Hagu Hagu Yakiniku

  • Restaurants
  • สยาม
  1. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  2. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  3. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  4. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  5. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  6. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  7. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  8. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  9. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  10. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  11. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  12. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  13. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  14. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  15. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
  16. Hagu Hagu Yakiniku
    Tanisorn Vongsoontorn/Time Out Bangkok
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

ถ้าพูดถึงอาหารปิ้งย่าง หลายคนก็จะนึกถึงปิ้งย่างสไตล์เกาหลีแบบที่เห็นในซีรีส์บ่อยๆ เป็นอันดับแรก จนลืมไปแล้วว่า ‘ยากินิกุ (Yakiniku)’ หรือปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นก็น่าสนใจไม่แพ้กัน แถมยังเหมาะกับคนชอบอาหารปิ้งย่างสุดๆ ด้วย อย่างเช่นร้านนี้ Hagu Hagu (ฮากุ ฮากุ) ก็เป็นร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับความพรีเมียมของ ‘เนื้อ’ ที่นำมาใช้ที่สุด (ทั้งหมูและวัว) เพื่อที่จะให้เรากินแล้วได้สัมผัสความดีงามของเนื้อย่างอย่างแท้จริง

ยากินิกุ จะมีความคล้ายกันกับปิ้งย่างสไตล์เกาหลีอยู่หน่อย อย่างเช่นที่ร้านนี้จะมีเครื่องเคียง 5 อย่างที่เสิร์ฟให้คนละชุดไว้กินพร้อมปิ้งย่างเหมือนกัน แต่ความพิเศษที่น่าสนใจกว่าก็คือ น้ำจิ้ม 8 ชนิด ที่ทำให้การกินเนื้อย่างที่ร้านนี้ไม่น่าเบื่อ แถมช่วยชูรสชาติเนื้อให้เด่นขึ้นด้วย โดยเฉพาะน้ำจิ้มรสปลาร้า หรือรสแจ่ว ที่เพิ่มความจัดจ้านให้กินต่อได้เรื่อยๆ ซึ่งทั้งเครื่องเคียงและน้ำจิ้มสามารถเติมได้ตลอดเช่นกัน

บรรยากาศในร้านไม่แออัดเหมือนร้านปิ้งย่างทั่วไป แต่ละโต๊ะถูกกั้นเป็นสัดเป็นส่วน แถมการตกแต่งก็ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในย่านร้านอาหารญี่ปุ่นที่คึกคัก เมนูของที่นี่จะเสิร์ฟเป็น a la carte มีทั้งเนื้อวัว หมู ไก่ ผัก ของกินเล่น รวมถึงเมนูซูชิของ Yuzu Sushi ที่สั่งมากินระหว่างมื้อได้ด้วย

เกรดของเนื้อจะมีให้เลือกตั้งแต่ระดับทั่วไป ไปจนถึงเนื้อวากิว A5 สุดพรีเมียม ถ้าคนไหนมากินด้วยกันหลายคนแนะนำให้สั่งมาช่วยกันลองหลายๆ แบบ อาทิ Premium Japanese Wagyu Slice (349 บาท) เป็นเนื้อวากิวสไลซ์ที่มาพร้อมซอส วิธีย่างที่ร้านแนะนำคือให้ม้วนเป็นแนวยาวก่อนนำไปวางบนเตา ย่างแค่พอเนื้อเปลี่ยนสีก็สามารถกินได้เลย ถ้าลองตัดดูเนื้อตรงกลางจะยังคงแรร์อยู่ ซึ่งกินแล้วจะได้ทั้งความอร่อยของ beef juice และเนื้อสัมผัสของเนื้อวากิวนุ่มๆ

เพิ่มความพรีเมี่ยมขึ้นมาหน่อยจะเป็น Japanese Wagyu A4 (1,299 บาท) แค่ดูชื่อและลายเนื้อก็พอรับรู้ถึงความดีงามนี้แล้ว ซึ่งข้อสำคัญของการกินเนื้อชนิดนี้ก็คือย่างพอให้สุกเพียงนิดๆ เพื่อเก็บรสสัมผัสและรสชาติของเนื้อที่แทบจะละลายในปากเอาไว้

ส่วนคนไหนไม่กินเนื้อวัวก็มีเมนูหมูหลากหลายแบบเช่นกัน อาทิ Kurobuta Pork Neck (189 บาท) สันคอหมูคุโรบุตะซอสมิโซะ Pork Jowl (229 บาท) เนื้อสันคอหมูที่เป็นส่วนที่ถูกใจเราที่สุด เพราะด้วยความหอมและความชุ่มฉ่ำตอนย่าง แถมกินแล้วรสชาติก็กลมกล่อม จับคู่กับน้ำจิ้มแจ่วหรือน้ำจิ้มปลาร้าก็ยิ่งให้ความรู้สึกเข้ากันดีสุดๆ 

หากใครคิดว่ากินแค่ปิ้งย่างคงไม่สะใจ เมนูอาหารอื่นๆ อย่างเช่น ข้าวปั้นสาหร่าย (125 บาท) ที่พนักงานจะคลุกเคล้าและปั้นเป็นก้อนให้เราที่โต๊ะ หรือ ซุปหางวัว (349 บาท) ซึ่งใช้เวลาเคี่ยวนานกว่า 8 ชั่วโมงจนเนื้อเปื่อยนุ่ม ก็น่าสั่งมากินเพิ่มความหลากหลาย ส่วนจานที่ควรสั่งมาปิดท้ายที่สุดก็คือ ราเมนเย็นมะนาว (225 บาท) ที่ให้ความสดชื่นหลังกินเมนูเนื้อหนักๆ ไป หรือใครจะเลือกเป็นของหวานก็ได้ อาทิ Matcha Kakigori (249) บิงซูชาเขียวถั่วแดง หรือ Yoghurt Slushies (89) เครื่องดื่มโยเกิร์ตเกล็ดหิมะ รสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่นเหมาะกับการจบมื้อ

Hagu Hagu Yakiniku เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.30 - 21.30 น. อยู่ที่สยามสแคว์ซอย 9 (สามารถเดินทางด้วย BTS สยาม)

เขียนโดย
Time Out Bangkok editors

รายละเอียด

ที่อยู่
ซอย สยามสแควร์ 9 เขตปทุมวัน
กรุงเทพฯ
10330
ข้อมูลติดต่อ
ดูเว็บไซต์
02 070 6959
เปิดบริการ
ทุกวัน 11:30-21:30
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