อีเวนต์น่าสนใจในกรุงเทพฯ ตลอดเดือนพฤศจิกายนนี้

บรรยากาศลมหนาวของสิ้นปีกำลังจะมาถึง เตรียมตัวชมเทศกาลแสงสีเสียงสุดยิ่งใหญ่ ที่จะกลับมาทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเต็มไปด้วยสีสันอีกครั้ง ที่งานวิจิตรเจ้าพระยา พบกับแสงไฟสุดตระการตาจัดเต็มยาวนานถึง 45 วัน และช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ หากใครที่กำลังหาแพลนออกจากบ้าน ก็เตรียมลอยกระทงท่ามกลางแสงไฟ พร้อมการแสดงพลุ แสง สี เสียงท่ามกลางวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยภายในงานจะมีการจุดพลุเหนือแม่น้ำ พร้อมการแสดงเชิงวัฒนธรรมในพิกัดต่างๆ ของกรุงเทพฯ การแสดงบินโดรนแปรอักษร การฉายภาพบนอาคาร การแสดงแสงเลเซอร์ผ่านเทคนิคทันสมัยที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยและเรื่องราววิถีชีวิตริมน้ำ ที่ ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร (ไม่มีค่าเข้างาน) วันที่ 9 พฤศจิกายน - 23 ธันวาคม เวลา 18.00 - 22.00 น.

วัดภูเขาทองเตรียมจัดงานประจำปีสุดยิ่งใหญ่ตลอด 10 วัน 10 คืน จัดเต็มทั้งของกิน ร้านค้า และกิจกรรมอื่นๆ อีกเพียบ บอกเลยว่าครึกครื้นไม่แพ้ปีอื่นแน่นอน สิ้นปีนี้ใครอยากไปไหว้พระ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมหาของกินอร่อยๆ จากร้านดังกว่า 1,000 เมนู ต้องไม่พลาด ความพิเศษภายในงานนี้ พบกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย บูธขายสินค้าและผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน และปิดท้ายด้วยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 จุด เพื่อความเป็นสิริมงคล ที่ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) กรุงเทพมหานคร ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 7 พฤศจิกายน เวลา 07.00 - เที่ยงคืน

Ghost 2568 กลับมาเป็นครั้งสุดท้ายของไตรภาคศิลปะร่วมสมัยอันทรงพลัง ที่เปิดพื้นที่ให้ผู้ชมได้สำรวจความทรงจำและอัตลักษณ์ผ่านศิลปะ ภายใต้ธีม ‘Wish We Were Here’ โดยภัณฑารักษ์ อามาล คาลาฟ ต่อเนื่องจากสองภาคก่อนโดย กรกฤต อรุณานนท์ชัย และ คริสติน่า ลี ปีนี้ Ghost พาเราเดินเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาท่ามกลางวิดีโอ อินสตอลเลชัน การแสดงสด และเสียงกระซิบจากความทรงจำของเมือง ที่ตั้งคำถามถึงการอยู่รอดในโลกที่เสรีภาพค่อยๆ ถูกบีบแคบลง เป็นทั้งบทเพลงไว้อาลัยให้สิ่งที่สูญสิ้น และจดหมายรักถึงสิ่งที่ยังคงอยู่ งานศิลปะที่ไม่ได้มีไว้เพียงให้ชมแต่ชวนให้เราตั้งคำถามถึงการเป็นส่วนหนึ่งของเมืองในวันที่เมืองกำลังเปลี่ยนรูปไป ที่ Bangkok CityCity Gallery ไม่มีค่าเข้างาน วันที่ 15 ตุลาคม - 16 พฤศจิกายน เวลา 11.00 - 19.00 น.

เตรียมไม้กายสิทธิ์ของคุณให้พร้อม เพราะโลกแห่งเวทมนตร์กำลังจะมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง พบกับการกลับมาของ Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ครั้งนี้พิเศษกว่าที่เคย เมื่อภาพยนตร์ระดับตำนานจะถูกฉายบนจอขนาดใหญ่ พร้อมเสียงดนตรีสดจาก Thailand Philharmonic Orchestra ที่จะบรรเลงบทเพลงของ John Williams ภายใต้การควบคุมของวาทยกร Timothy Henty นี่คือประสบการณ์ที่ผสานโลกของภาพยนตร์และซิมโฟนีได้อย่างสมบูรณ์แบบ ให้ผู้ชมดื่มด่ำทั้งภาพและเสียงแบบสดในหอประชุมสุดอลังการ ที่ Prince Mahidol Hall, มหาวิทยาลัยมหิดล บัตรราคา 1,200 - 4,000 บาท (จองบัตร) วันที่ 8 - 9 พฤศจิกายน ติดตามรายละเอียดและรอบการแสดงได้ (ที่นี่)

