Araksa Tea Room

  • Restaurants
  • เจริญกรุง
  1.  Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
    Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
  2.  Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
    Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
  3.  Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
    Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
  4.  Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
    Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
  5.  Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
    Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
  6.  Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
    Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
  7.  Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
    Photo: Tanisorn Vongsoontorn l Araksa Tea Room
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

ใครเคยขึ้นเหนืออาจพอเคยได้ยินชื่อของไร่ชาแห่งนี้ ที่เกิดขึ้นจากการต่อยอดธุรกิจการท่องเที่ยวให้มีความยั่งยืน และตอบแทนทรัพยากรทั้งธรรมชาติและผู้คนที่อยู่เคียงข้างกันมา ไร่ชาบริเวณอำเภอแม่แตง จึงเป็นเหมือนสถานที่ให้ทั้งชาวบ้านชาวเขา ได้ฝึกวิชาสร้างตัวนำเสนอแก่นักท่องเที่ยวได้ซึมซับและเป็นส่วนหนึ่งวงจรเพื่อความยั่งยืน
.
การเดินทางลงมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ จึงเหมือนการสานต่อให้คนกรุงได้สัมผัสรสชาติและวิถีแบบฉบับของชาวไร่กันแบบถึงที่ นำเสนอแนวคิดไลฟสไตล์เพื่อความยั่งยืนที่ครบและตอบโจทย์ทุกสิ่งอย่างกลมกล่อมด้วยชาคุณภาพกว่า 20 ชนิด เป็นจุดกำเนิดชวนให้มานั่งนิ่งๆ ปล่อยใจแบบไม่ต้องเร่งรีบในร้านสวยแบบสงบๆ ที่ตั้งอยู่ในอาคารเก่าย่านเจริญกรุง
.
ด้านในจะเจอกับความอบอุ่นแบบโฮมมี่ ด้วยการตกแต่งในโทนสีธรรมชาติจากดินที่เอามาฉาบในโครงสร้างอาคาร จนได้สีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และหยิบยกกลิ่นอายบรรยากาศของทางเหนือทั้งหมดมาไว้ ด้วยวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ไม้รีไซเคิล แทรกสีสันสดๆ จากงานศิลปะแบบทางเหนือและผ้าที่ทอโดยงานฝีมือชาวม้ง
.
ความพิเศษของสาขากรุงเทพฯ นอกจากผลิตภัณฑ์ชาทุกชนิดที่มีให้เลือกสั่งกันครบทุกตัวเด่น ทั้งแบบร้อนและเย็นแล้ว (สั่งมาแพร์ริ่งกับทุกอย่างในร้านแล้วเหมาะมากด้วยนะ) ยังมีเมนูอาหารแบบเดียวกับที่เสิร์ฟที่เชียงใหม่สไตล์ “Slow Food” โดยเชฟเยา ที่ดูแลเรื่องอาหารทั้งของไร่ชาที่เชียงใหม่และที่นี่ อาหารของเชฟเยาจะเน้นทุุกอย่างมาจากธรรมชาติ ใช้วัตถุดิบแบบ Single Origin ส่งตรงจากชาวบ้านทั่วประเทศ ทำให้อาหารมีตั้งแต่เหนือจรดใต้เลยทีเดียว
.
