Sarnies

ร้านกาแฟดังจากสิงคโปร์ A Stimulant by Sarnies ที่เคยยึดร้านช่วงกลางวันของบาร์ Dim Dim ในซอยสุขุมวิท 33 ได้ขยับมาปักหลักอย่างเป็นทางการที่เจริญกรุง บนพื้นที่ของอาคารพาณิชย์สองหลังอายุกว่าร้อยปี เชื่อมถึงกันด้วยซุ้มประตูโค้ง ณ บริเวณชั้น 2 ของคาเฟ่ เปลี่ยนฉากจากร้านอะไหล่เรือให้กลายเป็นคาเฟ่ปูนเปลือยผสมความโมเดิร์นได้อย่างลงตัว "เพราะอาคารนี้อยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยามาก ใครๆ ก็ต้องมาซื้อเครื่องยนต์เรือจากที่นี่" Eric Chan หุ้นส่วนคนหนึ่งของ Sarnies เล่าให้เราฟัง

ตัวอาคารไม่ได้ดัดแปลงอะไรมากนัก ด้วยความตั้งใจว่าอยากจะรักษาความงดงามแบบดั้งเดิมของอาคารเก่าแก่เอาไว้ บรรยากาศภายในร้านจึงยังคงเต็มไปด้วยร่องรอยของร้านอะไหล่เรืออยู่ตามกำแพงรอบๆ ทั้งรอยเปื้อนสีทึมบนกำแพงซึ่งเกิดจากไอควันเสียจากเครื่องยนต์เรือ และยังมีหน้าต่างขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นย่านเมืองเก่าได้ชัดเจน

ความตั้งใจและใส่ใจในรายละเอียดสะท้อนชัดออกมาทางหน้าตาอาหารและเครื่องดื่มทุกๆ เมนู โดยการผสมผสานเอกลักษณ์เมนูท้องถิ่นให้เข้ากับอาหารตะวันตกอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเมนู Eggs Benedict with Tom Yum Hollandaise Sauce (320 บาท), Mashed Avocado-topped Sourdough with Feta Cheese, Roasted Tomatoes and Dukkah (320 บาท), CB&J (280 บาท) หรือแซนด์วิชแยมเนยถั่ว ของโปรดของใครหลายคน ที่ใช้เนยเม็ดมะม่วงหิมพานต์โฮมเมดกับน้ำผึ้ง ให้รสชาติหวานมันแตกต่างจากที่อื่น หรือถ้าอยากกินจริงจังแบบอิ่มๆ เราแนะนำให้สั่งเมนู East-meets-West Breakfast Set (450 บาท) ซึ่งประกอบไปด้วยไข่คน เบคอน ไส้อั่ว เห็ดผัดเนย และถั่วตุ๋นรสเผ็ด

นอกจากจะใช้เมล็ดกาแฟคั่วเองในการชงเครื่องดื่มแล้ว ที่นี่ยังมีขายเมล็ดกาแฟคั่วบดสูตรพิเศษที่ใช้เมล็ดกาแฟหลายชนิดจากลำปาง ปานามา และบราซิล (ราคาเริ่มต้น 70 บาท) แถมยัง (เคลมว่า) เป็นร้านแรกในประเทศไทยที่มีขาย Bulletproof Coffee (120 บาท) กาแฟใส่เนยที่ที่เลี้ยงด้วยหญ้าและน้ำมันมะพร้าว ซึ่งเป็นกาแฟในสูตรการควบคุมอาหารแบบคีโตจีนิก (Ketogenic Diet) ที่เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการสร้างเมตาบอลิซึ่มอันมีส่วนช่วยในการเผาผลาญพลังงานร่างกาย

Sarnies เตรียมจะเสิร์ฟเมนูสำหรับมื้อเย็นและเครื่องดื่มค็อกเทลในช่วงเดือนมีนาคม และแน่นอนว่าเราจะมาลองชิมอีกแน่นอน