10 พิพิธภัณฑ์สุดแปลกรอบๆ กรุงเทพฯ

ออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียนกับพิพิธภัณฑ์สุดเจ๋งที่ไม่ซ้ำกับที่เคยไปตอนเด็กๆ แน่นอน

เขียนโดย
Wissuta Ploypetch
การโฆษณา

ในกรุงเทพฯ มีพิพิธภัณฑ์น่าสนใจหลายรูปแบบให้เราได้ออกไปเปิดโลก หาความรู้รอบตัวใหม่ๆ แต่วันนี้เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 10 พิพิธภัณฑ์สุดแปลกที่กระจายตัวอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ถุงยางอนามัย พิพิธภัณฑ์ของเลียนแบบ พิพิธภัณฑ์เซ็กซ์ ฯลฯ ซึ่งพิพิธภัณฑ์เหล่านี้ไม่ได้มีดีแค่ความแปลก แต่ยังมีเรื่องราวน่าสนใจที่รอให้ทุกคนเข้าไปสัมผัสอยู่ ว่างๆ ลองแวะไปเช็กอินกันสักครั้งสิ

  • Museums
  • ประวัติศาสตร์
  • สีลม
  • ราคา 1 จาก 4

พัฒน์พงศ์ คือย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืนอันโด่งดังของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ระหว่างถนนสีลมและถนนสุรวงศ์ เบื้องหลังไฟแสงสีที่ปลุกให้ย่านนี้มีชีวิตขึ้นมาหลังตะวันลับขอบฟ้า มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแอบซ่อนอยู่และทั้งหมดก็ถูกรวบรวมมาจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ที่ชื่อว่า ‘พัฒน์พงศ์มิวเซียม’ (Patpong Museum)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ นำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้อย่างน่าสนใจ ไม่จำเจ สังเกตได้ตั้งแต่ป้ายไฟทางเข้าที่ดูกลมกลืนกับป้ายบาร์รอบๆ แทบแยกไม่ออก ส่วนพื้นที่จัดแสดงบนชั้นสองจะแยกส่วนเล่าเรื่องราวแตกต่างกันไป เริ่มตั้งแต่ประวัติความเป็นมาของพัฒน์พงศ์ไล่เรียงตามไทม์ไลน์จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ต่อด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของกองทัพทหารอเมริกาที่ใช้พัฒน์พงศ์เป็นฐานทัพในสมัยสงครามเวียดนามจนทำให้ย่านนี้เจริญรุ่งเรือง

ไฮไลต์ของการชมพัฒน์พงศ์มิวเซียมก็คือ บัตรเข้าชมราคา 350 บาท จะมาพร้อมเครื่องดื่มฟรี 1 ดริงก์ มีให้เลือกตั้งแต่ซอฟต์ดริงก์ ไปจนถึงค็อกเทลและเบียร์ และสามารถสั่งเพิ่มได้ (จ่ายเพิ่มเอง) ในกรณีติดลม แต่ที่สุดของไฮไลต์ต้องยกให้โซนสุดท้าย เป็นการจำลองอะโกโกบาร์ มีรูปหญิงสาวในชุดสุดเซ็กซี่จัดแสดงอยู่ ซึ่งโซนนี้เปิดให้เข้าชมเฉพาะผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น

  • Museums
  • ลาดพร้าว

คอลเลกชั่นเสื้อยืดจำนวนมหาศาลของ เบียร์-พันธวิศ ลวเรืองโชค ผู้เป็นเจ้าของ Apostrophys Group ที่มี 5 บริษัทในเครือ ผู้หลงใหลในการสะสมเสื้อยืดและของที่ระลึกจากคอนเสิร์ต (โดยเฉพาะวงดนตรีร็อก) โดยภายในนั้นมีทั้งเสื้อยืดวินเทจหายากและรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นหลายชิ้น พร้อมด้วยรายละเอียดปีการผลิต ความสำคัญของวงดนตรีแต่ละวง รวมถึงที่มาของเจ้าเสื้อยืดแต่ละตัว

ชิ้นเด็ดๆ เลยก็มีทั้ง เสื้อยืดจากทัวร์คอนเสิร์ตปี 1978 ของวงร็อกระดับตำนานอย่าง Queen, เสื้อจากวงดนตรี The Flaming Lips ในช่วงปลายปี 80’s ต้น 90’s ที่มีตัวหนังสือภาษาไทย เขียนว่า ‘ที่เป็นพยาธิ พาหะนำโรค’ แบบกลับด้าน และเสื้อยืด Run DMC x Adidas ที่ Beyonce และ Kanye West เคยสวมใส่! โดยที่ตัวหนึ่งในเซ็ตนี้สนนราคาสูงถึง 400,000 บาท ซึ่งการจัดแสดงเสื้อยืดนั้นจะถูกหมุนเวียนนำออกมาจัดแสดงตามธีมแต่ละครั้ง ตอนนี้ก็เป็นธีมร็อก-เมทัล และในอนาคตเบียร์ก็วางแผนที่จะจัดแสดงรองเท้าวินเทจหายากที่เขามีอยู่กว่า 700 คู่อีกด้วย

