Sushi Saryu

  • Restaurants
  • บางรัก
  1. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
  2. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
  3. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
  4. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
  5. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
  6. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
  7. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
  8. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
  9. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
  10. Sushi Saryu
    Sushi Saryu
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

สารภาพตามตรงว่าตอนแรกยังไม่รู้ว่าฝีมือของเชฟเซอิจิ ซุโด (Seiji Sudo) หลังเคาน์เตอร์ครัวที่ ซูชิ ซาริว (Sushi Saryu) จะร้ายกาจขนาดไหน จนเชฟเลื่อนแผงกั้นด้านหลังออกแล้วเราได้เห็นรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นกับเหล่าคนดัง วางคู่กับของที่ระลึกระดับประเทศอีกนับไม่ถ้วน ที่เราขอแอบกระซิบว่ามีศิลปินระดับประเทศ ที่ไม่ว่าใครจะอายุเท่าไรก็ต้องเรียกคนนี้ว่า ‘พี่’ เป็นลูกค้าประจำของเชฟเซอิจิด้วย ซึ่งทั้งหมดเหมือนเป็นตัวสรุปข้อสงสัยว่าทำไมอาหารญี่ปุ่นรสมือของเชฟถึงได้ถูกจริตคนไทยขนาดนี้

จริตที่เราว่าก็คือเห็นข้าวเป็นข้าว เห็นปลาเป็นปลา พ่วงด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมียมที่เชฟเซอิจิเตรียม ทำ และเสิร์ฟคนเดียว เพื่อให้ได้รสชาติที่เป๊ะตั้งแต่ต้นจนจบ สมกับที่เคยอยู่ร้านดังทั้งในโตเกียวและนิวยอร์กมาก่อนหน้า ที่นอกจากรสชาติจะดีมากแล้ว หน้าตายังดีชวนถ่ายรูปลงโซเชียลให้ทุกคนรู้ว่ามากินโอมากาเสะแบบไม่ต้องเขียนแคปชั่นอธิบายให้ยืดยาว

การมากินโอมากาเสะสักหนึ่งมื้อ สำหรับเรายังเหมือนนั่งดูการแสดงและการปล่อยของจากเชฟ ทั้งประสบการณ์และการจัดการกับวัตถุดิบที่ได้มาในแต่ละวัน เพื่อดึงรสชาติที่แท้จริงหรือเสริมรสชาติที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปอีก อย่างเช่นคอร์สปลา เชฟเลือกเสิร์ฟทั้งแบบสดซาชิมิในคอร์ส ชูโทโร่ (Chutoro) ทูน่าส่วนท้องสีชมพูสวยมีมันแทรกมาเป็นริ้ว, ซันมะ (Sanma) คล้ายปลาแม็กเคอเรลเนื้อแน่นเด่นด้วยหนังสีเงินวาว, คาวาฮากิ (Kawahagi) ชื่อไทยคือปลาหน้าวัว เนื้อแน่นหนึบ เสิร์ฟพร้อมตับปลาชนิดเดียวกัน 

ที่พูดถึงคือบางส่วนของจานเสิร์ฟแบบสด เพราะจานปลาที่หมักซอสมาก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเช่น คัตสึโอะ (Katsuo) ปลาโอที่เชฟเอาไปหมักจนซอสซึมเข้าไปในเนื้อปลา แล้วเบิร์นบริเวณด้านนอกเล็กน้อยเพิ่มความหอม หรือ โนโดะคุโระ (Nodoguro) ปลากะพงสีชมพูน้ำลึก จานนี้เชฟไม่ได้หมักซอสแต่เลือกทาซอสรสชาติออกหวานก่อนเสิร์ฟ 

อูนิถือเป็นตัวประกอบหลักของมื้อนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเชฟเลือกใช้ทั้งสายพันธุ์มาราซากิ (Murasaki) และ บาฟุน (Bafun) มาประกอบกับกุ้งโบตั๋น (Botan Ebi) ที่มากับมันกุ้ง ไข่กุ้งสีฟ้าตามธรรมชาติ (ร้านเล่าว่ากุ้งผลิตไข่สีฟ้าเพื่อให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติ ไม่ให้ถูกจับกิน) แล้วท็อปความอูมามิด้วยอูนิ, ปูขนที่เชฟเสิร์ฟแบบยากิซูชิ คือการเอาวัตถุดิบต่างๆ (จานนี้จะมีสเปิร์มปลา ปลาดาบและ ไข่ปลากระบอก) โปะลงบนข้าวที่วางอยู่บนเปลือกสนญี่ปุ่นแล้วนำไปอบ จานปูอีกจานก็เรียกความว้าวไม่แพ้กันด้วย เซโกะคานิ (Seiko Kani) ปูหิมะตัวเมียที่แน่นไปด้วยไข่ซึ่งหนึ่งปีจะมีกินได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น 

นอกจากนี้ยังมี ตับปลาอังโกะ (Ankimo), หอยแครงญี่ปุ่น (Akagai), หอยเปาฮื้อ (Awabi) มาช่วยเติมรสชาติโอมากาเสะให้สนุกมากยิ่งขึ้น และปิดท้ายแบบฟินนาเล่ด้วยมากิเมดเลย์วัตถุดิบทั้งหมด อูนิซูจิโกะ (ไข่ปลาแซลมอน), ชูโทโร่, กุ้งชิมะเอบิ, ไข่กุ้งทั้งโบตันเอบิและชิมะเอบิ ห่อในสาหร่าย เชฟท้าให้ลองกินหมดรวดเดียวทั้งคำ ใครทำได้ก็ลองดูแต่สำหรับเราไม่สามารถจริงๆ 

สิ่งที่ประทับใจจนขอยกว่าถ้าจะกินโอมากาเสะอีกสักมื้อ ร้านนี้จะต้องแซงคิวขึ้นมาอยู่อันดับต้นๆ คือความมินิมัลแต่แน่นด้วยดีเทลตลอดทั้ง 18 คอร์ส ด้วยรสชาติและของเสริมจากเหล่าเครื่องเซรามิกเสิร์ฟอาหาร ตั้งแต่ถ้วยชาร้อนสไตล์ยูโนมิ (Yunomi) จาน ชามงานแฮนด์เมดทุกใบ เหมือนงานศิลปะที่ใช้งานได้จริงหลังเคาน์เตอร์ รวมถึงแก้วสาเกที่ให้ลูกค้าลุกไปเลือกเองได้ด้วย เป็นการกินข้าวความยาวเกือบสี่ชั่วโมงที่ไม่รู้สึกเสียเวลาเลย  

Sushi Saryu ตั้งอยู่ที่ชั้น G อาคารโครนอส ถนนสาทรเหนือ เสิร์ฟ 15 คอร์สราคา 8,000 ++ บาทต่อคน รอบเดียวต่อวัน เริ่มตั้งแต่ 18.00-22.00 น. สามารถสำรองที่นั่งได้ที่โทร 083-912-9288 หรือ Line OA: @sushisaryu สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/sushisaryu 

Aekkachai Suttiyangyuen
เขียนโดย
Aekkachai Suttiyangyuen

รายละเอียด

ที่อยู่
ชั้น G
อาคาร โครนอส สาทร
ถนนสาทรเหนือ
กรุงเทพมหานคร
10500
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