พร้อมทั้งไฮไลต์อย่าง อาฟเตอร์นูนที ที่ทางร้านทำเองทั้งหมด จากการเปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่สนใจได้มาเข้าแคมป์และเทรนฝีมือสร้างอาชีพโดยเชฟฝน ผู้อยู่เบื้องหลังเหล่าเบเกอรี่และขนมหวานที่เน้นการใช้ผลไม้ไทยและรสชาติแบบไทยๆ ผสมผสานขนมหน้าตาฝรั่งทั้งหมด เติมทักษะงานคราฟต์ในสิ่งที่พวกเขาทำ โดยเฉพาะกับสโคนที่ส่วนใหญ่กินคำสองคำก็อิ่มแล้วแต่ที่นี่เราเชื่อว่ากินหมดทั้งชิ้นแล้วคุณจะต้องยังนึกถึงแล้วอยากกลับมากินอีก รวมถึงมุมค็อกเทลบาร์ด้วย หยิบเอาเรื่องราวเส้นทางการเดินทางจากเชียงใหม่ลงมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยเอกลักษณ์และกลิ่นอายของจังหวัดทางผ่านต่างๆ มาอยู่ในแก้วที่เบสด้วยแอลกอฮอล์และชาเป็นหลัก
.
เราเริ่มลองชิมเมนูแนะนำของร้าน ‘ยำใบชาทอด’ (280 บาท) ใบชาจากไร่ชุบแป้งเท้ายายม่อม ทอดกรอบๆ ราดน้ำยำรสเปรี้ยวหวานแทรกด้วยไก่สับแบบนุ่มๆ กินเพลินมากจานนี้ ‘ข้าวยำ’ (240 บาท) ข้าวมันหุงด้วยกะทิถูกใจคนชอบผักแน่นอนเพราะที่นี่ใส่มาครบทุกชนิดหลากเท็กซ์เจอร์แถมสีสวยด้วยโดยเฉพาะจากดอกดาหลันสีชมพูสด ‘กุ้งผัดพริกเกลือ’ (440 บาท) กุ้งสดๆ เนื้อเด้งขนาดกำลังดีทั้งกุ้งลายเสือและกุ้งแชบ๊วย ผัดมากับกระเทียมและพริกเพิ่มความหอมด้วยตะไคร้ซอย
.
ที่เราถูกใจกันเป็นพิเศษต้องยกให้ ‘ห่อหมกปลาปลาอินทรี’ (340 บาท) กับความกลมกล่อมของพริกแกงใต้ เผ็ดร้อนแบบนวลๆ และความหอมจากการเอาไปย่าง และ ‘แกงคั่วเนื้อใบโกสน’ (440 บาท) รสชาติแกงแบบบ้านๆ สไตล์เหนือแต่ชวนให้ตักกินต่อเรื่อยๆ เพราะเนื้อจะมีความสู้ฟันเคี้ยวแกล้มกับรสเปรี้ยว เค็ม และเผ็ดนิดๆ ของน้ำแกงแบบคลุกคลิก
.
ค็อกเทลเราลอง ‘Chiang Mai’ (360 บาท) เบสด้วยวอดก้าและชาเขียว แทรกรสเผ็ดจากพริกเขียวชวนนึกถึงน้ำพริกหนุ่ม ‘Ayutthaya’ (375 บาท) วอดก้าจับคู่กับชาตะไคร่และอัญชัญให้ความสดชื่นแถมแปะแผ่นทองมาด่านบน และ ‘Bangkok’ (390 บาท) จินอินฟิวส์ด้วยชาเอิร์ลเกรย์ เสริมรสด้วยเลม่อนและบ๊วย ถ้าเลือกไม่ได้เขามี Araksa Cocktail Flight (750 บาท) ให้เลือกค็อกเทล 3 ตัวมาชิมได้
.
มาที่นี่ยังไงก็ครบทุกความชอบ อยากมานั่งดื่มชา กินชนม กินอาหารเที่ยงหรือดินเนอร์ หรือนั่งชิวจิบค็อกเทลยามเย็น ร้านนี้พร้อมเปิดรับทุกคน ทุกวัย และทุกช่วงเวลา
.
Araksa Tea Room ตั้งอยู่ที่เจริญกรุง 38 เปิดให้บริการวันจันทร์ - วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 10.00 - 22.00 น. สำหรับอาฟเตอร์นูนที จะให้บริการเฉพาะวันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 17.30 น. สำรองที่นั่งและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Araksa Tea Room
เขียนโดย
Time Out Bangkok editors

รายละเอียด

ที่อยู่
12 ซอย เจริญกรุง 38
แขวงบางรัก เขตบางรัก
Bangkok
10500
ข้อมูลติดต่อ
ดูเว็บไซต์
064 126 7978
เปิดบริการ
วันจันทร์ - วันอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 10.00 - 22.00 น. สำหรับอาฟเตอร์นูนที จะให้บริการเฉพาะวันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 17.30 น.
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