การโฆษณา
  • Museums
  • ประวัติศาสตร์
  • เยาวราช

พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ในชุมชนเจริญไชย ถนนเจริญกรุง พูดง่ายๆ ก็คือเป็นบ้านหลังหนึ่งของชุมชนนั่นเอง แต่ก่อนเป็นบ้านของคณะงิ้วที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง กระทั่งปี 2554 ได้ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการบอกเล่าประวัติศาสตร์ของชุมชนเจริญไชย

บ้านเก่าเล่าเรื่อง เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกและแห่งเดียวในย่านไชน่าทาวน์ที่ออกแบบและดำเนินการโดยคนในท้องถิ่น เป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างมีแค่ห้องน้ำกับบันได ไม่เหมือนหลังอื่นๆ ที่จะมีพื้นที่อยู่อาศัยได้ทั้งสองชั้น พอขึ้นไปบนชั้นสองก็จะคือพื้นที่นิทรรศการแสดงประวัติชุมชนเจริญไชย ซึ่งเป็นย่านทำกระดาษไหว้เจ้าของชาวจีนที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ

หนึ่งในเหตุผลที่ชุมชนนี้ขึ้นชื่อเรื่องกระดาษไหว้เจ้าน่าจะมาจากการที่ย่านนี้รายล้อมไปด้วยศาลเจ้าถึง 5 แห่ง ได้แก่ วัดมังกรกมลาวาส ศาลเจ้ากวางตุ้ง ศาลเจ้าหลี่ตีเบี้ยว ศาลเจ้าเล่งบ๊วยเอี๊ย และศาลเจ้าไต่ฮงกง (มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง)

นอกจากนี้ รอบๆ บริเวณชั้นสอง ยังแสดงข้าวของเครื่องใช้ของคณะงิ้วที่เคยใช้บ้านหลังนี้เป็นที่พักพิงยามไม่มีงานแสดง รวมถึงให้ความรู้เกี่ยวกับเทศกาลสำคัญของคนไทยเชื้อสายจีน ลักษณะชั้นนี้จะเป็นห้องขนาดใหญ่ (ใหญ่กว่าชั้นล่าง) ส่วนหนึ่งของห้องแบ่งซอยเป็นชั้นลอยอีกหนึ่งชั้น เรียกว่าชั้นสองครึ่งแล้วกัน สะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ที่แออัดของครอบครัวชาวจีนในอดีต

การชมพิพิธภัณฑ์นี้เราสามารถเดินสำรวจทุกซอกทุกมุมได้ตามสะดวก ไม่มีคนพาชม อยากรู้อะไรก็ต้องอ่านด้วยตัวเอง เพราะไม่มีคนหรือสื่อทันสมัยคอยให้ข้อมูล มีเพียงแผ่นผับที่หยิบได้จากชั้นล่างเท่านั้น ไม่มีแม้แต่ป้ายห้ามนู่นห้ามนี่

ที่ชั้นสองถ้าเปิดประตูไม้บานเก่าๆ ออกไปจะเป็นระเบียงที่ยาวจากด้านข้างอ้อมไปถึงด้านหน้าตึก ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกร้างที่ปูนฉาบผนังหลุดร่อนไปตามกาลเวลาทำให้เห็นก้อนอิฐสีส้มอยู่ข้างในเป็นบางส่วน มีต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นรก และจากตรงนี้เราก็สามารถมองเห็นชุมชนได้จากมุมสูง 

ด้วยความที่ชุมชนดูแลกันเองหน้าตาของบ้านเก่าเล่าเรื่องจึงไม่ได้ดูเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ทั่วไป แต่ถ้าได้มาแถวนี้ก็ไม่อยากให้เดินผ่านบ้านหลังนี้ไปเฉยๆ ลองแวะเข้ามาทำความรู้จักชุมชนเก่าแก่กันสักหน่อยก็ยังดี

  • Attractions
  • ลาดกระบัง

ใครเป็นโรคกลัวงูอาจต้องเลื่อนผ่านพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไปก่อน เพราะที่นี่เขาจัดแสดงเกี่ยวกับสัตว์เลื้อยคลานหลากหลายชนิด โดยเฉพาะกับงู ในรูปแบบสวนเรียนรู้ที่แรกและทีเดียวในเอเชีย เพื่อให้ผู้เข้าชมได้มาลองทำความรู้จักชีวิตของสัตว์ประเภทนี้อย่างลึกซึ้ง แบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่โซนพิพิธภัณฑ์ประสบการณ์เสมือนจริง สวนงู และนาคาเธียเตอร์ ซึ่งนำเราออกสู่การเดินทางด้วยการเดินผ่านปากงูยักษ์ เสมือนว่าเราเองคือลูกงูที่เพิ่งฟักจากไข่และเติบโตไปสู่จนถึงชีวิตนักล่าและการสืบพันธุ์ 

