[title]
ความตั้งใจของเจ้าของร้านคืออยากให้ทุกคนมาแฮงเอาต์แบบสบายๆ กับอาหารที่เข้าถึงได้และเข้าใจง่าย บรรยากาศในร้านเลยออกแนวสบายๆ เน้นใช้โทนสีสบายตาทั้งตัวร้าน เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่ง รวมถึงมีการสร้างเคิร์ฟบริเวณเพดานเพื่อลดทอนความเหลี่ยมของตัวบ้านและทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
.
เช่นเดียวกับอาหารที่ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็ซ่อนความแปลกใหม่ไว้ในทุกจาน จะเรียกว่าอาหารเอเชี่ยนฟิวชั่นก็ได้ เพราะแต่ละเมนูทั้งสแน็ก สตาร์ตเตอร์ จานหลัก และฟิงเกอร์ฟู้ดต่างๆ จะเป็นลูกผสมระหว่างเอเชี่ยนกับยูโรเปียน
.
อย่างสแน็กที่ร้านแนะนำเราก็จะมี Chicken Skewer (240 บาท) ไก่ย่างเสียบไม้ที่ใช้เนื้อส่วนสะโพก เสิร์ฟคู่กับกรีนซัลซาที่มีส่วนผสมของพริกหยวก รสชาติจะคล้ายๆ ซอสน้ำพริกหนุ่ม อีกจานคือ Salmon Baguette (290 บาท) ขนมปังบาแก็ตท็อปด้วยแซลมอน เพิ่มรสชาติด้วยเอบิโกะครีมและเลม่อนออยล์ จานนี้เข้ากันดีกับไวน์ขาว และ Panipuri (260 บาท) ด้านบนจะเป็นโพรชุตโต (แฮม) และพาร์เมซานชีส ส่วนข้างในสอดไส้ครีมชีสที่จะไประเบิดในปาก พอได้ลิ้มรสทุกอย่างพร้อมกันในคำเดียวแล้ว เราก็ยกให้ Panipuri ของที่นี่เป็นจานโปรดในหมวดสแน็กไปเลย
.
จริงจังขึ้นมาหน่อยจะเป็นเมนูสตาร์ตเตอร์ จานที่เราประทับใจคือ Fish Crudo (350 บาท) ที่ร้านจะใช้ปลา 3 ชนิด คือ แซลมอน ทูน่า ฮามาจิ แต่งจานมาอย่างสวยงาม เล่นสีระหว่างเนื้อปลากับซอสต่างๆ ที่ใส่มาเพิ่มรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นบัตเตอร์มิลก์ ดิลออยล์ เลมอนออยล์ จานนี้คลุกทุกอย่างให้เข้าแล้วกินได้เลย
.
ส่วนจานหลักซิกเนเจอร์ของที่ร้านคือ Spätzle Pasta (420 บาท) จานพาสต้าสำหรับคนไม่กินเนื้อสัตว์ ใช้เส้น Spätzle นำเข้าจากเยอรมัน คลุกกับซอสเห็ดโฮมเมด โรยด้วยพาร์เมซานครีม และเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยวอลนัต และ Roasted Duck Breast (890 บาท) เป็ดย่างดรายเอจ 7-14 วันจนหนังกรอบและไม่มีมัน กินกับซอสโฮมเมดและแป้งเบาบัน