Exofood Thailand
Tanisorn Vongsoontorn

Exofood Thailand ฟาร์มแมลงแนวตั้งที่อาจกลายเป็นแหล่งอาหารของเราในอนาคต

ลืมภาพแมลงทอด เหยาะซอส ใส่ถุงตามรถเข็นไปก่อน...

Kenika Ruaytanapanich
เขียนโดย
Kenika Ruaytanapanich
การโฆษณา

ในห้องกระจกใสขนาดกระทัดรัดที่ดูเผินๆ เหมือนห้องทดลองวิทยาศาสตร์ในย่านบางหว้าแห่งนี้ ที่จริงคือฟาร์มเพาะพันธุ์แมลงของทีม Exofood Thailand ที่เราไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่า ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่พวกเขาเริ่มลงมืออย่างจริงจัง จะสามารถเนรมิตฟาร์มแมลงที่มีทั้งความพร้อม และความสะอาด ซึ่งต่างจากภาพที่ใครหลายคนอาจคิดไว้ได้ขนาดนี้

อีกทั้งยังมีผลงานทดลองที่ น่ากิน ให้ชิมเป็นตัวช่วยยืนยันอีกว่า แมลงสามารถกลายเป็นแหล่งโปรตีนทดแทนในอาหารสำหรับสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ได้จริงๆ

Exofood Thailand
Tanisorn Vongsoontorn - Time Out Bangkok

จุดเริ่มต้นจากสัตว์พิเศษแสนรัก

ตั้ก - ชลธิชา สุจิตตารมย์ และ บูม - อธิวัชร พงษ์ศรัทธาสิน เป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ exotic มาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่พวกเขาพบเจอคือ สัตว์เลี้ยงประเภทนี้มีค่าใช้จ่ายเวลาป่วยแล้วต้องพบสัตวแพทย์สูงมาก ทั้งสองเลยคิดว่าจะมีวิธีไหนที่สามารถทำให้สัตว์เลี้ยง้หล่านี้สุขภาพดีได้ตั้งแต่ต้น ซึ่งคำตอบที่ได้คืออาหารที่เหมาะสม

อาหารที่เหมาะสมกับ exotic pets ส่วนใหญ่คือจำพวกแมลงหรือสัตว์เล็ก ซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นและเพียงพอต่อการดำรงชีพ ทว่าใครที่เลี้ยง exotic pets ก็อาจเคยเจอปัญหาเหมือนๆ กัน นั่นคือเราไม่มีทางรู้เลยว่าแมลงหรืออาหารที่ซื้อตามแหล่งขายอาหารสัตว์ทั่วไปนั้นมีคุณภาพแค่ไหน สะอาดหรือไม่ ถูกเลี้ยงมาอย่างไร และพวกมันกินอะไรเป็นอาหารก่อนจะกลายมาเป็นอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงพิเศษของเรา

ด้วยเหตุนี้เอง ตั้ก และ บูม และริเริ่มโปรเจ็คฟาร์มแมลงแห่งนี้ขึ้น โดยได้ รีย์ - ชารีย์ บุญญวินิจ เจ้าของฟาร์มลุงรีย์ มาร่วมทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา และ พี - พริษฐ์ นิรุตติศาสน์ ซึ่งเป็นคนมีความรู้และวิจัยเรื่องแมลงอยู่แล้ว เข้ามาร่วมทีมทำหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของทีม

exofood thailand
คุณตั๊ก คุณพี (บน) คุณรีย์ (ล่าง) และ คุณบูม – ทีมเอ็กโซฟู้ด ไทยแลนด์Tanisorn Vongsoontorn
exofood thailand
Tanisorn Vongsoontorn