ก่อนจะไปพบกับส่วนที่สองกับ สวนงู ซึ่งมีงูมากกว่า 75 สายพันธุ์ ทั้งงูหายาก งูมีพิษ​ งูขนาดใหญ่ที่สุดในโลก งูหลามสีสันสดใส และงูสายพันธุ์นอก ที่ในโซนนี้เรายังสามารถเข้าไปสำรวจการสกัดพิษจากงูเพื่อใช้เป็นเซรุ่มในห้องทดลองของนักวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วยนะ จากนั้นจึงข้ามไปยังโซนสุดท้าย นาคาเธียเตอร์ เพื่อรับชมการแสดงจับงู และการแสดงเกี่ยวกับความเชื่อของคนไทยในหุ่นพญานาคห้าหัว โดยที่ด้านนอกยังมีร้านอาหารและร้านขายสินค้าให้ไปฝากท้องหรือซื้อของกลับบ้านได้ด้วย

การโฆษณา
  • Museums
  • ยานนาวา

ประเทศไทยไม่เพียงแต่จะเป็นที่รู้จักทั่วโลกในเรื่องแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและอาหารอร่อยๆ อีกด้านหนึ่งประเทศเราก็ติดอันดับประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้บริษัทกฎหมายที่เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินทางปัญญาแห่งแรกของประเทศไทยอย่าง Tilleke & Gibbins ผุดไอเดียที่จะสะกิดให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์อีกสักนิด 

โดยทำงานร่วมกับแบรนด์จำนวนมาก นำสินค้าปลอมและสินค้าเลียนแบบกว่า 4,000 ชิ้น ที่ได้มาจากการจับกุมบ้าง ได้มาจากลูกความเพื่อเป็นหลักฐานในการประกอบการดำเนินคดีบ้าง มาจัดแสดง ใน 14 หมวด ตั้งแต่เสื้อผ้า แว่นตา อาหารและยา อุปกรณ์ไฟฟ้า ไปจนถึงชิ้นส่วนยานยนต์ พร้อมมีสินค้าของแท้เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างกันแบบที่เรียกว่าเอาโจทก์กับจำเลยมาให้พิพากษากันตรงนั้น ซึ่งมันจะทำให้เราได้ตะลึงถึงการมีอยู่ของสินค้าปลอมในชีวิตประจำวัน (จนสับสนว่าแชมพูที่ใช้มันปลอมไหมเนี่ย..)

แต่การจะเข้าชมที่นี่นั้นจำเป็นต้องจองล่วงหน้าหนึ่งวัน เพื่อที่ทาง Tilleke & Gibbins เขาจะได้จัดเตรียมทนายความพาชม บอกเล่าเรื่องราวการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ไปจนถึงวิธีปลอมสินค้าปลอม ประหนึ่งว่ามาเรียนรู้วิชาสินค้าปลอม 101 อะไรอย่างนั้น

  • Museums
  • สยาม

พิพิธภัณฑ์ร่างกายมนุษย์ที่คณะทันตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นดูเผินๆ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรแปลก แต่ที่นี่เป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จัดแสดงร่างกายมนุษย์ด้วยเทคนิค การแทนที่น้ำและไขมันในเนื้อเยื่อด้วยสารพลาสติกเหลว ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็นและไม่มีการเน่าสลาย และสามารถคงสภาพอยู่ได้นาน จากการบริจาคร่างกายและชิ้นส่วนอวัยวะของคัทสุมิ คาตามูระ ประธานบริษัท Medical Doctor Soft House ประเทศญี่ปุ่น

พิพิธภัณฑ์ประกอบไปด้วยห้องสองห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะแสดงร่างที่ถูกตัดเปิดเพื่อแสดงชิ้นส่วนภายในและระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ เช่น ระบบประสาท หรือ ระบบย่อยอาหาร โดยภาพที่เราจะได้เห็นตอนเดินดูร่างกายต่างๆ เหล่านี้อาจจะกวนใจหลายคนอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยก็ได้รับความรู้เกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์อันสลับซับซ้อนกลับบ้านไปเต็มๆ แน่นอน

