[title]
หากวันไหนอยากเติมกาแฟดีๆ สักแก้วให้กับตัวเอง แล้วใช้เวลานั่งชิลไปกับบรรยากาศสโลวบาร์ ชมบาริสต้าค่อยๆ กลั่นน้ำกาแฟจากเมล็ดหลากสายพันธุ์ที่เราเลือกเอง พร้อมฟังเสียงดนตรีเพราะๆ จากแผ่นไวนิลที่ดังคลออยู่ในร้าน เราอยากแนะนำให้ทุกคนที่อยากสัมผัสสิ่งเหล่านี้ลองแวะมาที่ Blackhills คาเฟ่เล็กๆ แต่อบอุ่นไปด้วยรสชาติกาแฟและแสงแดด
ร้านเริ่มต้นจากความชอบแคมป์ปิ้งที่ทำให้เจ้าของต้องดริปกาแฟดื่มเองอยู่บ่อยๆ ซึ่งรสชาติกาแฟที่ออกมาก็ดีไม่แพ้กาแฟจากเครื่องเอสเพรสโซ จึงเกิดไอเดียเปิดร้านกาแฟแบบสโลวบาร์ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนได้ลองมาดื่มกาแฟรสชาติสุดคราฟท์แบบ manual brewing
การตกแต่งร้านเน้นความเรียบง่าย มีเคาท์เตอร์บาร์ไม้เป็นพื้นที่โชว์ฝีมือของบาร์ริสต้า ที่จะค่อยๆ บรรเลงรสชาติแต่ละเมนูเครื่องดื่มให้ออกมาดีที่สุด เมนูของร้านมีคอนเซ็ปต์คือ back to basic เป็นเมนูกาแฟที่เรารู้จักกันดี และมีเสิร์ฟทั้งร้อนและเย็น
แก้วแรกที่อยากแนะนำเป็น ลาเต้เย็น (130 บาท) เสิร์ฟกาแฟแยกชั้นกันนม เหมาะสำหรับคนชอบกาแฟดื่มง่าย หรือจะลองเป็น มัทฉะลาเต้เย็น (130) ที่ใช้ชาเขียวออร์แกนิกจากเมืองชิซุโอะกะ รสชาติที่ได้จะเข้มข้น หอมชาเขียว เป็นอีกเมนูที่แนะนำให้ลอง
ส่วนเมล็ดกาแฟที่ร้านมีให้เลือกจากทั้งในและต่างประเทศ สามารถเลือกดื่มได้จากการดริปหรือแอโรเพรส หากใครอยากลองดื่มจากวิธีใหม่ๆ ก็สามารถเลือก การชงแบบโมก้า (+30 บาท) หรือ ไซฟอน (+50 บาท) ได้เช่นกัน เมล็ดกาแฟที่บาริสต้าแนะนำให้ลองจะเป็น Ethiopia Chaka Geisha (300 บาท) เมล็ดกาแฟที่มีความหวานจากผลไม้ หรืออีกตัวท็อปคือ Panama La Esmeralda Geisha Natural Private (700 บาท) กาแฟจากเมล็ดนี้จะมีรสผลไม้จากบลูเบอร์ พีช สัปปะรด พลัม และมะม่วง
ขนมที่ร้านก็รสชาติดีเลยทีเดียว อย่างชิ้นที่เราได้ลองเป็น Custard pan (75 บาท) ขนมปังอุ่นร้อนๆ ไส้คัสตาร์ดหวานกำลังดี แนะนำให้สั่งกินคู่กับกาแฟที่ออกรสเปรี้ยวจะเข้ากันมาก หรืออีกเมนู Carrot cake cream cheese (95 บาท)่ เนื้อสัมผัสเค้กแน่นและไม่แห้งหรือชุ่มฉ่ำเกินไป กินคู่กับเครื่องดื่มก็ดีเช่นกัน
ใครที่แวะมาดื่มกาแฟตอนเช้า นอกจากคนจะไม่พลุกพล่านมากเท่าไหร่แล้ว แสงที่ส่องมาในร้านยังสวยและเหมาะกับการนั่งจิบกาแฟ เพื่อเริ่มต้นวันดีๆ ก่อนถึงเวลาลุกออกไปใช้ชีวิตกันต่อ