สายเขียวเตรียมตัวให้พร้อม เพราะ ‘หนัดกินผัก Fair 2’ กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลสุดมันส์ ปีนี้รวบรวมร้านค้ากว่า 100 ร้าน งานนี้ไม่ได้มีแค่ของกินของขายเท่านั้น แต่ยังเปิดบทสนทนาใหม่ๆ เกี่ยวกับความยั่งยืนในวงการกัญชา ภายในงานจะถูกแบ่งออกเป็นสามโซน เริ่มจากโซนเวิร์กช็อปสมุนไพรและนวดแผนไทย ต่อด้วยโซนดนตรีสดจากศิลปินมากความสามารถ และปิดท้ายด้วยโซนแห่งกลิ่นดิน ควัน และเสียงเบสที่สั่นสะเทือนหัวใจ และเตรียมโยกหัวไปกับไลน์อัปศิลปินสุดเดือดอย่าง Srirajah Rockers, Desktop Error, Bomb at Track และ Rejizz ที่จะมาจุดไฟให้ค่ำคืนของคุณเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม ที่ ช่างชุ่ย Creative Park ปิ่นเกล้า บัตรราคา 420 บาท (เข้างานได้สองวัน) (จองบัตร) วันที่ 8 - 9 พฤศจิกายน เวลา 16.00 - เที่ยงคืน

อีกหนึ่งเทศกาลที่คนรักสารคดีไม่ควรพลาด Taiwan Documentary Film Festival in Thailand กลับมาอีกครั้งพร้อมพาเราสำรวจชีวิตของผู้คนในไต้หวันผ่านสายตาของคนทำหนัง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ตั้งแต่ความผูกพันของครอบครัว ความเจ็บปวดจากการเมืองไปจนถึงภาพของเมืองที่กำลังเปลี่ยนผ่านระหว่างความทรงจำกับอนาคต งานนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันเปราะบางระหว่างความใกล้ชิด และระยะห่างได้อย่างงดงาม จัดฉายจากกรุงเทพฯ ไปถึงเชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา เพื่อเชื่อมโยงผู้ชมจากทั่วประเทศให้ได้สัมผัสพลังของภาพยนตร์สารคดีไปพร้อมกัน สำหรับกรุงเทพฯ ที่ House Samyan และ Century Sukhumvit (BTS อ่อนนุช) วันที่ 12 - 16 พฤศจิกายน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งเรื่องและรอบเวลาฉายได้ที่ House Samyan 

กลับมาอีกครั้งกับเทศกาลดนตรีสุดอบอุ่น South Eastern Old Time Gathering
พร้อมพาทุกคนมาดื่มด่ำไปกับเสียงดนตรีอะคูสติกที่หาได้ยาก ทั้ง Bluegrass, Irish Trad และ Old-Time จากศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศตลอด 3 วันเต็ม เริ่มต้นค่ำคืนแรกด้วย The Welcome Jam แจมกันแบบเป็นกันเองพร้อมเครื่องดื่มฟรีตลอด 3 ชั่วโมง ต่อด้วย The Gathering วันที่สองของเทศกาล เต็มอิ่มกับการแสดงต่อเนื่อง โซนตลาดเครื่องดนตรี งานคราฟต์และอาหารเครื่องดื่มมากมาย ปิดท้ายความสุขในวันอาทิตย์ด้วย Songs and Stories ฟังเพลงอะคูสติกเพลินๆ คู่กับบรันช์สุดพิเศษ ที่ Public House, สุขุมวิท 31 บัตรราคา 900 / 1,400 / 1,200 / 2,900 บาท (จองบัตร) วันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน ติดตามไลน์อัปศิลปินและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ bluegrassbkk

