Melt Livehouse
Photograph: Melt Livehouse
Photograph: Melt Livehouse

กิจกรรมน่าทำในกรุงเทพฯ สุดสัปดาห์นี้ (2 - 5 ตุลาคม)

ต้อนรับสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคมด้วยกิจกรรมดีๆ ที่รอให้คุณออกไปสัมผัสตลอดสุดสัปดาห์นี้!

Yokploy Chandrabha
การโฆษณา

ต้อนรับสัปดาห์แรกของเดือนตุลาคม บอกเลยว่าเดือนนี้อัดแน่นไปด้วยอีเวนต์สุดพิเศษ เริ่มจากงานที่ชวนทุกคนมาตระหนักถึงปัญหาสภาพอากาศ พร้อมสนุกไปกับกิจกรรมกลางแจ้งแบบสร้างสรรค์ในงาน Bangkok Climate Action Week 2025 ต่อด้วยการเดินเล่นในตลาดคราฟต์เก๋ๆ ที่เต็มไปด้วยงานแฮนด์เมดและเวิร์กช็อปให้คุณได้ลงมือทำและเก็บผลงานติดไม้ติดมือกลับบ้าน หรือถ้าใครเป็นสายแฟชั่น โดยเฉพาะวัยรุ่นสยามที่กำลังมองหาไอเท็มใหม่ๆ ต้องไม่พลาดงานลดราคาของแบรนด์ไทยที่ยกขบวนกันมาให้ช็อปจนเพลิน

แน่นอนว่าสายดนตรีก็มีให้จัดเต็ม เพราะสุดสัปดาห์นี้มีคอนเสิร์ตใหญ่หลายแนวเพลงให้เลือกตามรสนิยม ไม่ว่าคุณจะอินดี้ ป็อป ร็อก หรือสายแจมก็พร้อมโดดกันทั้งคืน และเมื่อใกล้เข้าสู่เทศกาลฮาโลวีน ก็นำพาไปสู่บรรยากาศหลอนแบบชิลๆ กับงาน เหล้า เรื่อง ผี 2 ที่ขนทัพเครื่องดื่มกว่า 150 แบรนด์ ทั้งคราฟต์เบียร์และสุราพื้นบ้านพร้อมกับแกล้มอีกเพียบให้เลือกชิมกันแบบจัดเต็ม แต่ถ้าใครไม่ดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่ต้องห่วง เพราะยังมีงานสายชาที่ชวนมาจิบชาหอมๆ ท่ามกลางบรรยากาศสีเขียว แลกเปลี่ยนเรื่องราวดีๆ และสร้างแรงบันดาลใจไปด้วย

เรียกได้ว่าสุดสัปดาห์นี้มีครบทุกอารมณ์ ไม่ว่าจะสายแฮงก์เอาต์ สายคราฟต์ หรือสายชิล ปิดหน้าจอแล้วออกมามองหน้าคนจริงๆ กันเถอะ!

ชวนสายเขียวและคนรักสิ่งแวดล้อมไปทำกิจกรรมดีๆ ในงาน Bangkok Climate Action Week 2025

ได้เวลาที่กรุงเทพฯ จะลุกขึ้นมาขยับเพื่อโลกกับ Bangkok Climate Action Week 2025 เทศกาลใหญ่ที่จัดเต็มกิจกรรมฟรีเพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ พบกับเวทีเสวนา ดนตรีสด และนิทรรศการนวัตกรรมรักษ์โลก และความพิเศษยังไม่จบ เพราะตลอดสัปดาห์นี้ยังมีกิจกรรมกระจายทั่วกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นเวทีพูดคุยกับผู้นำด้านสภาพภูมิอากาศ เวิร์กช็อปแบบลงมือทำจริง ไปจนถึงโชว์งานศิลปะที่จะทำให้เราเห็นภาพชัดว่าอนาคตที่ยั่งยืนเป็นไปได้อย่างไร งานนี้คือโอกาสดีที่ทุกคนจะได้มามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนอนาคตของกรุงเทพฯ และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปด้วยกัน ที่ บริเวณรอบกรุงเทพฯ ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 4 ตุลาคม ติดตามรายละเอียดสถานที่จัดงานและตารางกิจกรรมได้ที่ Bangkok Climate Action Week

  • Things to do

กลับมาอีกครั้งอย่างที่หลายคนรอคอยกับ Slow Vibe Market vol.2 ตลาดสร้างสรรค์ที่อยากชวนทุกคนออกจากบ้านมาหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในบรรยากาศสบายๆ เต็มไปด้วยงานศิลป์และไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่ตลาด แต่คือพื้นที่ให้ทุกคนได้ลองทำสิ่งใหม่ๆ และเพลิดเพลินกับกิจกรรมที่คัดมาอย่างตั้งใจ ภายในงานคุณจะได้เดินเลือกชมสินค้าที่มีเอกลักษณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงาน Art & Craft สุดประณีต, งานแฮนด์เมดและ D.I.Y แฟชั่นไอเทมสุดชิค เสื้อผ้ามือหนึ่ง-มือสอง และเครื่องประดับ สำหรับสายแต่งตัว และโซนวินเทจ ที่เต็มไปด้วยของหายาก รวมถึงเวิร์กช็อปเก๋ๆ ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ลงมือทำเองจริงๆ นอกจากนี้ยังมีสตรีตฟู้ดและฟู้ดทรัคที่พร้อมเสิร์ฟทั้งของคาวหวานและเครื่องดื่มให้เลือกอร่อยกันได้ตลอดวัน ใครที่อยากพักผ่อนแบบไม่เร่งรีบ เดินเล่นชิลๆ ท่ามกลางบรรยากาศสโลว์ไลฟ์ ต้องไม่พลาดงานนี้ ที่ จุฬาซอย5 (สวนหลวงบรรทัดทอง-ดราก้อนทาวน์) ไม่มีค่าเข้างาน วันที่ 2 - 5 ตุลาคม เวลา 15.00 - 23.30 น.

การโฆษณา
  • Things to do

ถ้าคุณเคยอินไปกับเสียงเพลงจากคลื่นวิทยุในตำนานอย่าง Fat Radio หรือ Cat Radio ที่อยู่ข้างคนฟังเพลงนอกกระแสมาตลอดหลายสิบปี งานนี้คือโมเมนต์ที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด เตรียมพบกับ Fatcat Number 1 The Orchestra คอนเสิร์ตใหญ่ที่รวมเอาบทเพลงที่เคยขึ้นอันดับ 1 ของทั้งสองคลื่นมาบรรเลงใหม่ในรูปแบบออร์เคสตราสุดยิ่งใหญ่ พร้อมทัพศิลปินขวัญใจแฟนเพลงทุกเจน ไม่ว่าจะเป็น Ally, Boyd Trai, Boy Imagine, Burin Boonvisut, Kong Saharat, Noi Pru, Leck Proud, Hugo, Greasy Cafe, Phum Viphurit, Lham Somphol, Alien Safeplanet, Whal & Dolph, Yarinda, Yeah Slur, Yong Armchair, Yourmood, Mamio, Tul Apartment Khunpa, อ๋องแอ๋ง ไปส่งกู บขส.ดู๊ และยังมีอีกมากมายที่รอสร้างความทรงจำครั้งใหม่ ที่ One Bangkok Forum บัตรราคา 2000 / 2500 / 3000 / 3500 บาท (จองบัตร) วันที่ 4 ตุลาคม เวลา 18.00 - 22.00 น.

  • Things to do

งานนี้ ช่างชุ่ย Creative Park จับมือกับ ประชาชนเบียร์ จัดเต็มความสนุกให้คอเครื่องดื่มและสายปาร์ตี้ได้ชนแก้วกันจนถึงเที่ยงคืน ปีนี้บอกเลยว่าหลอนและมันส์กว่าเดิมหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศธีมฮาโลวีนที่ชวนให้ขนลุก พร้อม ขบวนเครื่องดื่มกว่า 150 แบรนด์ 300 รสชาติ ครอบคลุมทั้งคราฟต์เบียร์และสุราพื้นบ้านจากทั่วไทย ให้คุณได้ลองจนจุใจ แถมยังมี ของกินเล่นและกับแกล้มอีกกว่า 50 ร้าน ที่คัดมาแล้วว่าเข้ากับบรรยากาศสุดๆ นำทีมโดย Sun Valley Thailand ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยคู่ความมันส์ ที่ ช่างชุ่ย Creative Park ปิ่นเกล้า ไม่มีค่าเข้างาน วันที่ 3 - 5 ตุลาคม เวลา 15.00 - เที่ยงคืน

การโฆษณา
  • Things to do

ได้เวลาปล่อยพลังความมันส์กับ Ford Trio วงนีโอไทยฟังก์สุดจัดจ้านที่พร้อมมาทำให้ Melt Livehouse เดือดเป็นไฟ พบกับ 3 หนุ่มทรีโอ้รุ่นใหม่ที่หลายคนจับตามอง ด้วยการผสมผสานดนตรี Neo Soul, Alternative Rock และกลิ่นอาย Psychedelic Guitar ที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร และล่าสุดเพิ่งปล่อยอัลบั้มเต็ม ‘Yant’ ที่จัดเต็ม 7 เพลงแนวไทยๆ ขลังๆ ให้แฟนเพลงได้เสพความเท่กันทั่ว และยังเพิ่งกลับจากทัวร์ต่างประเทศหมาดๆ

ครั้งนี้ถึงคิวแฟนเพลงชาวไทยจะได้มันส์กันต่อสดๆ ในระยะประชิด เตรียมกดบัตรแล้วมาสนุกไปกับโชว์ที่รับรองว่าเต็มสูบแบบไม่มียั้งแน่นอน ที่ Melt Livehouse บัตรราคา 350 / 500 / 800 บาท (จองบัตร) วันที่ 3 ตุลาคม เวลา 19.00 เป็นต้นไป

  • Things to do
  • วัฒนา

ตลอดเดือนตุลาคมนี้ เตรียมอินไปกับบรรยากาศสุดอบอุ่นในโปรเจกต์พิเศษ Umt X Bask Project: Olivia Dean The Art Of Loving Workshop Takeover Bangkok ที่จัดขึ้นเพื่อฉลองอัลบั้มใหม่ The Art Of Loving ของศิลปินสาวเสียงละมุน Olivia Dean ใครที่เป็นแฟนเพลงของเธอ หรือชื่นชอบงานอาร์ต ไลฟ์สไตล์ และคาเฟ่ บอกเลยว่าต้องไม่พลาด ภายในงานคุณจะได้เพลิดเพลินไปกับ 4 กิจกรรมไลฟ์สไตล์สุดชิค ที่ได้แรงบันดาลใจตรงจากอัลบั้ม ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช็อปงานคราฟต์สวยๆ ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม, นิทรรศการศิลปะจากศิลปินโลคอล, เมนูเครื่องดื่มและขนมหวานที่รังสรรค์ขึ้นมาเฉพาะกิจ และการตกแต่งร้านที่ถ่ายทอดคอนเซ็ปต์ The Art Of Loving ออกมาอย่างลงตัว ที่ Bask Project สุขุมวิท 49 ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 31 ตุลาคม เวลา 10.00 -18.00 น.

การโฆษณา
  • Things to do

ใครที่เชื่อว่าชาไม่ได้มีไว้แค่ดื่ม แต่คือพื้นที่ของการแบ่งปันรสชาติ กลิ่นหอม และเรื่องเล่าเล็กๆ ที่เติมเต็มหัวใจ ต้องไม่พลาดกับงาน Kin Cha Mai? Teagethr! ที่จะชวนทุกคนมานั่งจิบชาหอมๆ ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น สบาย และเต็มไปด้วยความสนุกในแบบที่ชาแต่ละถ้วยมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน เหมือนกับเรื่องราวของแต่ละคนที่พร้อมจะถูกเล่าผ่านรอยยิ้มและการพูดคุย ภายในงานคุณจะได้เดินเล่นชมร้านค้าชิคๆ ที่เต็มไปด้วยชาและของน่ารักๆ ที่คัดสรรมาอย่างมีสไตล์ แวะมุมเวิร์กช็อปทำกิจกรรมเพลินๆ พร้อมจิบชาไป แลกเปลี่ยนเรื่องราว อัปเดตชีวิตกับเพื่อนเก่า และทำความรู้จักเพื่อนใหม่ เพราะทุกถ้วยชาที่นี่ไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่คือจุดเริ่มต้นของบทสนทนา ความเข้าใจใหม่ๆ และเสียงหัวเราะที่อบอุ่นใจ ที่ GalileOasis ไม่มีค่าเข้างาน วันที่ 4 - 5 ตุลาคม เวลา 10.00 - 19.00 น.

  • Things to do

งานสุดยิ่งใหญ่แห่งปี ที่รวม 100 ร้านเด็ดทั่วไทย ทั้งอาหารไทย เครื่องดื่ม และเมนูพิเศษจากทั่วประเทศ พร้อมโชว์ทำอาหารจากเชฟและบาร์เทนเดอร์ชื่อดังอย่าง เชฟอิน ณรงค์ฤทธิ์ และเวิร์กช็อปสนุกๆ ให้คุณได้เรียนรู้เทคนิคทำเครื่องดื่มสุดพิเศษด้วยตัวเอง นอกจากอาหารและเวิร์กช็อปแล้ว ยังมีคอนเสิร์ตสุดมันส์จาก Proxie, Purpeech, Getsunova, Yokee Playboy, Mean Band และ Palmy ให้ฟังกันยาวๆ ตลอด 3 วัน เต็ม พร้อมโซนโฟโต้บูธเก๋ๆ, นิทรรศการ Behind the Bottle เปิดโลกเบื้องหลังแรงบันดาลใจ, DJ Zone ให้เพลินกับบีตมันส์ๆ และแลนด์มาร์ก Thai Serve จุดเช็กอินสุดชิคที่พร้อมให้ทุกคนเก็บโมเมนต์พิเศษได้แบบไม่ซ้ำใคร ที่ One Bangkok Park วันที่ 3 - 5 ตุลาคม เวลา 16.00 - 22.00 น.

การโฆษณา
  • Things to do
  • ราชประสงค์

เตรียมตัวพาย้อนเวลาไปสัมผัสเสน่ห์โลกวินเทจแบบจัดเต็มกับโปรเจกต์พิเศษโดย Made By Legacy จับมือกับ Floor and Wall (Tokyo) ที่จะพาคุณดื่มด่ำกับไลฟ์สไตล์เท่ๆ ความดิบที่มีสไตล์ และการคัดสรรชิ้นงานสุดยูนีคที่ทุกชิ้นเต็มไปด้วยเรื่องราวภายในงานคุณจะได้พบกับของสะสมหายากและงานดีไซน์เฉียบ ตั้งแต่ ของแต่งบ้านอย่างพรมวินเทจจากไทยและต่างประเทศ, โปสเตอร์สุดไอคอนิก, เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เท่, งานอาร์ตสุดคราฟต์, แผ่นเสียงหายาก ไปจนถึงของตกแต่งที่บอกเล่าเรื่องราวได้ทุกมุมพร้อมด้วยการกลับมาครั้งนี้ที่จัดหนักกว่าเดิมกับ กว่า 150 ร้านค้า นอกจากช็อปปิ้งแล้ว ยังมีมุมถ่ายรูปเพียบให้เก็บโมเมนต์สวยๆ เดินชิลถ่ายสนุกทุกโซน ที่ Forum, Gaysorn Amarin ไม่มีค่าเข้างาน วันที่ 3 - 12 ตุลาคม เวลา 10.00 - 21.00 น. 

  • Things to do

ได้เวลาเตรียมปลดปล่อยพลังเสียงและความมันส์กันอีกครั้งกับเทศกาลดนตรีที่สายแจมตัวจริงต้องมา ปีนี้บอกเลยว่าเดือดยิ่งกว่าปีก่อน เพราะยกทัพศิลปินเบอร์ใหญ่ 12 วงแถวหน้าของไทย มารวมกันบนเวทีเดียว และที่พีคไปกว่านั้นคือการคอลแลบสุดพิเศษ ที่จะทำให้คุณได้เห็นโมเมนต์ดนตรีแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อน ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ของ เจมสัน คอนเนคส์ ที่อยากสร้างพื้นที่แห่งการแจมให้ทุกคนได้แชร์แรงบันดาลใจผ่านเสียงเพลง ศิลปะ และสไตล์อย่างไร้ขอบเขต โดยศิลปินที่ขนโชว์มาเต็มอิ่มทั้งคืน ได้แก่ Bowkylion, Jaylerr, Lipta, Maiyarap, Mirrr, Musketeers, No One Else, Polycat, Pru, Purpeech, Scrubb และ Yourmood  เรียกได้ว่าไม่มีพัก ไม่มีเบรก ฟังกันยาวๆ ตั้งแต่บ่ายยันดึก ที่ Uob Live Bangkok ชั้น 6 Emsphere บัตรราคา 699 บาท (จองบัตร) วันที่ 5 ตุลาคม เวลา 15.00 - 23.00 น.

การโฆษณา

Bangkok International Film Festival 2025

คนรักภาพยนตร์เตรียมตัวให้พร้อม กับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 2568 กลับมาอีกครั้งหลังจากเว้นช่วงไปหลายปี ครั้งนี้จัดเต็มโปรแกรมหนังนานาชาติกว่า 200 เรื่องจากหลากหลายประเทศ ภายใต้การขับเคลื่อนของ THACCA และ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับโรงภาพยนตร์ทุกเครือในกรุงเทพฯ โดยไฮไลต์ของเทศกาลอยู่ที่ ตลาดภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเวทีให้ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และนักลงทุนได้พบปะและสร้างเครือข่าย พร้อมบูทจากบริษัทในอุตสาหกรรมกว่า 50 ราย และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย พิเศษสุดๆ เริ่มเปิดม่านเทศกาลด้วยภาพยนตร์ไทยเรื่องพิเศษ ‘ธี่หยด 3’ ที่ โรงภาพยนตร์ทั่วกรุงเทพฯ ทั้งเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์, เอส เอฟ ซีเนม่า, เฮ้าส์ สามย่าน และลิโด้ คอนเน็คท์ วันที่ 27 กันยายน - 15 ตุลาคมนี้ ติดตามโปรแกรมหนังและรอบเวลาฉายได้ที่ BKKIFFofficial

  • Things to do
  • พร้อมพงษ์

นิทรรศการที่จะพาทุกคนไปสำรวจมุมมองที่โลกภายนอกใช้จินตนาการถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไทย ในขณะเดียวกันก็สะท้อนอคติของผู้คนท้องถิ่นต่อผู้มาเยือน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือลูกจ้างแรงงาน ผลงานโดย ตินติน คูเปอร์ ศิลปินที่จะมาเล่าประสบการณ์การเติบโตของเธอที่ได้พบเจอมาในหลายประเทศ ตั้งแต่เชียงคำ ภูเก็ต เวียงจันทน์ ไปจนถึงมาลาวี เนปาล และฝรั่งเศส เหล่านี้ล้วนทำให้เธอเข้าใจการมองวัฒนธรรมทั้งจากสายตาคนนอกและคนใน โดยผลงานที่จัดแสดงได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมออนไลน์ร่วมสมัย ตั้งแต่มีมสัตว์ วิดีโอ TikTok ของนักท่องเที่ยว ไปจนถึงฟอรัม ‘Passport Bro’ และพาดหัวข่าวไทย สะท้อนชีวิตที่ต้องเรียนรู้ภาษาใหม่และปรับตัวต่อพฤติกรรมแปลกใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่ SAC Gallery ชั้น 1 ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 8 พฤศจิกายน เวลา 11.00 - 18.00 น.

การโฆษณา
  • Things to do
  • ประเวศ

สำหรับใครอยากลองสัมผัสหมอลำในมุมมองที่แตกต่างออกไปต้องไม่พลาดนิทรรศการหมอลำร่วมสมัย ที่เกิดขึ้นจากศิลปินหลากหลายแขนงจับมือกัน ตีความหมอลำให้กลายเป็นประสบการณ์ใหม่ที่เต็มไปด้วยแสง สี เสียง และบรรยากาศแบบ Immersive ที่ดึงผู้ชมให้ดำดิ่งไปกับท่วงทำนองสุดม่วน และผลงานไฮไลต์คือสำหรับงานนี้คือ ‘FON’ งานประติมากรรมจลน์ (Kinetic Sculpture) ของ วิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน พร้อมขับเคลื่อนไปพร้อมกับจังหวะหมอลำร่วมสมัยจากวง Paradise Bangkok Molam International Band และเสียงทดลองโดย PLERN VERN ที่ช่วยเติมความเข้มข้นให้โลกหมอลำดูสดใหม่กว่าที่เคย ที่ แมด มันมัน ศรีนครินทร์ชั้น 1, ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 9 พฤศจิกายน เวลา 11.00 - 19.00 น. 

  • Things to do
  • ประเวศ

หากคุณยังจดจำ ‘Frankie Wonga’ ผู้ชนะจากรายการ Drag Race Thailand Season 3 ได้ดี นิทรรศการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะเธอจะมาจัดแสดง Costume Exhibition ครั้งแรก พร้อมขนชุดสุดอลังการจากลุคต่างๆ ในรายการมาให้ผู้ชมได้สัมผัสใกล้ชิดแบบตาเห็น ผ่านการจัดแสดงในรูปแบบ 5 ห้อง 5 มิติ ที่ถ่ายทอดความหมายและเรื่องราวของการแสดงศิลปะการแต่ง Drag ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่หน้าเวที เริ่มต้นที่ Script Room ห้องที่ว่าด้วยพลังของตัวอักษร ร่วมกับสำนักพิมพ์ PS.Publishing ที่กล้านำเสนอแง่มุมใหม่ของการเล่าเรื่อง ห้องที่สอง Costume เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ใกล้ชิดกับแฟรงกี้และผลงานการสร้างตัวตนผ่านเครื่องแต่งกายอย่างเต็มรูปแบบ ห้องที่สาม Musicians ร่วมกับศิลปิน narnims และ jinjinxmsms ที่จะมอบบรรยากาศทางดนตรีอันหลากหลาย ห้องที่สี่ Spectator ที่ร่วมสร้างประสบการณ์การรับชมไปกับศิลปิน stuffedheart_, wandawawa และ AONGSA และปิดท้ายห้องที่ห้าด้วย Wall of Frame ที่เชื้อเชิญให้ผู้ชมร่วมตีความเสียงปรบมือและความหมายที่อยู่เบื้องหลังทุกการแสดง ที่ มันมัน ศรีนครินทร์ - ห้างสรรพศิลป์คราฟท์ ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 26 ตุลาคม เวลา 11.00 - 19.00 น. 

การโฆษณา
  • Things to do
  • ประเวศ

ครั้งแรกกับนิทรรศการเดี่ยวของ ‘ยุ้ย–ภควรรณ ทองวานิช’ หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Atelier Pakawan อดีตนักออกแบบสาวที่ตัดสินใจก้าวเข้าสู่เส้นทางนักปั้นเซรามิกอย่างจริงจัง หลังจากใช้ชีวิตกว่า 2 ปีในเมือง เซโตะ เมืองเล็กๆ ของญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องปั้นดินเผา เธอเก็บเกี่ยวทั้งความรู้ ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจ และถ่ายทอดออกมาเป็นชิ้นงานศิลปะที่เสมือนเครื่องบันทึกความทรงจำการเดินทางครั้งสำคัญ ภายในนิทรรศการพบกับ ภาพวาด งานเซรามิก และกิจกรรมพิเศษที่จะพาทุกคนเพลิดเพลินไปกับโลกของเธอแบบไม่มีพัก นี่คือโอกาสดีสำหรับใครที่รักงานเซรามิก หรือหลงใหลในกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่น ที่จะได้สัมผัสเรื่องราว ความงาม และแรงบันดาลใจที่ถูกหล่อหลอมขึ้นจากดินด้วยหัวใจ ที่ แมด, มันมัน ศรีนครินทร์ MMAD BOX Gallery ชั้น 2 ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 2 พฤศจิกายน เวลา 10.30 - 19.00 น. (ศิลปินจะเข้ามาที่นิทรรศการทุกๆ วันเสาร์ - อาทิตย์ ยกเว้นวันที่ 25 - 26 ตุลาคม)

  • Things to do

นิทรรศการกลุ่มที่ชวนผู้ชมออกเดินทางไปสำรวจภูมิทัศน์ทางอารมณ์ ผ่านงานศิลปะที่ทำหน้าที่เหมือนพื้นที่ปลอดภัย เปิดโอกาสให้เราโอบรับความเปราะบาง รับมือกับความปั่นป่วน และปล่อยใจให้เยียวยาไปกับความเรียบง่ายของการสร้างสรรค์ ผ่านฝีแปรงของศิลปินทั้งสี่ ได้แก่ Mamas Gold, Jayjeorje, ปราชญ์น้ำเพชร กนกนาค และอารดา คุ้มวงษา ที่ต่างมีวิธีเล่าเรื่องความรู้สึกของตัวเองผ่านศิลปะที่ไม่เหมือนกัน สำหรับ Mamas Gold การวาดภาพคือกิจวัตรประจำวันที่อ่อนโยน ปราชญ์น้ำเพชร ใช้ศิลปะเป็นเครื่องโอบกอดและเยียวยาความเปราะบางภายในตัวเอง ส่วน Jayjeorje ใช้งานศิลปะเป็นพื้นที่หลบหลีกความวุ่นวายของเมืองกรุง และสร้างอิสระให้กับจังหวะชีวิตของตัวเอง ผลงานในนิทรรศการถักทอจากความทรงจำ จังหวะชีวิต และความรู้สึก ชวนให้ผู้ชมได้หยุดสักครู่และหันกลับมาสังเกต ฟัง และใส่ใจความรู้สึกของตัวเองอีกครั้ง ที่ BACC pop up Gallery 1 ชั้น 3 แมด, มันมัน ศรีนครินทร์ ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 5 ตุลาคม เวลา 09.00 - 18.00 น.

การโฆษณา
  • Things to do
  • สุรวงศ์

นิทรรศการศิลปะร่วมสมัยที่ถ่ายทอดสีสันผ่านภาษา อารมณ์ และจังหวะความรู้สึกของ 6 ศิลปินชาวเกาหลีมากความสาสารถ ได้แก่ ทูมยอง (2Myoung), อิมโซลจี (Im Solji), คิมอ๊ก-จิน (Kim Ok-Jin), ลีแจยุล (Lee Jaeyual), ซูซี่ คิว (Suzy Q) และ ควายา (Qwaya) ภายในงานผู้ชมจะได้สัมผัสผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละศิลปินในรูปแบบต่างๆ พร้อมกิจกรรมพิเศษ Choose Your Own Color ที่พาทุกคนค้นหาตัวตนผ่านการเลือกไพ่ทาโรต์และค้นพบ Lucky Color ของตัวเอง ใครที่ชื่นชอบสีสันและอยากชาร์จพลังบวก ห้ามพลาดงานนี้เด็ดขาด ที่ Maison JE Bangkok ไม่มีค่าเข้างาน วันนี้ - 12 ตุลาคม เวลา 11.00 - 19.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)

  • Things to do
  • เยาวราช

ใครเป็นแฟนสนูปปี้และแก๊งผองเพื่อนพีนัทต้องกาปฏิทินเอาไว้เลย เพราะนี่คือนิทรรศการสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปสัมผัสมิตรภาพ ความอบอุ่น และความน่ารักของเจ้าหมาน้อยและเหล่าผองเพื่อน ผ่านงานศิลปะกว่า 100 ผลงาน ครบทั้ง 4 โซนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ประติมากรรม แฟชั่น หรือสื่อบันเทิง ไปจนถึงงานศิลปะร่วมสมัยสุดครีเอทีฟ โดยความพิเศษคือผลงานทั้งหมดนี้ถูกตีความใหม่ผ่าน 25 ศิลปินมากฝีมือทั้งไทยและต่างชาติ ควบคู่กับผลงานต้นฉบับจากคอมมิกและแอนิเมชันสุดคลาสสิกกว่า 50 ชิ้น แถมยังมี 24 แบรนด์แฟชั่นระดับแนวหน้าที่ตั้งใจรังสรรค์ผลงานสุดน่ารักออกมาให้ชาวไทยได้รับชมและอินกันอย่างเต็มที่ ที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ชั้น 2 บัตร Concession Early Bird ราคา 300 บาท / General Admission Early Bird 350 บาท / Exclusive Package 890 บาท (จองบัตร) วันที่ 6 กันยายน - 7 ธันวาคม เวลา 10.00 - 20.00 น.

การโฆษณา
  • Things to do

ห้องอาหารหยู้ ทิง หยวน ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชวนคุณมาสัมผัสรสชาติอาหารกวางตุ้งแบบพรีเมียม ผ่านเมนูที่เชฟทอมมี่ เฉิง เอ็กเซ็กคิวทีฟเชฟครัวจีน รังสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยการผสมผสานวัตถุดิบสดใหม่ พร้อมเทคนิคการปรุงร่วมสมัย แต่ยังคงความคลาสสิกไว้อย่างครบถ้วน นอกจาก Chef’s Tasting คอร์สพิเศษแล้ว ยังมีเมนู a la carte ให้เลือกเพลิดเพลินตามชอบ แต่ละจานเล่าเรื่องราวความอร่อยในมุมมองใหม่ เช่น ซุปกระเพาะปลาตุ๋นเห็ดมอเรลและโสมอเมริกัน เป๋าฮื้อนึ่งเส้นแก้วซอสกระเทียม หรือหมูสามชั้นผัดมะกอกดำบ่มในซอสเปรี้ยว และอีกหลากหลายเมนูที่รอให้คุณมาลิ้มลอง ที่  ห้องอาหาร Yu Ting Yuan โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 

  • Things to do
  • เจริญนคร

หากคุณเติบโตมากับมังงะหรือเป็นคออนิเมะ คงไม่มีใครไม่รู้จักตำนานแฟรนไชส์ระดับโลกอย่าง ‘ดรากอนบอล’ และครั้งนี้เตรียมออกเดินทางสู่ประสบการณ์สุดยิ่งใหญ่กับนิทรรศการที่เนรมิตพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ณ ไอคอนสยาม ให้กลายเป็นอาณาจักรดรากอนบอลสุดอลังการ โดยครั้งนี้มาพร้อมคอนเซปต์ Heroes Rise พาย้อนวันวานไปกับโมเดลและหุ่นเสมือนจริงของเหล่าตัวละครในความทรงจำให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิดกันแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ ไอคอนสยาม Attraction Hall ชั้น 6 บัตรวันธรรมดา 550 บาท บัตรวันเสาร์-อาทิตย์ 650 บาท บัตรสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ 400 บาท Premium Set A 850 บาท และ Premium Set B 1,100 บาท (จองบัตร) วันนี้ - 19 ตุลาคม วันจันทร์ - วันอาทิตย์ เวลา 10.30 - 21.00 น. และเวลาเข้าชมรอบสุดท้าย เวลา 20.30 น.

การโฆษณา
  • Things to do
  • รัตนโกสินทร์

คนรักไนโดเสาร์ต้องห้ามพลาด! กับงานที่รวบรวมงานศิลปะ ประติมากรรม ซากฟอสซิสของเหล่าไดโนเสาร์พันธุ์ไทยทั้งแบบจำลองและของจริงมาไว้ให้ชมในที่เดียว ไปร่วมสำรวจร่องรอยอารยธรรมสัตว์โลกล้านปี พร้อมชมผลงานศิลปะของศิลปินไทย นำโดย Art of Hongtae / Riety / ไทวิจิตร พึ่งเกษมสมบูรณ์ ที่มาร่วมรังสรรค์ให้นิทรรศการครั้งนี้สมบูรณ์และสนุกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ภายในงานยังมีของที่ระลึกสุดว้าวอย่างจตุคามพระเครื่องไดโนเสาร์ และกิจกรรมอื่นๆ ให้ได้ใช้เวลาเต็มอิ่มกันตลอดทั้งวัน ที่ ท่าพิพิธภัณฑ์ (Museum Pier) โครงการท่าช้าง วังหลัง ราคาบัตรสำหรับคนไทย เด็ก 150 บาท ผู้ใหญ่ 250 บาท / ชาวต่างชาติ เด็ก 250 บาท ผู้ใหญ่ 350 บาท วันนี้ - 2 พฤศจิกายน เวลา 10.00 - 18.00 น.

  • Things to do

สำหรับใครที่กำลังมองหาบุฟเฟ่ต์โรงแรมใจกลางกรุงเทพฯ ที่ทั้งคุ้มค่าและอัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียม เราขอแนะนำ Premium Seafood Dinner Buffet ที่ห้องอาหาร Espresso โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ที่ยกขบวนซีฟู้ดสดใหม่มาให้อิ่มอร่อยกันแบบไม่อั้น ทั้งก้ามปูอลาสก้าสีทองเนื้อแน่น แคนาเดียนล็อบสเตอร์ หอยนางรมไอริช และ Fine de Claire ไปจนถึงไข่ปลาหลากชนิดให้เลือกชิมอย่างจุใจ

ความอร่อยยังต่อเนื่องมาที่โซน BBQ ก็มีให้สั่งทั้งกุ้งแม่น้ำย่างซอสตะไคร้ ปลาเก๋าย่างเสิร์ฟกับซอสครีมผสมผักชีลาว เนื้อวากิว และเนื้อแกะนำเข้าชั้นดี เสิร์ฟร้อนๆ ถึงโต๊ะทุกจาน พร้อมด้วยไลน์อาหารนานาชาติครบครัน ทั้งแกงแบบไทยๆ ซาซิมิแล่สดๆ และอาหารจีนยอดนิยมอย่างเป็ดปักกิ่ง หมูกรอบ และหมูแดงที่สายฟู้ดไม่ควรพลาด

ก่อนอิ่มจนลุกไม่ไหว อย่าลืมตบท้ายด้วยของหวานอย่าง เครปซูเซตต์ และ ข้าวเหนียวมะม่วง หอมหวานมันกำลังดี พร้อมดื่มด่ำบรรยากาศสบายๆ ไปกับเสียงดนตรีแจ๊สสดที่บรรเลงคลอเบาๆ ตลอดมื้อค่ำ

Premium Seafood Dinner Buffet ให้บริการที่ ห้องอาหาร Espresso โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 18.00 - 22.30 น.

ได้รับการสนับสนุน
การโฆษณา
  • Things to do

หากคุณเป็นสาย Breakfast Lover ที่อยากลิ้มลองอาหารเช้าแบบไม่ต้องแข่งกับเวลา หรือมองหาสถานที่แฮงเอาต์ชิลๆ ใจกลางกรุง สุดสัปดาห์นี้ลองแวะมา CRAFT ที่เพิ่งเปิดตัวเมนูใหม่ล่าสุด ที่พร้อมเสิร์ฟตลอดวัน ตั้งแต่ 7 โมงเช้ายัน 5 ทุ่ม เมนูที่นี่หลากหลายแบบข้ามทวีป เริ่มตั้งแต่ พายอาหรับร้อนๆ ไปจนถึง เฟรนช์โทสต์เบคอน และ โจ๊กทะเลแบบไทยๆ ที่ได้รสชาติจัดจ้านถึงใจ สำหรับสายเฮลท์ตี้ก็มี สมูทตี้โบวล์อัดแน่นไปด้วยสารอาหหารและไฟเบอร์ หรือเมนูมังสวิรัติอย่างเต้าหู้และเทมเป้ทอด  แต่ถ้าใครอยากจัดหนัก CRAFT ก็มีตัวเลือกที่น่าตื่นตาอย่าง double smashed burger กับแพตตี้เนื้อชิ้นหนาคู่อัดแน่นเต็มคำ หรือจะลอง แซนด์วิช BLT / ชาร์วามาไก่ / แซนด์วิชหน้าเปิดสลัดวอลดอร์ฟกุ้งมังกร ก็มีให้เลือกไม่รู้เบื่อ
ที่ CRAFT โรงแรมคิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ เปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 7.00 - 23.00 น. โทร 02-056-9999

  • Things to do

ใครกำลังแพลนหาที่กินข้าวกลางวันอิตาเลียนแบบที่ได้ฟีลลิ่งต้นตำรับจริงๆ แล้วตอบโจทย์ทั้งวันที่ต้องรีบเคลียร์งาน หรือวันหยุดชิลๆ อยากเอนจอยมื้อเที่ยงยาวๆ ต้องลิสต์ Ms.Jigger ไว้เลย เพราะตอนนี้เค้าเพิ่งเปิดตัว Pranzo Perfetto หรือ Perfect Lunch 

ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์มาพร้อม Antipasti ไม่จำกัด  ตั้งแต่เวลา 11.30 - 17.00 น. ที่เสิร์ฟไม่อั้น ทั้งมะกอกดอง โคลด์คัต ชีส บรูเชตตา และอีกเพียบ แถมยังเลือกจานหลักได้อีก 1 เมนู ในราคา 950 บาท (หรือ 1,050 บาทพร้อมของหวาน) ฟินที่สุดต้องยกให้ราวิโอลีไส้เห็ดกับซอสเห็ดทรัฟเฟิล หรือสปาเกตตีคาร์โบนาราเข้มข้น

หรือถ้าใครอยากแวะมาวันธรรมดา ทางนี้ก็มีเซตมื้อกลางวัน เวลา 11.30 - 14.30 น. ที่เลือกได้เลยว่า อยากได้เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยพร้อมจานหลัก ในราคา 750 บาท หรือ 850 บาท รวมของหวาน เมนูน่าลองมีทั้ง Carpaccio di Manzo เนื้อวัวแล่บางสไตล์อิตาลี Fettuccine alla Bolognese พาสต้าซอสเนื้อโบโลเนเซ่รสเข้มข้น หรือพิซซ่าอบสดใหม่นี่คือต้องลอง

ที่ Ms.Jigger โรงแรม Kimpton Maa-Lai Bangkok เปิดทุกวัน เวลา 11.30 น. - เที่ยงคืน โทร. 02-056-9999 หรือแอดไลน์ไปที่ @Ms.Jigger

การโฆษณา
  • Things to do

ถ้าใครชอบตระเวนหาขนมอร่อย ถ่ายรูปลงโซเชียล หรือนั่งลงคุยยาวๆ กับคนตรงหน้า เราขอแนะนำ  101 Days of Summer Afternoon Tea น้ำชายามบ่ายเซตใหม่ จากโฟร์ซีซั่นส์ กรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ได้เชฟขนมหวานระดับตำนาน Joaquin Soriano มาร่วมรังสรรค์ร่วมกับ Executive Pastry Chef Andrea Bonaffini ถ่ายทอดกลิ่นอายฤดูร้อนผ่านแรงบันดาลใจจากอนิเมะ เทพนิยาย และความทรงจำวัยเด็ก จนกลายเป็นชุดน้ำชาที่ทั้งรสชาติดีและเต้มไปด้วยความปราณีต ตั้งแต่เซวิเชปลามาได ทาร์ตเล็ตปูม้า ไปจนถึงขนมหวานสุดปราณีตอย่าง มาเดอแลนเสาวรส ที่ The Lounge ราคา 1,800 บาทต่อคน วันที่ 23 พฤษภาคม - 30 กันยายน เวลา 14.00 - 17.00 น. 

เรื่องเด่น
    การโฆษณา