Saigon Recipe

เพราะอาหารมักถูกปรับรสชาติให้ถูกปากคนท้องถิ่น (ลองนึกถึงผัดกะเพราในร้านอาหารสุดหรูในยุโรปอย่างไรก็อร่อยสู้ร้านข้างทางในเมืองไทยไม่ได้) คุณเตียน (Nguyen Thuy Tien) หญิงชาวเวียดนามที่ย้ายถิ่นฐานมากรุงเทพพร้อมครอบครัวได้ 5 ปีจึงอดนึกถึงอาหารเวียดนามรสชาติดั้งเดิมไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจเปิดร้านขึ้นเองเสียเลย!

อาหารของ Saigon Recipe ไม่ได้มีแค่กุ้งพันอ้อย แหนมเนือง และเฝอที่เราสั่งกินจนติดปาก แต่ที่นี่ยังมีอีกสารพัดเมนูที่เรียกว่าเป็นอาหารเวียดนามแท้ ๆ อย่างบั๋นแบ๋วหรือขนมถ้วยที่นำแป้งข้าวเจ้ามานึ่งแล้วโรยหน้าด้วยกุ้งปรุงรสเค็ม เพียงแค่ราดน้ำปลาสูตรพิเศษของทางร้านก็อร่อยแล้ว บั๋นแซวหรือขนมเบื้องเวียดนามที่นำแป้งผสมไข่มาทอดกรอบ สอดไส้กุ้ง หมูสับ และถั่วงอก รวมไปถึงเมนูสามัญอย่างปอเปี๊ยะก็มีหลายชนิดจนเลือกไม่ถูก แต่เราขอแนะนำปอเปี๊ยะสไตล์เวียดนามที่สอดไส้มันแกว ไข่ กุนเชียง ถั่ว ผักกาด และเครื่องเทศ หรือจะเป็นปอเปี๊ยะไข่ไส้ผักห่อด้วยไข่ผสมแป้งที่เหมาะกับชาวมังสวิรัติได้อย่างดี ส่วนคนที่ชอบปอเปี๊ยะทอดก็ต้องสั่งจ๋าหย่อไหชานที่สอดไส้กุ้ง เห็ด และเผือกในแบบเวียดนาม เช่นเดียวกับข้าวเกรียบปากหม้อแป้งเหนียมนุ่มที่มีหลายไส้ให้เลือก ทั้งหมูสับ กุ้งสับ และเห็ดหูหนู คุณเตียนแนะว่าการกินแบบชาวไซ่ง่อนต้องราดน้ำปลาลงไปในจานเลย ไม่ต้องจิ้มทีละชิ้น ลองดูอร่อยไปอีกแบบ

กินผักกินแป้งแล้วก็อย่าลืมสั่งก๋วยเตี๋ยวเวียดนามมาซดน้ำซุปกลั้วคอสักชาม ใครๆ ก็ต้องเคยกินเฝอ แต่ถ้ามาร้านนี้อยากให้ลองสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อเมืองเว้ที่มีให้เลือกทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมู ตักน้ำซุปเข้าปากคำแรกก็น้ำตาจะไหล เพราะรสชาติหอมอร่อยจนวางช้อนไม่ลง ต่อด้วยการคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นขาวอวบและเนื้อสไลซ์เข้าปากตาม ส่วนแหนมเนืองถ้าให้ดีต้องยัดเข้าปากให้หมดทั้งคำ เแต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าแหนมเนืองของที่นี่ก้อนใหญ่เป็นพิเศษ ตัดแบ่งสักครึ่งก้อนน่าจะพอดีคำกว่า อีกจานที่ขอยกให้เป็นดาวเด่นของร้านคือซุปปลาเปรี้ยวหวานที่นำปลาช่อน มะเขือเทศ สับปะรด กระเจี๊ยบ ถั่วงอก พริก และต้นคูน มาต้มรวมกันได้รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อม เป็นอาหารที่ทำไม่ยากแต่ต้องใช้เวลาต้มนานเพื่อให้เข้าถึงรสชาติ คุณเตียนบอกว่านี่คือหนึ่งในอาหารประจำวันของชาวเวียดนามไม่ต่างจากผัดกะเพราบ้านเรา แต่ถ้าใครมีเวลานั่งนานหน่อย ต้องสั่งของหวานอย่างบัวลอยยัดไส้ถั่วเขียวและถั่วลิสง ราดน้ำขิงผสมกะทิ โรยด้วยงาขาว หอมอร่อยโล่งคอ แล้วก็ต้องตบท้ายด้วยคาเฟ่เสือด๊า กาแฟเย็นใส่นมของเวียดนามที่เสิร์ฟมาในถ้วยดริป รอสักพักให้หยดจนหมดถ้วยก็ยกขึ้นรินใส่แก้ว เข้มข้นถึงใจทีเดียว

นอกจากรสชาติของอาหารที่อร่อยถึงแก่นแล้ว การตกแต่งร้านยังน่านั่งและดูสบายเป็นกันเอง ผ้าเช็ดปากบนโต๊ะก็นำผ้าพันคอลายสก็อตของเวียดนามมาประยุกต์ใช้ได้อย่างน่ารัก ขณะที่ผนังด้านหนึ่งวางตู้โชว์ใส่สมบัติเก่าเก็บที่คุณเตียนขนมาจากบ้านเกิดในไซ่ง่อน หนึ่งในนั้นคือปฏิทินตั้งโต๊ะที่มีภาพของเธอสมัยเป็นนางแบบในเวียดนาม กระทั่งภาพสาวเวียดนามที่อยู่บนป้ายหน้าร้านก็คือคุณเตียนที่ตอนนี้ก็ยังสวยไม่สร่างจริง ๆ