“พวกผมต้องการยกระดับฟาร์มแมลงไทย เปลี่ยนความเข้าใจและมุมมองที่คนมีต่อแมลงให้รู้ว่าเราสามารถทำให้มันสะอาดได้ และเป็นอาหารที่มีโภชนาการด้วย” บูมเล่าให้ฟังถึงเป้าหมายของ Exofood โดยแมลงที่พวกเขาเลือกมาเพาะพันธุ์ตอนนี้มี 3 ชนิด ได้แก่ จิ้งหรีด ที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว แต่ทีมเชื่อว่าสามารถนำมาพัฒนาให้มีคุณค่าทางสารอาหารกว่าเดิมได้ ต่อมาคือ หนอนแมลงวันลาย (Black Soldier Fly) ที่อุดมไปด้วยไขมันดี โอเมก้าชนิด 3 6 และ 9 รวมถึงแคลเซียมและโปรตีนสูง และสุดท้ายคือ แมลงสาบดูเบีย (Dubia roach) ซึ่งเป็นแมลงชนิดที่มีโปรตีนสูงที่สุดใน 3 สายชนิด แม้จะขึ้นชื่อว่าแมลงสาบ แต่ดูเบียเป็นแมลงที่เลี้ยงง่าย กลิ่นน้อย กินจุ และถึกทน แถมค่อนข้างสงบเสงี่ยมไม่บินว่อนด้วย 

exofood thailand
Tanisorn Vongsoontorn
exofood thailand
Tanisorn Vongsoontorn

ใช้ความสะอาดลบภาพจำ

“แม้ว่ามิชชั่นแรกของเราคือการเป็นแหล่งอาหารให้สัตว์เลี้ยง exotic แต่สิ่งที่เราคำนึงถึงเสมอก็คือ ความสะอาด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ฟาร์ม โต๊ะ หรือภาชนะที่ใช้เลี้ยง และสำคัญที่สุดคือ กลิ่น ที่เชื่อว่าเป็นตัวสร้างความประทับใจแรกให้ทุกคนที่มาเยี่ยมฟาร์ม” บูมกล่าว

Exofood ให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดอย่างมาก เพราะการที่จะทำให้ฟาร์แมลงเป็นที่ยอมรับต้องลบภาพจำเดิมๆ ให้คนส่วนใหญ่รับทราบว่าแมลงที่ถูกเลี้ยงในฟาร์มนั้นแตกต่างจากแมลงทั่วไปตามท่อระบายน้ำหรือข้างถนนที่เราพบเห็น เนื่องจากแมลงเหล่านั้นกินขยะหรือเศษอาหารเป็นหลัก ทำให้มีกลิ่นเหม็นและสกปรก แต่ในทางกลับกัน แมลงในฟาร์มที่เลี้ยงด้วยอาหารพิเศษ และมีการควบคุมสภาพแวดล้อมภายในเป็นอย่างดี แมลงเหล่านี้จึงไม่มีกลิ่น สะอาด และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่

exofood thailand
Tanisorn Vongsoontorn

ฟาร์มในเมือง เป็นไปได้จริงในแนวตั้ง

ส่วนเหตุผลที่ทีมเลือกทำฟาร์มแมลงแนวตั้ง (Vertical Farming) ก็เพราะฟาร์มในรูปแบบนี้ใช้พื้นที่น้อยกว่าฟาร์มในแนวราบ ซึ่งเหมาะกับพื้นที่กรุงเทพฯ ที่พื้นทีค่อนข้างจำกัด อีกทั้งการใช้พื้นที่น้อยลงก็ยังทำให้ดูแลสัตว์ง่ายขึ้น และอีกในมุมหนึ่ง รีย์ก็ยังมองว่าการเลือกทำฟาร์มรูปแบบนี้ก็ยังเป็นตัวอย่างให้เกษตรกรคนอื่นๆ เห็นด้วยว่า การทำเกษตรในเมืองเป็นไปได้ ทว่าพวกเขายอมรับว่ามีความท้าทายอีกข้อหนึ่งที่พบเจอคือ ฟาร์มแนวตั้งนั้นมีค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์ที่ค่อนข้างสูง

Exofood Thailand
Tanisorn Vongsoontorn - Time Out Bangkok

ฟาร์มอาหารแห่งโลกอนาคต?

