ารอซื้อทั้งหน้าร้านและเดลิเวอร์รีค่อนข้างเยอะ และแน่นอนว่าเมนูอื่นๆ ก็เป็นที่นิยมและหมดเร็วไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น บันมันฝรั่งทรัฟเฟิลชีส บันวอลนัตครีมชีส ขนมปังเมนไทโกะ ขนมปังไส้แกงกะหรี่ โดนัทไส้ถั่วแดงกวน และอีกกว่า 20 เมนู ที่ Foobreca ซอยนภาศัพท์ สุขุมวิท 36 ราคา 65 บาท เปิดให้บริการวันพฤหัสบดี - อังคาร เวลา 09.30 - 18.30 น.

ชิโอะปังที่ฉ่ำเนยที่สุดของลิสต์นี้ อยู่ในคาเฟ่ย่านภาษีเจริญที่ตกแต่งโทนสีน้ำตาลสไตล์เกาหลี ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่สอดแทรกความโมเดิร์นเข้าไปพร้อมกัน แถมยังมีคาแรกเตอร์แมวดำตัวยักษ์ต้อนรับอยู่ที่ด้านบนประตู ซึ่งใครที่ได้ลอง ต่างก็ยกให้ชิโอะปังของร้านนี้ติดท็อปไปตามกัน เพราะกัดแล้วมีเนยเหลวไหลออกมา เหมาะสำหรับคนที่ชอบกลิ่นและรสชาติเนยแบบเต็มคำ เนื้อด้านในนุ่มฟู ทานแล้วได้ความหนุบหนับ ส่วนผิวด้านนอกก็กรอบกำลังดี นอกจากนี้ยังมีให้เลือกถึง 4 รสชาติ ทั้ง Shio Pan แบบคลาสสิก / Shio Choco Pan / Shio Spinach Cheese และรสชาติที่มาแรงที่สุดอย่าง Shio Cranberry Cheese โดยทางร้านเปิดรอบเสิร์ฟชิโอะปังหน้าร้านและเดลิเวอร์รีคนละเวลา เพื่อกระจายความอร่อยอย่างทั่วถึง ที่ Lie Awake ภาษีเจริญ ราคา 70 บาท เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 07.00 - 19.00 น.

หากใครทานชิโอะปังแบบคลาสสิกมาหลายร้าน แล้วอยากลองรสชาติใหม่ๆ ในร้านเดียว ต้องมาที่คาเฟ่ในย่านพระราม 9 ที่รีโนเวตบ้านเก่าให้กลายเป็นร้านกาแฟและขนมสุดน่ารัก ซึ่งชิโอะปังของร้านนี้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบรสชาติเค็มกลางๆ นัวกำลังพอดี ไม่เค็มหรือฉ่ำเนยจนเกินไป แถมยังมีรสชาติให้เลือกค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น Original Shio Pan / Coffee Crust Shio Pan / Double Chocolate Shio Pan / Ang Butter Shio Pan / Charcoal 4 Cheese with Honey และ Milk Cream Shio Pan ที่จับคู่ความหวานของครีมนมและความเค็มของชิโอะปังให้เข้ากันอย่างลงตัว และเราแนะนำให้ไปทานที่ร้านตั้งแต่ช่วงเช้า เพราะทางร้านจะอุ่นร้อนให้ทุกออเดอร์ แถมยังได้กลิ่นหอมเนยจากเตาที่อบกันแบบสดใหม่ทุกวันจากด้านหลังร้านอีกด้วย ที่ August Bakes BKK พระราม 9 ซอย 43 ราคา 75 บาท เปิดให้บริการวันพฤหัสบดี - จันทร์ เวลา 09.00 - 17.00 น.

คาเฟ่ขนมสไตล์ญี่ปุ่นที่ใครหลายคนเคยติดใจรสชาติอร่อยแบบโฮมเมดจากสาขาเอกมัย ล่าสุดที่สาขาใหม่อย่างทรงวาดก็กำลังเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะชิโอะปังที่ทางร้านคิดค้นรสชาติใหม่ๆ ออกมาให้แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งนอกจากชิโอะปังรสดั้งเดิมที่ใช้เนื้อขนมปังแบบ hybrid sourdough คู่กับเนย AOP และเนย Hokkaido แล้ว ยังมีรสชาติพิเศษอย่าง Uji Matcha Cream Shio Pan / Earl Grey Milk Jam Shio Pan และ Chocolate Dirty Shio Pan ให้ลองกันอีกด้วย และที่พิเศษกว่าร้านอื่นคือ ทุกเมนูขนมปังในร้านสามารถทานคู่กับเครื่องเคียงโฮมเมดสูตรเฉพาะของ Wabi’s ได้อีกด้วย ซึ่งมีทั้งเนย ครีมชีส แยม และดิป เราแนะนำให้สั่งชิโอะปังมาทานคู่กับแยมราสป์เบอร์รีพิสตาชิโอหรือครีมชีสบลูเบอร์รี ส่วนใครชอบทานแบบคาวต้องห้ามพลาดดิปรส Tuna Melt ที่ช่วยเพิ่มความอร่อยมากยิ่งขึ้น ที่ Wabi’s สาขาทรงวาด ราคา 80 บาท เปิดให้บริการทุกวัน เวลา เที่ยงวัน - 18.00 น.

ร้านบรันช์และคาเฟ่ในซอยลาดพร้าว 18 ที่มีขนมให้เลือกแบบละลานตา แน่นอนว่าร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องเบเกอรีก็ต้องทำชิโอะปังออกมาได้ดีอยู่แล้ว ซึ่งนอกจากชิโอะปังรสดั้งเดิมที่เสิร์ฟมาแบบชิ้นใหญ่ ฐานกรอบ เนื้อด้านในนุ่มฟูและฉ่ำเนยกำลังพอดี ทางร้านยังมีไส้และรสชาติพิเศษที่ไม่เหมือนร้านอื่นให้ลองกันอีกด้วย เช่น Eggmayo Shio Pan / Truffle Cheese Shio Pan และ Garlic Bacon Cheese Shio Pan ยิ่งได้ทานตอนอุ่นร้อนมาใหม่ๆ ก็จะยิ่งอร่อยมากขึ้น สำหรับสาขานี้ ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาวและมาพร้อมพื้นที่สุดกว้าง สามารถนั่งทานขนมและกาแฟแบบชิลๆ หรือจะมานั่งทำงานก็ได้เช่นกัน แต่รับรองว่านั่งไปเรื่อยๆ แล้วจะได้สั่งขนมที่อบสดใหม่ตลอดวันกันแน่นอน ที่ Butter Bakery ลาดพร้าว 18 ราคา 80 บาท เปิดให้บริการวันพุธ - จันทร์ เวลา 10.30 - 21.00 น.