เตรียมระเบิดเสียงหัวเราะกับโชว์เดี่ยวไมโครโฟนครั้งแรกของ ‘แก๊ปโบ้-สิระ สิมมี’ ไรเดอร์บอมในตำนานจากซีรีส์สงครามสงด่วน และหนึ่งในเสียงคุ้นหูจากพอดแคสต์ 15 Minutes Wasted แห่ง Salmon Podcast ที่ขอขึ้นเวทีพูดทุกเรื่องไทยแลนด์ที่ไม่เข้าใจ ในแบบของตัวเอง และคนที่เติบโตมากับความงงงวยในความเป็นไทย ทั้งไทยแท้ ไทยแลง ไทยปลอม ครั้งนี้เขาจะพาคุณไปสำรวจตัวตน ความขำ และความงงในชีวิต ตั้งแต่เกิดจนโต ผ่านมุมมองสุดจี๊ดและมุกคมๆ ที่รับประกันว่าฟังรู้เรื่องแน่ ที่ ลิโด้ คอนเนค ฮอลล์ 2 บัตร Early Bird ราคา 690 บาท / Regular 890 บาท (จองบัตร) วันที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

ใครที่หลงใหลในศิลปะละครเวที ห้ามพลาด พบกับการกลับมาของคู่หู ‘ฮ่องเต้’ (Art of Hongtae) และ ‘แตงโม-กิตติพร โรจน์วณิช’ ที่จะพาคุณสำรวจขอบเขตของการแสดงผ่าน ละครรวมฉากสั้นๆ ที่แต่ละฉากใช้บทพูดเดียวกันแต่แตกต่างด้วยบริบท ตัวละคร และอารมณ์อย่างสิ้นเชิง รับรองว่าทุกฉากจะเซอร์ไพรส์ในแบบที่คาดไม่ถึง ผลงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Bangkok Theatre Festival 2025 (BTF 2025) กำกับโดย ‘นภัค ไตรเจริญเดช’ พร้อมบทพูดชุดใหม่ใน 7 สไตล์ 7 ฉาก ที่เข้มข้น สนุก และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ยิ่งกว่าเดิม ที่ หอศิลปกรุงเทพฯ (BACC) Studio ชั้น 4 บัตรราคา 390 บาท (จองบัตร) วันที่ 16 พฤศจิกายน เวลา 14.30 - 15.30 และ 19.00 - 20.00 น.

ลูกเพจกลูต้าสตอรี่และคนรักสัตว์ทั้งหลาย เตรียมตัวให้พร้อมกับงานเพ็ทแฟร์สุดอบอุ่น ที่พร้อมพาทุกคนเข้าสู่โลกของสัตว์สี่ขาในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะฮอลล์ไบเทค บางนา จะถูกเนรมิตให้กลายเป็นบ้านหลังใหญ่ของเหล่าเพ็ทครีเอเตอร์มากที่สุดในประเทศไทย ภายในงานจะได้พบกับขบวนพาเหรดเพ็ทครีเอเตอร์ เพลิดเพลินไปกับโชว์แสงสีเสียงสุดอบอุ่น ทั้งนิทรรศการน่ารักจาก Gluta Story x give.me.museums และมินิคอนเสิร์ตจาก Landokmai นอกจากนี้ยังมีโซนตลาดนัดจากเหล่าครีเอเตอร์ เวิร์กช็อปสนุกๆ ถึง 6 กิจกรรม และยังมีสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก Gluta Story Merch ให้ได้จับจองกลับบ้านไปแบบเต็มอิ่ม ที่ ไบเทค บางนา Hall 98  (ไม่มีค่าเข้างาน) วันที่ 7 - 9 พฤศจิกายน เวลา 10.00 - 20.00 น.

คอนเสิร์ตจากศิลปินไทยคุณภาพที่จะมาระเบิดเวทีให้คุณได้โยกหัวและอินไปกับเสียงดนตรีสดในบรรยากาศสุดอบอุ่นใจกลางทองหล่อ ณ Speakerbox ไลฟ์เฮ้าส์สุดเท่ ที่พร้อมต้อนรับทุกคน นอกจากดนตรีสุดเดือดแล้ว ยังมีนิทรรศการศิลปะจากกลุ่ม Door Dang Tattoo Designer ร้านสักสุดแนวที่จะมานำเสนอผลงานลวดลายจากปลายเข็มตลอดเดือนพฤศจิกายน เตรียมพบกับไลน์อัปศิลปินสุดพิเศษ ได้แก่ Telex Telexs, Temp. และ Pami, Supergoods, Venn และ _less, Apartment Khunpa, Poomjit และ Dotdotdot, ปิดท้ายเดือนกับ Laugh Laugh Laugh, Death Of Heather และ Dogwhine มาสนุกไปด้วยกันกับเสียงเพลงเจ็บๆ ที่จะทำให้ทุกอารมณ์ชัดขึ้นทุกจังหวะ ที่ Speakerbox ทองหล่อ บัตรราคา 390 บาท (จองบัตร) วันที่ 5, 12, 19 และ 26 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป 

ระเบิดความมันส์ส่งท้ายปีไปกับคอนเสิร์ตสุดพิเศษของวง Pru ที่จะพาคุณดื่มด่ำไปกับพลังเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ และลีลาการแสดงสดที่ทั้งดิบ เท่ และเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะ งานนี้บอกเลยว่าเป็นค่ำคืนที่แฟนเพลงไม่ควรพลาด เพราะทุกโชว์ของวงคือความสดใหม่และเต็มอิ่มในทุกวินาที นอกจากโชว์หลักสุดเข้มข้นแล้ว ยังมีแขกรับเชิญสุดพิเศษอย่างวง H3f ที่จะมาช่วยเติมสีสันด้วยซาวด์สุดเท่ และ Lne คู่แฝดสาวเสียงใสที่รับรองว่าจะทำให้คุณยิ้มไม่หุบตลอดคืน ที่ Melt Livehouse บัตรราคา 850 บาท (จองบัตร) วันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

หลังจากสร้างความประทับใจให้แฟนเพลงเมื่อสองปีก่อน Christian Kuria กลับมามอบความสุขให้แฟนเพลงชาวไทยอีกครั้งกับเอเชียทัวร์ในอัลบั้มใหม่ ‘Paradigm’ ที่เต็มไปด้วยเพลงเพราะชวนเคลิ้มอย่าง Ride, Slow Fade, Undecided และอีกหลายเพลงที่กำลังฮิตไปทั่วโลก แน่นอนว่าแฟนๆ ยังจะได้ฟังเพลงดังจากยุคแรกของเขาอย่าง Deep Green, Too Good และ Toroka แบบสดๆ ในบรรยากาศสุดอบอุ่น ที่ The Street Hall บัตรราคา 2,500 บาท (จองบัตร) วันที่ 10 พฤศจิกายน เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

สัมผัสประสบการณ์การดูคอนเสิร์ตรูปแบบไม่เหมือนใคร เพราะครั้งนี้จะไม่มีการประกาศรายชื่อศิลปินล่วงหน้า และไม่มีการบอกใบ้ใดๆ และทุกคนจะได้รู้พร้อมกันเมื่อเดินเข้าสู่หน้างานเท่านั้น ด้วยความตั้งใจของทีม Maho Rasop และ Fungjai ที่อยากพาแฟนเพลงออกไปสำรวจโลกดนตรีใหม่ๆ ผ่าน 5 ศิลปิน 5 แนวเพลง (3 International + 2 Local) ซึ่งถูกคัดสรรมาอย่างดี งานนี้เรียกได้ว่าเป็นการเปิดพื้นที่ให้คนฟังได้เจออะไรสดใหม่โดยไม่ต้องยึดติดอยู่ในกรอบหรือไม่ต้องมีความคาดหวังใดๆ มากำหนด ที่ Speakerbox ทองหล่อ บัตร Regular ราคา 1,390 บาท / Regular Group (ซื้อ 2 ใบขึ้นไป) ราคา 1,190 บาท (จองบัตร) บัตรหน้างาน ราคา 1,590 บาท วันที่ 29 พฤศจิกายน เวลา 18.00 น.   

ถ้าคุณเป็นคนที่หลงใหลทั้งศิลปะและธรรมชาติ นิทรรศการนานาชาตินี้คือโอกาสดีที่คุณไม่ควรพลาด งานนี้ใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือสำรวจแนวทางในการฟื้นฟูโลกและสิ่งแวดล้อม ผ่านมุมมองของศิลปินนานาชาติที่ตั้งคำถามต่อปัญหาสภาพภูมิอากาศ และเสนอแนวคิดในการเยียวยาโลกที่กำลังเผชิญวิกฤต ภายในนิทรรศการแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก ‘Undo Dmz’ พาไปสำรวจเขตปลอดทหารของเกาหลีผ่านงานศิลปะ ที่สะท้อนทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ส่วนที่สอง ‘Land Art and Non-Human Beings’ แสดงผลงานศิลปะบนผนังที่รวมสัญลักษณ์ต่างๆ เช่น ลวดหนาม ป้าย เขื่อนพลังน้ำ กังหันลม เพื่อสื่อถึงพลังงานและอัตลักษณ์ที่ซับซ้อนของคาบสมุทรเกาหลี ที่ หอศิลปกรุงเทพฯ ห้องนิทรรศการหลัก ชั้น 7 ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 25 พฤศจิกายน เวลา 10.00 - 20.00 น.