Sofitel Inle Lake Myat Min
Accor Group

เยือนยลมนต์เสน่ห์เมียนมาไปกับความอุดมสมบูรณ์แห่งวัฒนธรรมท้องถิ่น ณ ทะเลสาบอินเล

ทะเลสาบน้ำจืดในรัฐฉานที่ยังรอให้เราไปสำรวจ

เขียนโดย
Wissuta Ploypetch
การโฆษณา

หากจะพูดถึงการไปเที่ยวเมียนมาขึ้นมาเมื่อไร กิจกรรมที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงก็น่าจะเป็นการไหว้พระขอพรหรือการเข้าวัดเยี่ยมชมเจดีย์ คู่มากับชื่อของสองเมืองฮิตติดหูอย่าง ย่างกุ้ง และ มัณฑะเลย์ จนลืมไปว่าเมียนมายังมีเมืองที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ห่างจากย่างกุ้งไปทางทิศเหนืออีก 700 กม. ที่เปี่ยมไปด้วยร่องรอยสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีธรรมชาติอันเงียบสงบ ผู้คนน่ารัก เป็นกันเอง และมีความใกล้ชิดกับคนไทยอย่างไม่น่าเชื่อ เมืองนั้นคือ 'ฉาน' หรือในอีกนามที่ดูสนิทสนมกว่าคือ 'รัฐไทใหญ่' เนื่องจากมีชาวไทใหญ่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง (ตำแหน่งเจ้านาง เจ้านาย ในละครยอดฮิตที่เราคุ้นเคยก็เคยมีตัวตนอยู่ที่นี่)

ซึ่งหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในฉานนั้นคงหนีไม่พ้น ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ แวดล้อมไปด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนบนความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 875 เมตร จึงเกิดเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและวิถีชีวิตบนผืนน้ำอันหาดูได้ยากยิ่ง จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ทางชีวภาพจาก UNESCO แถมจากที่เราไปสัมผัสมา ก็ถือว่าทะเลสาบอินเลเป็นอีกจุดมุ่งหมายหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้จุดอื่นในเมียนมาเลยทีเดียว และเราก็อยากจะแนะนำ 4 อย่างที่ควรไปดู ไปทำ ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนอินเล

ล่องเรือชมชาวประมงพายเรือด้วยเท้า

ล่องเรือชมชาวประมงพายเรือด้วยเท้า

การล่องเรือเที่ยวชมวิถีชีวิตเป็นหนึ่งที่พลาดไม่ได้ ซึ่งระหว่างที่นั่งเรือไปตามทะเลสาบ เราก็ยังจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับการใช้ขาและเท้าข้างเดียวในการพายเรือขณะที่ยืนอยู่หัวเรือของชาวประมงดั้งเดิมซึ่งเป็นชาวอินทาได้อีกด้วย โดยเหตุผลที่ต้องใช้เท้านั้นก็มาจากความสะดวกในการใช้เครื่องมือการตกปลา และเพิ่มความสามารถในการมองเห็นแปลงเกษตรที่ลอยอยู่ไล่เรี่ยกับระดับสายตาได้ทั่วถึง กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีชาวประมงที่ใดในโลกสามารถเลียนแบบได้

แวะชมและสักการะสิ่งศักสิทธิ์ท้องถิ่น

แวะชมและสักการะสิ่งศักสิทธิ์ท้องถิ่น

ชาวบ้านที่อยู่อาศัยรอบๆ ทะเลสาบอินเลก็นับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่ไม่ต่างกับรัฐอื่นๆ จึงไม่แปลกอะไรที่จะมีวัดและเจดีย์มากมายปรากฎให้เราเห็นตลอดการล่องเรือไปในท้องน้ำ ซึ่งรูปแบบของวัดก็เป็นพุทธศิลป์แบบไทใหญ่ที่ต่างจากแบบไทยที่เราคุ้นตา โดยวัดที่เป็นรู้จักและมีชื่อเสียงในอินเลก็คือ วัดผ่องเตาอู (Phaung Daw Oo) หรือ วัดพระบัวเข็ม อันเป็นวัดสำคัญที่เป็นที่ประดิษฐานของพระบัวเข็ม พระพุทธรูปไม้ศักดิ์สิทธิ์ 5 องค์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอินเล วัดนี้ยังเป็นสถานที่จัดประเพณีใหญ่ประจำปีในช่วงออกพรรษา (ประมาณปลายเดือนกันยายน - ตุลาคม) ที่จะอัญเชิญพระบัวเข็มองค์ลงขบวนเรือแห่ไปตามหมู่บ้านรอบๆ ทะเลสาบเป็นเวลากว่า 20 วันเลยทีเดียว

การโฆษณา
ศึกษางานหัตถกรรมทำมือ

ศึกษางานหัตถกรรมทำมือ

ที่อินเลไม่ได้มีแค่คนตกปลาด้วยขาข้างเดียว แต่สิ่งที่น่าทึ่งของชาวอินเล คือการอยู่กับธรรมชาติได้กลมกลืนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และให้คุณค่ากับสิ่งเหล่านั้นมากๆ โดยชาวบ้านในอินเลนั้นล้วนมีอาชีพเกษตรกรรมทั้งเพาะปลูกและประมง  อุตสาหกรรมหัตถกรรม ทำมือขนาดเล็ก เช่น การทอผ้า ตีเหล็กเงิน มวนบุหรี่ และอีกส่วนหนึ่งก็มีรายได้จากการบริการท่องเที่ยว 

อย่างเสื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยบัวก็เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงมากของที่นี่ โดยเราสามารถตามไปดูกระบวนการทำอันซับซ้อนได้ตามเรือนทอผ้าต่างๆ ที่มีอยู่ในอินเล ซึ่งจะมีคนพม่าพาเดินดูพร้อมอธิบายให้ฟังตลอดตั้งแต่การรูดใยบัวออกจากก้าน การสืบเส้นด้ายเข้าแกนม้วน ไปจนถึงการทอเป็นลวดลายต่างๆ ซึ่งใช้เวลาราวๆ  3-4 เดือนกว่าจะได้ผ้าผืนหนึ่ง ทำให้ผ้าจากใยบัวมีราคาแพงตามความปราณีตเหล่านี้ ขายกันผืนเล็กๆ ผืนละเป็นพันบาทขึ้นไป

สำรวจหมู่บ้านอินเดอิน (Indein) ชื่นชมเจดีย์โบราณ

สำรวจหมู่บ้านอินเดอิน (Indein) ชื่นชมเจดีย์โบราณ

หมู่บ้านอินเดอินเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีสิ่งน่าสนใจให้ดูชมหลายอย่างมาก ซึ่งสามารถเริ่มเดินสำรวจไล่ไปตั้งแต่ท่าเรือกับซากหมู่เจดีย์ยองอ๊ก (Nyaung Ohak) จำนวนมหาศาลที่กระจายตัวอยู่รอบๆ ก่อนจะเดินเลียบเขื่อนของหมู่บ้านไปตามภูเขาที่รายล้อมไปด้วยป่าไผ่สุดตระการตา และลัดเข้าไปชมหมู่เจดีย์ชเวอินเตง (Shwe Inn Thein) หมู่เจดีย์หลากหลายขนาดและรูปทรงนับพันองค์ ซึ่งเชื่อกันว่ามีอายุเก่าแก่ยิ่งกว่าเจดีย์ชเวดากองในย่างกุ้ง แล้วเดินกลับลงมาตามทางเดินโถงหินที่ตลอดทางจะเป็นแผงขายสินค้าท้องถิ่นทั้งผ้าทอ เครื่องเงิน ของเล่นไม้แกะสลัก และเครื่องประดับที่ทำจากหิน

พักที่ไหน

ถ้ามีโอกาสไปเยือนอินเล บูติกรีสอร์ตในเครือ Sofitel แห่งแรกในพม่าแห่งนี้ก็นับว่าเป็นสถานที่พักผ่อนอย่างมีระดับหลังจากการตะลุยเที่ยวทั้งวันมากจริงๆ ด้วยห้องพัก 5 แบบ จำนวน 101 ห้อง กับทำเลแสนดีริมทะเลสาบ ห่างจากสนามบินเฮโฮเพียง 47 กิโลเมตร ที่ดูน่าจะตอบโจทย์ผู้เข้าพักได้ทั้งนักท่องเที่ยวและคู่รักที่มาพักผ่อน

มีจุดเด่นอยู่ที่การออกแบบและตกแต่งอันสอดคล้องกับพื้นที่ เช่น ห้องพักในลักษณะเรือนไม้ยกสูงใกล้เคียงกับลักษณะบ้านของหมู่บ้านลอยน้ำ แปลงผักไฮโดรโปนิกส์ลอยน้ำกลางรีสอร์ทที่อยู่ระหว่างห้องพักแบบต่างๆ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่พบเจอได้บ่อยๆ ในอินเลอย่างไม้ไผ่ หวาย และผ้าไหมมาเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งในห้องพัก จึงทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับความเป็นธรรมชาติของอินเลได้เป็นอย่างดี

แถมยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ห้องอาหาร Pavilion ที่เสิร์ฟอาหารพม่าฟิวชั่นไฟน์ไดน์นิ่งจากวัตถุดิบที่ปลูกในรีสอร์ต ห้องอาหาร Kwee Zeen ที่มีเสิร์ฟทั้งอาหารนานาชาติและอาหารท้องถิ่นพม่าบาร์แบบสบายๆ ห้องอาหาร Roots สำหรับสายสุขภาพที่สามารถอิ่มเอมไปกับเมนูจากวัตถุดิบออร์แกนิกจากท้องถิ่นพม่าสุดสร้างสรรค์หลายเมนู รวมถึงบาร์ สระว่ายน้ำอินฟินิตี้ริมทะเลสาบ ฟิตเนส คลับเฮ้าส์ คิดส์คลับ ห้องสันทนาการ และสปาที่มีบริการนวดสไตล์พม่าอีกด้วย ในราคาเริ่มต้นที่ 3,695 บาทต่อคืน ถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และบริการอันอบอุ่น

ไปทะเลสาบอินเลยังไงดี

สนามบินที่ใกล้กับทะเลสาบอินเลที่สุดคือ สนามบินเฮโฮ (Heho Airport) ซึ่งเป็นสนามบินภายในประเทศพม่า เราจึงจำเป็นต้องนั่งเครื่องบินไปลงย่างกุ้งหรือมัณฑะเลย์ก่อน ทางที่ดีจึงควรเลือกสายการบินที่สะดวกสบายหน่อยเมื่อไปจากกรุงเทพฯ เพื่อลดความเหนื่อย อย่างเราเลือกฟูลเซอร์วิสของ Bangkok Airways ที่มีให้บริการบินระหว่าง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) - ย่างกุ้ง ทุกวัน ตลอดทั้งวัน วันละ 5 ไฟลต์ ราคาเริ่มต้นสำหรับตั๋วไป-กลับ อยู่ที่ประมาณ 5,705 บาท แล้วใช้บริการสายการบินภายในประเทศพม่า KBZ เพื่อต่อไปลงสนามบินเฮโฮ ราคาประมาณ 3,000 บาท

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา