Zaozen

  • Restaurants
  • คลองเตย
  • 3 จาก 5 ดาว
  • แนะนำ
  1. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  2. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  3. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  4. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  5. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  6. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  7. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  8. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  9. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  10. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
  11. Zaozen
    Photograph: Tanisorn Vongsoontorn
การโฆษณา

Time Out พูดว่า

3 จาก 5 ดาว

‘ซาว’ ยกครกสากและไหปลาร้าขึ้นห้างโฟกัสเมนูเส้นอีสานบีบสดพร้อมเสิร์ฟในคอนเซ็ปต์ Isan Artisan Noodle Bar

การหันมาจับธุรกิจอาหารของ ‘อีฟ-ณัฐธิดา พละศักดิ์’ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว (แบบตัวแม่) เพราะภายในระยะเวลาปีกว่าๆ ร้านซาวของเธอได้ขยายสาขาเพิ่มถึง 2 สาขา จาก ‘ซาว’ เอกมัย สู่ ‘ZaoLarb’ ที่ย่านทองหล่อ และล่าสุดก็ยกครกยกสากและไหปลาร้าขึ้นห้างไปที่ Emsphere กับสาขาล่าสุดที่ใช้ชื่อว่า Zaozen (ซาวเส้น)

ที่สาขานี้ซาวจะโฟกัสที่เมนูเส้นตำรับอีสานทั้งแบบดั้งเดิมและประยุกต์ใหม่ ใส่ความคิดสร้างสรรค์ให้กินสนุกขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ Esan Artisan Noodle Bar 

ถ้าคิดไม่ออกว่าเส้นอีสานมีอะไรบ้าง ก็มีตั้งแต่เส้นข้าวปุ้น หรือ ‘ขนมจีน’ ที่เราคุ้นเคย ซึ่งมีทั้งแบบเส้นหลอด จะเป็นเส้นยาวเหมือนขมจีนแต่เส้นรอบวงจะใหญ่กว่า เท่าๆ หลอดดูดน้ำตามชื่อเลย เส้นด้องแด้ง (หรือด๊องแด๊งก็เรียก) เส้นรอบวงพอๆ กับเส้นหลอด แต่จะยาวประมาณนิ้วมือหรือสั้นกว่า เส้นแบน ก็จะยาวๆ แบนๆ หัวไก่โอ้ก ที่จะมีลักษณ์เป็นก้อน รูปทรงออกไปทางกลมและมีส่วนที่ยื่นออกมาคล้ายหงอนไก่

ทั้งหมดที่พูดไปคือเส้นที่ทำมาจากแป้งหมักชนิดเดียวกัน แต่ต่างกันตรงขั้นตอนการบีบหรือโรยเส้น ใครอยากรู้ว่าเส้นแบบไหนบีบหรือโรยยังไง ไปนั่งดูได้เพราะที่ร้านบีบเส้นเองสดๆ ก่อนเสิร์ฟทุกจาน จะเรียกว่าเป็นไฮไลต์ของร้านก็ได้ เพราะคงมีไม่กี่ร้านในกรุงเทพฯ ที่บีบเส้นขนมจีนเองโดยเฉพาะร้านที่อยู่ในห้าง

ทุกเส้นสามารถนำไปปรุงได้ทั้งส้มตำและผัด อย่างจานที่เราสั่งมาชิมคือ ผัดข้าวปุ้นเส้นหลอดกุนเชียง (245 บาท) เส้นหลอดเนื้อหนึบเคลือบเครื่องปรุงรสกลมกล่อม เพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยกุนเชียง และโปะหมูหยอง ส่วนหมวดส้มตำเราเลือกชิม ตำข้าวปุ้นเส้นแบน (245 บาท) กับตำด้องแด้ง (200 บาท) รสชาติส้มตำของซาวไม่ทำให้เราผิดหวังอยู่แล้ว ถ้าต้องเลือกระหว่าง 2 จานนี้ ต้องดูว่าชอบเท็กซ์เจอร์เส้นแบบไหนมากกว่า ถ้าชอบให้มีอะไรให้เคี้ยวกรุบๆ เต็มฟันหน่อยก็แนะนำเส้นด้องแด้ง แต่ถ้าชอบความชุ่มปลาร้าและได้ฟีลกินเส้นมากกว่าเส้นแบนก็เป็นตัวเลือกที่ดี และที่เราชอบมากก็คือการใส่ถั่วฝักยาวสดกรอบๆ มาในทุกจานที่เป็นตำขนมจีนเพื่อเพิ่มเท็กซ์เจอร์ที่หลากหลาย

อีกหนึ่งจานไฮไลต์ในหมวดเส้นขนมจีนที่เราขอยกนิ้วให้กับความคิดสร้างสรรค์ก็คือ ข้าวปุ้นซาวเย็นกับผักทอด (350 บาท) เป็นเส้นอีสานทรงญี่ปุ่นที่เอาองค์ประกอบการเสิร์ฟ Zaru Ramen หรือ บะหมี่เย็น ของญี่ปุ่นมาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ ตัวเส้นแน่นอนว่าต้องเป็นขนมจีน ผักทอดก็ใช้ผักทั่วๆ ไป แต่ทีเด็ดคือซอสในถ้วยเล็กๆ ที่มีรสนำเป็นเปรี้ยวเค็มและหอมกลิ่นปลาร้า วิธีกินก็คือคีบเส้นขนมจีนมาจุ่มในซอสแล้วกินเหมือนบะหมี่เย็นนั่นแหละ

ถัดจากเส้นข้าวปุ้นก็ยังมีเส้นเล็กที่นำไปทำเป็นผัดหมี่อีสาน หมี่พิมาย หมี่กะทิอุบล ดูจากชื่อแต่ละจานก็คงเดาได้ว่าหากินไม่ได้ง่ายๆ ในกรุงเทพฯ (โดยเฉพาะที่อร่อยๆ) แต่สูตรของที่ร้านได้มาจากท้องถิ่นจากการลงพื้นที่หาข้อมูลของอีฟ (จริงจังถึงขึ้นพิมพ์หนังสือเส้นอีสารขายได้) และไม่ต้องกลัวว่ามื้อนี้จะมีแต่แป้ง เพราะทุกจานมีโปรตีนให้เลือกทั้งไก่ กุ้ง ไข่ หรือจะสั่งไก่ย่าง ปลาย่างมากินด้วยก็ได้ และยังมีจานขายดีจากซาวสาขาอื่นๆ ถูกใส่มาในเมนูหลายจานเลย

Zaozen อยู่ที่ชั้น G, Emsphere เปิดทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.

Suriyan Panomai
เขียนโดย
Suriyan Panomai

รายละเอียด

ที่อยู่
Sukhumvit Rd, Khlong Tan, Khlong Toei
กรุงเทพฯ
10110
การโฆษณา
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