การโฆษณา
  • Museums
  • คลองสาน

คลังความรู้และคุณค่ายาศาสตร์สมุนไพรแผนจีนโบราณแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยตอนนี้ ที่โอสถสภา จัดทำขึ้นเพื่อพาเราเดินทางไปดูต้นกำเนิดของแบรนด์ที่มาจากร้านขายยา ‘เต๊กเฮงหยู’ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยชาวจีนโพ้นทะเลชื่อ แป๊ะ แซ่ลิ้ม ในปี 2434 โดยเนรมิตพื้นที่ริมแม่น้ำอันสวยงามของ ล้ง 1919 ให้กลายเป็นร้านขายยาจีนโบราณจำลองที่เราสามารถซื้อยากลับบ้านได้จริง

ชื่อเสียงเรียงนามของร้านขายยาและแป๊ะ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจาก ยากฤษณากลั่น ตรากิเลน ซึ่งมีสรรพคุณแก้ท้องร่วง แก้ปวดท้อง ที่ใช้ได้ดีจนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) แนะนำยานี้แก่ทหารและเสือป่าไว้ในหนังสือพระราชนิพนธ์กันป่วย

  • Museums
พิพิธภัณฑ์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่แห่งนี้ อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมถุงยางแบบต่างๆ จากหลากยี่ห้อ ที่ขายในประเทศ นำเข้า และส่งออกมากกว่า 20 ปี  นับตั้งแต่ถุงยางอนามัยยุคแรกที่คนไทยรู้จักในนามถุงยางอนามัยมีชัยสายรุ้ง มีการจัดแสดงให้ชมถึงวิวัฒนาการ การพัฒนาคุณภาพ ตั้งแต่รูปลักษณ์ สีสัน การแต่งกลิ่น รูปแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของถุงยางอนามัยที่ใช้เพื่อการคุมกำเนิดป้องกันการตั้งครรภ์ ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงโรคเอดส์ที่คร่าชีวิตผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ความสนุกที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ห้องทดสอบความเหนียวของถุงยางอนามัย ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังพิพิธภัณฑ์ ที่จะอัดลมเข้าไปในถุงยางอนามัยจนกว่าจะมันจะแตกดัง…บึ้ม! และวัดค่าจากเสียงการแตกของถุงยาง โดยโปรแกรมจากคอมพิวเตอร์คำนวณ ฟังดูน่าสนุกดีไหมล่ะ ฮ่าๆ
การโฆษณา
  • Museums
  • จุฬาฯ-สามย่าน

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์หอยทากนั้นจัดแสดงนิทรรศการเปลือกหอยและหอยทากที่พบในประเทศไทยแล้วอย่างหอยทากยักษ์ หอยทากจิ๋วปากแตร หอยทากจิ๋วเขาวงกต ก็ยังจัดแสดงฟันของเหล่าหอยทากด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีเพื่อนๆ สัตว์เลื้อยคลาน เช่น สัตว์ที่มีบทบาทต่อระบบนิเวศ อย่างกิ้งกือและไส้เดือน ซึ่งรวมไปถึงกิ้งกือมังกรสีชมพู ที่ IISE ประกาศให้เป็น 1 ใน 10 ของการค้นพบสรรพชีวิตบนโลกอีกต่างหาก

สัตว์และเรื่องราวต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ได้รับการรวบรวมโดยอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ต้องการจะให้ความรู้แก่คนรุ่นใหม่เกี่ยวกับความหลากหลายและวิวัฒนาการของหอยทากที่แสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ

  • Museums
  • ศิลปะ และ การออกแบบ
  • คลองเตย

ปลุกเร้าโสตประสาทกันสักนิดกับผลงานภาพวาด ประติมากรรม และเครื่องปั้นดินเผา ในทำนองอีโรติกแห่งแรกของไทย ซึ่งเป็นผลงานการสะสมอันยาวนานกว่า 35 ปีของ อุทัยพันธุ์ จารุวัฒนกิตติ ผู้มีความหลงใหลในการเก็บรวบรวมศิลปะเชิงสังวาสทุกรูปแบบ

ผลงานทั้งหมดกินพื้นที่กว่า 4 ชั้นของตึกในซอยสุขุมวิท 38 โดยมีตั้งแต่ภาพวาดที่เร้าอารมณ์ รูปปั้นที่กำลังร่วมรักกันในหลายท่วงท่า (ทั้งขนาดเล็กและขนาดเท่าคน) ไปจนถึงคอลเล็กชั่นปลัดขิกอันน่าสนใจในขนาดต่างๆ ซึ่งทุกๆ ชิ้นล้วนแต่เป็นฝีมือของศิลปินไทยจากทั่วประเทศที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ

โดยการจะเข้าชมที่นี่นั้นจำเป็นต้องจองล่วงหน้าและเสียค่าเข้าชมจำนวน 500 บาท แต่ผู้เข้าชมทุกคนจะได้ของที่ระลึกน่ารักๆ อย่างปลัดขิกอันจิ๋วกลับบ้านไปด้วย

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา