Arai Arai

ที่นี่คืออะไร? คือสิ่งที่หลายคนอาจจะสงสัยหลังจากได้ยินชื่อ Arai Arai และเป็นไปได้ว่า ต่อให้มาเห็นกับตาก็จะยังคงสงสัยอยู่ เพราะเอาจริงๆ ที่นี่ก็ยังงงๆ อยู่ว่าตัวเองเป็นอะไร จะว่าแปลกก็แปลก จะว่าดีก็คงดีเพราะแปลกนี่แหละ

Arai Arai คือตึกเก่า 3 ชั้น ในย่านวงเวียน 22 กรกฎาคม ถนนไมตรีจิตร อายุราว 50 ปี ก่อนหน้านี้เป็นโกดังเก็บของและที่พักคนงานของร้านสติ๊กเกอร์แห่งหนึ่ง แต่เก่ากว่านั้น ผู้เช่าปัจจุบันอย่าง เต - เตชิต จิโรภาสโกศล และ ชาติ - สิรภพ ขำอาจ 2 พาร์ตเนอร์หลักของ Arai Arai  ไม่ได้บอกเราชัด

ทั้ง 2 คนเป็นคนบ้านไกลที่ต้องเดินทางมาทำงานที่ย่านนี้ 5-6 ปีผ่านไปก็รู้สึกว่าอยากมีพื้นที่ของตัวเอง ที่มาทำงานได้ วันไหนเลิกดึกก็แวะมาค้างคืนได้ หรือเอาไว้ต้อนรับเพื่อนฝูงในโอกาสต่างๆ นี่คือไอเดียตั้งต้น แล้วก็ได้เพื่อนๆ ของทั้ง 2 คน เข้ามาต่อนั่นเติมนี้ ซึ่งบางคนอยากเปิดร้านกาแฟ บางคนอยากทำเวิร์กช็อป บางคนอยากทำพื้นที่ศิลปะ จนออกมาเป็นอะไรๆ ที่ไม่จำกัดนิยาม แต่คำที่ใกล้เคียงที่สุดคงเป็น โซเชียลคลับ

“ไม่ต้องจำกัดก็ได้ว่าเป็นพื้นที่ดนตรี ศิลปะ พื้นที่นู่นนี่ที่มันเฉพาะ เพราะเรารู้สึกว่าพอมันเป็นพื้นที่ที่เฉพาะเกินไป มันก็มีช่องว่างที่ทำให้คนที่อยู่นอกเรื่องราวนั้นไม่กล้าเข้ามา เราก็อยากจะหาพื้นที่กลางๆ ที่อะไรๆ ก็ได้ ใครเข้ามาทำอะไรก็ได้”

ชั้นแรกคือร้านกาแฟของชาติ ชื่อ From Here From Home หรือ FH/FH เราบอกได้เลยว่า cafe hopper ที่เน้นถ่ายรูปกับร้านสวยๆ ไม่ชอบที่นี่แน่ เพราะนอกจากจะไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อจุดประสงค์นั้นแล้ว ยังดูของเยอะจนรกหน่อยๆ แต่ความตั้งใจของชาติคืออยากให้  FH/FH เป็นร้านกาแฟสโลวบาร์ที่ตั้งใจให้คนเข้ามานั่งจิบกาแฟช้าๆ ได้คุยกับเพื่อนใหม่มากกว่า

“เราอยากให้มันเป็นคอมมูนิตี้ เราไม่ใช่คาเฟ่จ๋า เราอยากให้คนมาเจอเพื่อนที่นี่ ไม่ได้ต้องมาดื่มกาแฟอร่อย แบบ “โห ฉันต้องมาชิมที่นี่” แต่อยากให้มาแล้วได้เพื่อน”

ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เราว่ากาแฟของที่นี่ก็ไม่น้อยไปกว่า specialty cafe ร้านไหนๆ เลย โดยเฉพาะการนำเสนอเมล็ดกาแฟไทยที่ไม่ได้เน้นแค่รสชาติ แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวของชุมชนไปพร้อมๆ กัน และในอนาคตก็จะชวนเกษตรกรตัวจริงมาจัดเวิร์กช็อปสนุกๆ ที่นี่ด้วย

ที่นี่มีระบบ Membership ที่มาพร้อมกับสิทธิในการเข้าใช้พื้นที่และทรัพยากรทุกอย่างในตึกได้ทุกเวลา  ซึ่งต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจกันประมาณหนึ่ง จึงไม่ใช่ใครก็สมัครได้ แต่จะเป็นกลุ่มเพื่อนหรือเพื่อนของเพื่อนที่รู้จักกันอยู่แล้วมากกว่า

ชั้น 2 คือร้านหนังสือ Vacilando Bookshop ของเพื่อนสมาชิกอีกคน ที่ย้ายร้านมาจากย่านอ่อนนุชเพราะทำเลดีกว่า เป็นร้านขายโฟโต้บุ๊กที่ไม่ได้หาง่ายๆ เลยมีฐานลูกค้าอยู่จำนวนหนึ่ง และพอร้านย้ายมาที่นี่ก็เหมือนพาพวกเขามาเจอคอมมูนิตี้ใหม่ๆ ส่วนตรงข้ามกับร้านหนังสือคือพื้นที่โล่งๆ สำหรับจัดกิจกรรมไม่จำกัดรูปแบบ ที่ผ่านมาเคยจัดทั้งเวิร์กช็อป ตั้งวงสนทนา รำไท่เก๊ก กิจกรรมเชิงจิตวิญญาณ

ชั้นบนสุดเหมาะกับกิจกรรมที่ต้องการความสงบ มีห้องนอนเล็กๆ สำหรับแวะมาชาร์จแบตฯ ระหว่างวันหรือแวะมาค้างคืน มีโฮมสตูดิโออเนกประสงค์ และที่น่าสนใจมากๆ ก็คือมีห้องบำบัดโดยศาสตร์แพทย์แผนทิเบตที่เน้นการเยียวยาจิตใจ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงล็อกดาวน์

เพิ่งรู้เหมือนกันว่าตึก 3 ชั้น ที่พื้นที่ไม่ได้กว้างขวางมาก จะเป็นอะไรๆ ได้เยอะขนาดนี้ ใครอยากรู้จักเพื่อนใหม่หรืออยากลองกิจกรรมแปลกๆ แต่ดี แวะไปได้ทุกวันพุธ-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป