Larder

  • Restaurants
  • พร้อมพงษ์
  1. Larder bkk
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  2. Larder bkk
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  3. Larder bkk
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  4. Larder bkk
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  5. Larder bkk
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  6. Larder bkk
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  7. Larder bkk
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  8. Larder bkk
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
  9. Larder bkk
    Tanisorn Vongsoontorn / Time Out Bangkok
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

Larder (ลาร์เดอร์) บ้านปูนเปลือยสีขาวพร้อมกระจกตลอดแนวฝั่งติดถนนของซอยพร้อมใจ สุขุมวิท 39 โชว์ขั้นตอนการทำขนมปัง ตั้งแต่ต้นจนจบบนจานในพื้นที่บ้านเปิดโล่ง เชื่อมต่อส่วนกินอาหารและห้องครัว ที่มี Adrian Klonowski และ Radek Zarębiński สองเชฟชาวโปแลนด์ ผู้ผ่านงานครัวร้านดังในกรุงเทพฯ มาแล้ว แต่ครั้งนี้ทั้งคู่ขอรับบทเป็นเจ้าบ้าน พาเรานั่งโต๊ะชิมอาหารคอมฟอร์ทสไตล์ชาวโปแลนด์แบบถึงถิ่น 

 

และให้สมกับชื่อร้านว่า Larder เมื่อเปิดประตูเข้ามาคุณจะเจอกับชั้นวางขนมปังอบสดใหม่จากเตา พร้อมเหล่าเพสตรี้สไตล์โปแลนด์อย่าง Paczek (80 บาท) โดนัทสอดไส้วานิลลาเคลือบน้ำตาลไอซิ่งที่ไม่ได้เห็นบ่อยในกรุงเทพฯ ถัดไปเป็นตู้แช่อาหารแปรรูปจำพวกไส้กรอก แฮม ซาลามี่ และอีกมากมายจาก Rad Meats ของเชฟเรเดกที่ย้ายมาอยู่ในพื้นที่เดียวกันอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากขายแบบเดลิเวอรี่มาหลายปี 

 

แล้วชาวโปแลนด์เขากินอาหารเช้าแบบไหนกัน? เชฟเดเรกเล่าให้ฟังว่าจริงๆ แล้วจะคล้ายกับการกินทาปาส (ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากใช้คำนี้ก็ตาม) คือไม่ได้เป็นการกินอาหารเช้าแค่จานใหญ่จานเดียว แต่จะหยิบขนมปังมาหนึ่งชิ้นแล้วปาดเนย ท็อปปิ้งด้วยอะไรก็ตามแต่ที่ต้องการ ซึ่งบนโต๊ะในวันนั้นเชฟเดเรกเลือก Smoke Chick (120) ไส้กรอกไก่หนังกรอบ, Kielbasa (150) ไส้กรอกหมูรมควันเสิร์ฟพร้อมหัวหอมคารามาไรซ์, Coppa (140) ซาลามี่ชิ้นโต และ Speck (140) แฮมหมูรมควัน มาจับคู่กับ Pasztet (140) ตับบดสไตล์โปแลนด์ที่ตรงกลางมีลูกพลัมอบแห้งมาให้ความหวานนิดๆ 

 

ส่วนของผักผลไม้ ชาวโปแลนด์ก็จะหมักดองตามวิถีชาวยุโรป หรือพวกของสดอย่างมะเขือเทศและหน่อไม้ฝรั่งจากไร่ออร์แกนิกทางเหนือก็จะปรุงง่ายๆ ด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอกชูรสธรรมชาติ แต่ถ้าอยากลองจานแบบโปแลนด์ก็มีมันฝรั่งต้มเสิร์ฟมากับแองโชวี่ หรือฮัมมุสที่มาคู่กับไข่กวนรสนุ่มตรงกลางให้สั่งกันได้ 

 

อาหารของลาร์เดอร์ก็จะสามารถแบ่งออกเได้เป็น 3 ประเภทหลักตามที่เล่าไปด้านบน ซึ่งทั้งหมดจะกินเดี่ยวก็ได้ กินจับคู่ก็ดี หรือจับทั้งหมดมาผสมรวมกันเป็น Kanapki หรือว่าโอเพ่นแซนด์วิชสไตล์โปแลนด์ก็เข้าท่า ทั้งเมนู Tuna 3000 (270 บาท) แป้งซาวโดวจ์ชิ้นโต โปะมาด้วยซอสทาร์ท่าจนชุ่มท็อปด้วยทูน่าจี่กระทะให้พอสุกด้านนอก แต่ด้านในยังคงสีชมพูสวย เคียงมาด้วยไข่ต้มหั่นแว่นชวนให้ถ่ายรูป หรือ Croque Khun Poo Ying (260 บาท) คร็อกมาดามในเวอร์ชั่นของลาร์เดอร์ ขนมปังซาวโดวจ์สองชิ้นใหญ่ประกบแฮมและเชดาร์ชีสนำไปกริลล์ แล้วราดมาด้วยซอสขาวเบชาเมลแบบชุ่มๆ โปะด้วยไข่ดาว เวลากินถ้าตัดทุกชิ้นให้อยู่ในคำเดียวได้ ขอแนะนำให้ทำ เพราะจะได้ทั้งความกรอบ นุ่ม และชุ่มฉ่ำ   

 

ด้วยย่านที่ตั้งของ Larder ทำให้กลุ่มลูกค้าที่เดินเข้าออกร้านมีทั้งคุณแม่ชาวญี่ปุ่นเข็นรถเข็นเด็กมานั่งกินอาหารเช้า คนที่มานั่งพร้อมกางจอโน๊ตบุ๊คทำงาน กลุ่มเพื่อนมานั่งกินดื่มเรื่อยๆ แบบไม่เร่งรีบ ตอกย้ำว่าบ้านหลังนี้เปิดต้อนรับทุกคน และอยากให้ทุกคนลุกออไปจากโต๊ะไปพร้อมกับอาหารอร่อยๆ อิ่มท้องแบบเข้าใจไม่ยาก ตอนนี้ร้านยังเปิดให้บริการแค่ช่วงกลางวัน แต่พวกเขาแอบกระซิบมาว่าเดียวไม่นานพื้นที่บริเวณชั้นบนจะเปิดเป็นโซนดินเนอร์ ที่ต่อเนื่องจากช่วงกลางวัน เน้นความคอมฟอร์ทกินง่าย แชร์คล่อง และมีเนเชอรัลไวน์หลากสไตล์ที่จะเสิร์ฟเป็นแก้วไม่ต้องห่วงว่าเปิดขวดแล้วจะกินไม่หมด 

 

Larder ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 39 บีทีเอสสถานีพร้อมพงษ์ เปิดทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/larderbkk 

Aekkachai Suttiyangyuen
เขียนโดย
Aekkachai Suttiyangyuen

รายละเอียด

ที่อยู่
31/2
ซอย พร้อมใจ แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา
กรุงเทพมหานคร
10110
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