BIB - Break in Box

ถ้าเป็นอิซากายะแบบดั้งเดิมเราน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว กับอาหารเน้นกินง่ายๆ แกล้มเครื่องดื่ม พอร์ชั่นไม่ใหญ่มากสั่งมาแชร์ได้หลายเมนู แต่เมื่อความอิซากายะมาเจอกับความชอบทำอาหารแบบเน้นสะใจของ เชฟวิน-นวิน ฌนาภัทรศิริ และกลุ่มเพื่อนผู้ชอบกิน ที่เริ่มต้นจากการออกร้านเทศกาลอาหารสู่การเปิดหน้าร้านจริงจัง ทำให้เมนูของที่นี่จะกินแบบกับแกล้มหรือกินแบบจริงจังก็ได้

ด้วยการตกแต่งที่เน้นใช้วัสดุไม้ ตัดสลับกับโทนสีน้ำเงินและเหลือง ให้อารมณ์ความโมเดิร์นญี่ปุ่น แอบเห็นดีเทลเล็กๆ ว่ามีปลั๊กอยู่ใต้ที่นั่งโซนโซฟาด้วย จะมานั่งกินข้าวช่วงพักกลางวันก็พอเหมาะ หรือจะแวะมาตอนเย็นหลังเลิกงาน เปิดไวน์ สั่งสาเกมาแกล้มอาหารก็เข้าท่าไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล

สำหรับลูกผสมของอาหารที่เล่าไปตอนแรก คือการหยิบเอาทุกความชอบจากเมนูโปรดมาเติมรส เปลี่ยนวัตถุดิบ เกิดเป็นหน้าตาใหม่ที่สวยเก๋และอร่อยกว่าเดิม แต่ยังคงชวนให้นึกถึงความสุขจากการได้กินอาหารคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก ภายในพื้นที่ร้านขนาดไม่ใหญ่มากใจกลางย่านออฟฟิศ

เริ่มต้นด้วย ‘ข้าวผัดพริกลาบเชียงใหม่หมูสับ แคบหมูโฮมเมด และมะเขือเทศดองน้ำปลา’ (220 บาท) ข้าวร่วนๆ กับความเผ็ดร้อนสไตล์ลาบคั่วทางเหนือ แกล้มกับแคบหมูโฮมเมดจากธุรกิจทางบ้านของเชฟ ทีเด็ดในจานคือมะเชือเทศดองน้ำปลา เชฟขอลองเล่นกับอาหารสักหน่อย เอามะเขือเทศไปดองในน้ำปลาเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าว ทั้งความเค็ม หวาน และเปรี้ยว เลยซึมอยู่ในมะเขือเทศลูกเล็กๆ แต่แน่นด้วยรสชาติ

‘ข้าวซอยไก่โลลี่ป๊อบ’ (220 บาท) เมนูใหม่ของร้าน ความนัวเข้มข้นของน้ำข้าวซอยที่เกาะเส้นพาสต้าแบนๆ แบบเฟตตูชินี่ กินแกล้มกับแองเจิลแฮร์ทอดกรอบ ผักดองโฮมเมด และไก่ย่างเลาะกระดูกหมักพริกแกงข้าวซอย เป็นเมนูฟิวชั่นที่กินเพลินดี

ตกช่วงเย็น (หรือจริงๆ จะสั่งกลางวันก็ได้) สำหรับเมนูแบบอิซากายะลูกครึ่งไทยเราว่าน่าสั่งหลายเมนูเลยอย่าง ‘แกงฮังเลทอด’ (200 บาท) โคโรเกะสไตล์ญี่ปุ่นด้านนอกได้ความกรอบ ด้านในมีความแน่นของหมูฝอยและมันฝรั่ง ราดซอสแกงฮังเลด้านบน ‘พริกยัดไส้หมู’ (200 บาท) ความหวาน เผ็ด หอม ของทั้งพริกและไส้หมูนุ่มๆ แทรกด้วยเท็กซ์เจอร์กรอบๆ ของไข่ฟู หรือ ‘ปีกไก่ยัดไส้ข้าวหมก’ (240 บาท) ปกติอาจจะเห็นเป็นข้าวเหนียว พอเป็นข้าวหมกก็เลยได้ความหอมของเครื่องเทศเพิ่มเข้ามา กินคู่กับน้ำจิ้มไก่ผสมมายองเนส และผักดองโฮมเมดของร้าน

ถึงแม้ขนาดร้านจะไม่ได้ใหญ่มากและครัวก็มีขนาดกะทัดรัด แต่พอจานย่างถ่านยกออกมาเสิร์ฟ กลับมีคาแร็กเตอร์กลิ่นหอมๆ เหมือนผ่านการย่างควันโขมงมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ‘พับในโคขุนย่าง ซอสพริกยักษ์แดงย่าง ผักย่าง’ (480 บาท) เนื้อโคขุนกริลแบบมีเดียมแรร์ เนื้ออาจจะไม่ได้นุ่มจนละลายมีความเหนียวนิดๆ พอให้เคี้ยว เข้ากับรสเผ็ดของซอสชิมิชูรี่หอมๆ ตัดเลี่ยน

‘หมึกย่างขมิ้นเขาสวนกู ยำต้มหอม’ (380 บาท) เชฟขอลองปรับสูตรหมึกย่างในแบบที่ตัวเองชอบด้วยการใช้ขมิ้น ย่างสุกกำลังดีจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดผสมครีมให้รสแซ่บแบบนวล ตัดด้วยยำต้มหอมโรยพริกเกาหลี เป็นจานฟิวชั่นที่กินแล้วชวนคิดถึงหลายประเทศในคำเดียว และ ‘ลิ้นโคขุนย่าง ไข่แดงเค็ม’ (320 บาท) ลิ้นย่างแบบหนาที่หันมาชิ้นพอดีคำ ทีเด็ดอยู่ที่ไข่แดงเค็มขูดฝอยด้านบน กินแล้วได้เท็กซ์เจอร์เคี้ยวสนุกของลิ้นผสมความนวลของไข่แดง แอบบอกว่าจานนี้เก็บเอาไปผสมกับจานอื่นจะเข้ากันมากเลย

คาแร็กเตอร์ความสนุกและอยากพารสชาติอาหารออกจากกรอบไม่ได้หยุดแค่ที่เมนูของคาว ของหวานที่นี่ก็ทำได้ดีแบบสุดๆ นำทีมด้วย ‘ไอศกรีมกัวคาโมเล่ คอร์น ชิพส์’ (170 บาท) ความมันของอะโวคาโดเป็นพระเอกหลัก แทรกความเปรี้ยวจากมะเขือเทศเชอร์รี่อบแห้ง กินคู่กับชิพส์ยิ่งเข้ากัน ส่วน ‘ไอศกรีมแตงโมซัมเมอร์ปลาแห้ง’ (140 บาท) เท็กซ์เจอร์จะมาเป็นหยาบคล้ายซอร์เบตอร่อยสดชื่นแบบไทยๆ และ ‘ไอศกรีมเฮลซ์บลูบอย โยเกิร์ต สตรอว์เบอร์รี’ (140 บาท) ส่วนผสมของรสชาติคุ้นเคย ที่แอดวานซ์ด้วยแท็กซ์เจอร์หลากหลายแบบกินเพลินว้าวตั้งแต่คำแรก