หลายคนตั้งคำถาม ว่าเพราะอะไร Exofood ถึงตัดสินใจริเริ่มโปรเจ็คที่ดูจะไปไกลกว่าความเข้าใจของคนทั่วไปในช่วงนี้ รีย์ให้เหตุผลง่ายๆ คือเพราะพวกเขาไม่ได้มองวันนี้แต่กำลังมองไปที่วันข้างหน้า ในวันที่ปศุสัตว์ปัจจุบันอาจจะไม่สามารถผลิตโปรตีนได้เพียงพอกับการบริโภค และแมลงอาจจะกลายเป็นแหล่งสารอาหารใหม่ของมนุษย์

"ถ้าสิ่งที่พวกเราทำไม่มีน้ำหนักมากพอ พวกผมก็คงไม่กล้าลงทุนทำในช่วงนี้ แต่เพราะพวกเรามองไปถึงเทรนด์การบริโภคที่ลดการกินเนื้อสัตว์ โดยเหตุผลไม่ใช่แค่ลดการฆ่า แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับมลภาวะที่เกิดจากการทำปศุสัตว์ด้วย ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหลักทำลายสิ่งแวดล้อม ในทางกลับกัน การทำฟาร์มแมลงสามารถช่วยแก้ปัญหา food waste ได้อีก รวมถึงปล่อยคาร์บอนน้อยกว่ามาก" 

พีเสริมว่าการเลี้ยงแมลงก็ถือว่าเป็นการทำปศุสัตว์ประเภทหนึ่ง แต่ข้อดีคือใช้พื้นที่และทรัพยากรน้อยกว่าหลายเท่า "อยกตัวอย่างเช่น อาหารที่ใช้เลี้ยงวัวในปริมาณเท่ากัน สามารถนำมาเลี้ยงแมลงได้มากกว่า 8-9 เท่าตัว อีกทั้งวัวตัวหนึ่งเราสามารถบริโภคได้เพียง 40% ส่วนที่เหลือก็กลายเป็นขยะอาหาร แต่แมลงมีส่วนที่กินได้มากถึง 80% ซึ่งหมายความว่าเราจะสร้างขยะอาหารน้อยลง"

Exofood Thailand
Tanisorn Vongsoontorn - Time Out Bangkok
Exofood Thailand
Tanisorn Vongsoontorn - Time Out Bangkok

ชิมแมลงแบบไม่เห็นแมลง

ปฏิบัติการเปลี่ยนแมลงให้เป็นอาหารที่คนทั่วไปกินได้เริ่มต้นที่สแน็กบ็อกซ์ที่ชาว Exofood เตรียมไว้ให้กับผู้มาเยี่ยมชมฟาร์มทุกคน 

สแน็กบ็อกซ์นี้ประกอบด้วย ดังโงะ มาการอง และ คุ้กกี้บราวนี่ ซึ่งแต่ละเมนูใช้หนอนแมลงวันลายที่มีโปรตีนและสารอาหารสูงเป็นส่วนประกอบ โดยจะถูกบดผสมอยู่ในวัตถุดิบ ซึ่งหลังจากเราได้ชิมทุกเมนูแล้วก็ต้องบอกว่า รสชาติและเนื้อสัมผัสเหมือนขนมรสชาติดีๆ ไม่มีผิดเพี้ยน 

“พวกเราใช้ชื่อว่า Exofood Thailand เพราะมั่นใจว่ามีประเทศเพื่อนบ้านอีกที่อาจกำลังคิดเหมือนกับเรา เพราะฉะนั้นพวกเราเลยอยากเห็นคนเข้ามาในธุรกิจแมลงและร่วมมือกันให้เกิดเป็น supply chain ช่วยขยายองค์ความรู้ต่อๆ กันไป ไม่ใช่การทำเลียนแบบกันจนล้นตลาด เราไม่ได้อยากมีพื้นที่ทำฟาร์มแมลงเป็นพันๆ ไร่ เราแค่อยากมีแพลตฟอร์มที่แข็งแรง และสามารถสร้างทีมที่จะร่วมมือกันทำธุรกิจนี้ด้วยกันได้ นี่แหละคือภาพของ Exofood ที่พวกเราอยากเห็น” รีย์พูดถึงภาพในอนาคตที่ทีมต้องการพาฟาร์มแมลงนี้ไปให้ถึงให้ได้

Exofood Thailand
Tanisorn Vongsoontorn
เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา