รวมที่เที่ยวเชียงใหม่ที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง สัมผัสเสน่ห์เมืองเหนือครบทุกมิติ

เริ่มที่แรกกันด้วยไร่ชาสงบๆ ในอำเภอแม่แตง ที่ล้อมไปด้วยป่าและอากาศเย็นสบาย อรักษเป็นแหล่งผลิตชาออร์แกนิกคุณภาพสูง พร้อมมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เรียกได้ว่าที่นี่คือสวรรค์ของคนรักชาเลย เพราะมีทั้งกิจกรรมเดินชมไร่ เก็บใบชาด้วยมือ มีเวิร์กช็อปให้เรียนรู้การชิม การเบลนด์ วิเคราะห์กลิ่นรส และจับคู่อาหารกับชาแบบละเอียดยิบ รวมถึงได้เรียนรู้กระบวนการผลิตแบบออร์แกนิกทุกขั้นตอน ที่สำคัญมีคาเฟ่ให้นั่งจิบชาชิลๆ ด้วย  ขับรถจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียงแค่ 45 นาที หนีความวุ่นวายในเมือง มาอยู่ท่ามกลางความเขียวขจีและอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย แต่ถ้าใครไม่ใช่สายชาก็ไม่ต้องห่วง สามารถเพลิดเพลินไปกับขนมหวานโฮมเมดและอาหารไทยแบบเบาๆ บวกกับลองนั่งจิบชาในเรือนไม้ อาจจะเปลี่ยนใจเป็น tea lover เลยก็ได้ ที่ ไร่ชาอรักษ เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.

อีกหนึ่งหมุดหมายที่เป็นสิริมงคลในการเริ่มทริป นั่นก็คือ วัดพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งเป็นวัดสำคัญของเชียงใหม่ที่ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองได้แบบพาโนรามา นับเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้คนหลั่งไหลมาสักการะไม่ขาดสาย เพราะจะได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมไทยและพุทธศาสนาแบบลึกซึ้ง ไฮไลต์อยู่ที่บันไดนาค 300 ขั้น ที่จะพาขึ้นไปสู่เจดีย์ทองคำงดงามสไตล์เชียงแสน ที่เป็นหนึ่งในตัวอย่างของสถาปัตยกรรมล้านนาที่สวยที่สุด นอกจากจะได้ซึมซับบรรยากาศสงบทางจิตใจแล้ว ยังได้ชมวิวเมืองเชียงใหม่ที่สวยไม่แพ้จุดชมวิวไหนๆ บอกเลยว่าอาจจะเหนื่อยนิดหน่อยตอนขึ้น แต่คุ้มมากเมื่อถึงด้านบน แนะนำให้ไปช่วงเช้าหรือก่อนพระอาทิตย์ตกจะสวยที่สุด ที่ วัดพระธาตุดอยสุเทพ

สำหรับสายดนตรีและศิลปะจะพลาดที่นี่ไปไม่ได้เด็ดขาด เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านงานคราฟต์ใจกลางเชียงใหม่ เป็นแหล่งรวมงานศิลปะที่น่าสนใจมากๆ เพราะมีทั้งงานฝีมือและวัฒนธรรมท้องถิ่น ในบรรยากาศร่วมสมัยที่อบอุ่นและเข้าถึงง่าย หมู่บ้านคามคือพื้นที่ที่สะท้อนจิตวิญญาณของช่างฝีมือเชียงใหม่อย่างแท้จริง ด้วยอาคารทั้งหมด 9 หลังที่ออกแบบให้กลมกลืนระหว่างสถาปัตยกรรมแบบใหม่ โดยใช้ผนังอิฐสีเทาเข้มและไม้สักจากบ้านเก่ามารีไซเคิลอย่างมีสไตล์ ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำตั้งแต่ชมผ้าทอจากหลายภูมิภาคทั่วไทย เลือกซื้อสินค้าทำมือ ไปจนถึงชิมอาหารพื้นเมืองและกาแฟดีๆ สิ่งที่ทำให้ที่นี่พิเศษ คือบรรยากาศแบบคอมมิวนิตีเล็กๆ แต่เปิดกว้างให้ผู้คนเข้ามาเชื่อมต่อกันได้ ผ่านเวิร์กช็อป นิทรรศการ หรือวงสนทนาเกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ที่ หมู่บ้านคาม เปิด เวลา 09.30 - 18.30 น. ปิดทุกวันพุธ

อีกหนึ่งตลาดกลางแจ้งบรรยากาศดีในเชียงใหม่ ที่สำคัญเลยคือมาที่นี่เรียกได้ว่าครบทุกอย่าง เพราะรวมไว้หมดแล้ว ทั้งผักผลไม้ออร์แกนิก ไปจนถึงของวินเทจสุดชิก แถมยังมีแกลเลอรีศิลปะและร้านของคนท้องที่มีให้เดินเล่นทุกวัน แต่ที่นี่ไม่ใช่แค่ที่เดินช็อป เพราะยังเป็นพื้นที่ที่รวมความหลากหลายของเชียงใหม่ไว้อย่างลงตัว โดยในแต่ละวันและแต่ละสัปดาห์จะแตกต่างกันไป ตอนเช้าๆ มีตลาดเกษตรอินทรีย์ มีของสดใหม่จากฟาร์มท้องถิ่น ส่วนใครสายคราฟต์ ก็มีงานแฮนด์เมด ของแต่งบ้านและของฝากที่ต้องโดนใจคนรับแน่นอน หรือถ้ามาวันศุกร์แรกของเดือน สายวินเทจ เตรียมกระเป๋าตังไว้ได้เลย เพราะพ่อค้าแม่ค้าจะขนของเก่าหายากมาให้เลือกแบบเต็มสตรีม นอกจากนี้ในตลาดยังมีกิจกรรมที่เปลี่ยนไปทุกๆ เดือน ไม่ว่าจะเป็น คลาสรำไทย เวิร์กช็อปปั้นเซรามิก ดนตรีแจ๊ส และหนังกลางแปลง เรียกว่าอยู่ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ แม้จะอยู่ในเครือ Central แต่ที่นี่ถูกออกแบบให้สนับสนุนชุมชนจริงๆ ทั้งในเรื่องตลาด งานศิลป์ และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ที่ ตลาดจริงใจ เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 21.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ เปิดเวลา 08.30 - 22.00 น.

ถ้าเริ่มเบื่อวันธรรมดาๆ ในเชียงใหม่ และกำลังมองหากิจกรรมสนุกๆ ที่ไม่ไกลจากเมือง โป่งแยงจังเกิลโคสเตอร์ตอบโจทย์แน่นอน ที่นี่รวมเครื่องเล่นแอดเวนเจอร์ อย่างซิปไลน์ สไลด์ยาง บันจี้จัมป์ และรถไฟเหาะกลางป่า ครบจบในที่เดียว ใครมากับครอบครัวหรือแก๊งเพื่อนก็น่าโดนสุดๆ เพราะมีกิจกรรมให้เลือกตามระดับความกล้าของแต่ละคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่นี่ไม่ไกลจากม่อนแจ่ม จุดชมวิวชื่อดังของเชียงใหม่ หรือใครกลัวจะผาดโผนเกินไป ก็ลองแวะขึ้นไปนั่งจิบกาแฟ ดูหมอก หรือถ่ายรูปกับแปลงผักดอกไม้สวยๆ ก็สุดเหวี่ยงได้ไม่แพ้กัน ที่ โป่งแยงจังเกิ้ลโคสเตอร์ เปิดทุกวัน เวลา 08.30 - 21.00 น.

พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยสุดเท่ที่ชาวติสต์พลาดไม่ได้ ก่อตั้งโดย ฌอง-มิเชล เบอร์เดอเลย์ คุณปัทมา บุนนาค และลูกชาย เอริค บุนนาค บูธ นับว่าเป็นอีกหนึ่งที่ที่รวบรวมงานศิลปะจากศิลปินไทยและต่างชาติไว้มากที่สุดในภาคเหนือ ที่สำคัญที่นี่ไม่ได้เป็นแค่แกลเลอรี แต่เป็นเหมือนแรงกระเพื่อมที่ช่วยผลักดันวงการศิลปะเชียงใหม่ให้มีชีวิตชีวาขึ้นอย่างแท้จริง ใครมารับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะที่นี่จะเปิดให้ผู้ชมเข้าถึงคอลเล็กชันส่วนตัวของครอบครัวผู้ก่อตั้ง ซึ่งเต็มไปด้วยงานศิลปะร่วมสมัยจากไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งงานจิตรกรรม แฟชัน ดีไซน์ และศิลปะการแสดง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังอุทิศแด่เจ้าจอมแย้ม ในรัชกาลที่ 5 มีทั้งนิทรรศการระยะยาว นิทรรศการหมุนเวียน และกิจกรรมมากมาย เช่น ฉายหนัง การแสดง เวิร์กช็อป เสวนา ไปจนถึงโปรแกรมการศึกษาสำหรับผู้ที่สนใจ ถ้าได้มาแล้ว ก่อนกลับอย่าลืมแวะจิบกาแฟที่ร้านกำแพงแก้ว หรือซื้อของฝากชิ้นพิเศษจากศิลปินท้องถิ่นเป็นที่ระลึกติดกลับไป ที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะใหม่เอี่ยม เปิดเวลา 10.00 - 18.00 น. ปิดวันอังคาร

เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยได้ยินสถานที่นี้แน่นอน อีกหนึ่งแลนมาร์กที่จะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างเต็มที่ แถมไม่ต้องไปไกลจากตัวเมือง เพราะตั้งอยู่กลางมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ใครไปก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สงบ บรรยากาศรมรื่น ได้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในหนัง slow life อย่างไรอย่างนั้น สวนกว้างและทางเดินเลียบอ่างน้ำแห่งนี้กลายเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของทั้งนักศึกษา อินฟลูฯ และช่างภาพ ไม่ต้องแปลกใจถ้าไปแล้วเจอกองถ่าย เพราะที่นี่สวยทุกมุมจริงๆ เหมาะกับการเดินเล่น วิ่ง หรือมาปิกนิกชิลๆ ได้ทั้งวัน ไฮไลต์คือฉากหลังเป็นดอยสุเทพ ยิ่งตอนพระอาทิตย์ตกยิ่งสวยจนลืมหายใจ ใครเป็นสายชิลก็สามารถมาวิ่งตอนเช้าได้  นอกจากนี้ยังมาเดินชิลตอนเย็น หรือแค่เอาเสื่อมานั่งเล่นจิบกาแฟ ก็รู้สึกได้ถึงจังหวะชีวิตของเชียงใหม่แล้ว ใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย ต้องห้ามลืมแวะมาที่นี่ ที่ อ่างแก้ว มช. เปิดทุกวัน เวลา 05.00 -  22.00 น.

อีกหนึ่ง hidden gem ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีลานนา เป็นอีกหนึ่งที่โปรดของทั้งคนเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะน้ำใสไหลเย็นและแรงตลอดปี น้ำตกบัวตองเป็นน้ำตกหินปูนที่แปลกไม่เหมือนที่ไหน ตัวน้ำตกมีลักษณะพิเศษ คือสามารถปีนได้เพราะหินไม่ลื่น มีแรงยึดเกาะสูง แถมยังมีน้ำแร่ธรรมชาติไหลผ่านหลายชั้น รวมถึงแหล่งน้ำพุเจ็ดสีชื่อดัง เหมาะกับ one day trip ใกล้เมืองสุดๆ เรียกได้ว่าได้เสพบรรยากาศป่าร่มรื่นและยังได้แอดเวนเจอร์ไปในตัว ที่ น้ำตกบัวตอง เปิดทุกวัน เวลา 8.00 - 17.00 น.