10 บาร์เปิดใหม่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปี 2020 จากกองบรรณาธิการ Time Out

บาร์จินชื่อคุ้นหูที่ตอนนี้ย้ายมาเปิดอยู่ไม่ไกลจาก BTS ช่องนนทรี พร้อมกับลิสต์เมนูค็อกเทลใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงคอนเซ็ปต์บาร์นั่งดื่มที่เสิร์ฟเมนูไม่ธรรมดาให้เราได้จิบกันเช่นเดิม อีกทั้งร้านใหม่นี้ยังเพิ่มเวลาเปิดช่วงกลางวันเป็นคาเฟ่ด้วยนะ

ร้านมีซิกเนเจอร์เมนูที่จะเปลี่ยนไปทุกๆ 2 เดือน เพื่อให้พวกเราได้ลองอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอด อย่างเซ็ตล่าสุดที่จะมีให้สั่งถึงเดือนกุมภาพันธ์ มาในคอนเซ็ปต์ Less Is More ที่เมนูเด็ดเรายกให้ Corn, Maybe Corn Flakes (390 บาท) ที่จิบแล้วได้รสและกลิ่นหอมๆ ของ ข้าวโพดย่างเนย ที่ถูกอินฟิวส์เข้าไป

เปิดทุกวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 12.00 - 00.00 น. (เฉพาะวันเสาร์ 17.00 - 00.00 น.)

บาร์ลับที่อยู่บนถนนที่เชื่อมระหว่างซอยสุขุมวิท 39 และ 49 แห่งนี้ เป็นแหล่งแฮงเอาต์ที่เหมาะสำหรับหลบหนีจากความวุ่นวายจากร้านในย่านสุขุมวิท แล้วมาซึมซับบรรยากาศมินิมัลสไตล์ญี่ปุ่นที่มาพร้อมเสียงเพลงแนวดิสโก้ ร็อค แอฟโฟรแจ๊ส และอิเล็กทรอนิกส์

โดยชื่อร้านตั้งมาจากเพลง Room 335 ของ Larry Carlton นักดนตรีแจ๊สร็อคคนโปรดของบาร์เทนเดอร์ผู้ควบตำแหน่งเจ้าของร้าน เครื่องดื่มที่นี่จะเน้นความเรียบง่าย แต่พิถีพิถันเหมือนค็อกเทลบาร์ในโตเกียว ส่วนรสชาติจะเข้มข้นตามสไตล์ตะวันตก

เปิดทุกวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 19.00 - 02.00 น. (เฉพาะวันอังคาร เปิด 9.00 - 17.00 น.)

จากต้นกำเนิดของ ‘ยานัตถุ์หมอมี’ ปัจจุบันบ้านสีขาวสไตล์ยุโรปอายุร้อยกว่าปีในซอยเกษมสันต์ 3 หลังนี้ ถูกเปลี่ยนเป็นแหล่งแฮงเอาต์ที่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ มิวเซียม และที่เซอร์ไพรส์มากคือมีบาร์ลับบรรยากาศดีซ่อนอยู่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งครั้งหนึ่งห้องนี้เคยเป็นห้องปรุงยาด้วย

Philtration ตกแต่งภายในโดยคงโครงสร้างเดิมเอาไว้ให้มากที่สุด เช่นเดียวกับการส่งต่อเรื่องราวของห้องปรุงยาแห่งนี้ในรูปแบบของ ค็อกเทล ที่สร้างสรรค์จากสมุนไพรหลากชนิด โดยมี Shavinraj Gopinath บาร์เทนเดอร์ชาวสิงคโปร์เชื้อสายอินเดีย มารับหน้าที่ดูแลเครื่องดื่มทั้งหมดในร้าน

เปิดทุกวัน 18.00 - 00.00 น. เฉพาะวันอังคาร และ พุธ เริ่มเปิด 19.00 น.

คอนเซ็ปต์ของบาร์แห่งนี้คือ a bar in an art gallery ข้างในตกแต่งด้วยสีขาวล้วน ก่อนเติมสีสันด้วยงานศิลปะและ projection mapping สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จากทั่วโลก และจะเปลี่ยนดนตรีให้เข้ากับสถานที่นั้นๆ ด้วย ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของบาร์เลย

ส่วนเมนูเครื่องดื่มที่นี่เกิดจากการระดมไอเดียของบาร์เทนเดอร์ทั้ง 5 คน ที่นำวัตถุดิบไทยๆ มาเป็นส่วนผสม และทำให้สิ่งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ให้ออกมาเป็นค็อกเทลรสอร่อยๆ อาทิ ปลาหมึกย่าง ค็อกเทลที่มีส่วนผสมของน้ำจิ้มซีฟู้ดและปลาหมึกย่าง มาพร้อมกลิ่นและรสชาติออริจินัลแต่กลับเป็นแก้วที่ดื่มง่ายมาก

เปิดทุกวัน 19.00 - 01.00 น.

บาร์ลับสีแดงก่ำที่ซ่อนอยู่บนชั้นสองของร้านอาหารฝรั่งเศส Restaurant Stage ย่านเอกมัย บรรยากาศจะเป็นสไตล์ Speakeasy บาร์จากยุค 1920 และเติมความเข้มข้นด้วยธีม ห้องเล่นสนุก ของมิสเตอร์เกรย์จากหนังดังอย่าง 50 Shades of Grey

เมนูค็อกเทลของที่นี่ได้ ปาล์ม-ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ จาก Vesper มาช่วยรังสรรค์ซิกเนเจอร์ค็อกเทล 10 แก้วให้ (ราคาเฉลี่ยแก้วละ 400 บาทโดยประมาณ) โดยแต่ละแก้วจะตั้งชื่อตามคาแรกเตอร์หรือสิ่งที่สะท้อนถึงความเป็น Playroom อาทิ Mr. Grey, Eggsy พระเอกสูทสวยจาก Kingsman หรือ Make It Rain ที่จับคู่วอดกาและคาร์เวียร์ให้ชิมคู่กัน

เปิดบริการทุกวัน 18.00 - 00.00 น.

บาร์ค็อกเทลสไตล์สปีกอีซี่ที่เจ้าของได้แรงบันดาลใจในการตกแต่งมาจากพระอาทิตย์ ผีเสื้อ และบรรยากาศของยุค 1900 ความน่าสนใจของที่นี่คือ มิกโซโลจิสต์สามารถผสมค็อกเทลให้เราได้ โดยดูจากกลิ่นน้ำหอมที่เราเลือก หรืออย่างบางคืนบาร์แห่งนี้จะเก็บเมนูทั้งหมด และให้เราเป็นคนตัดสินใจเองว่าอยากดื่มรสชาติแบบไหน ก่อนพวกเขาจะรังสรรค์ออกมาให้ตรงใจมากที่สุด

เปิดทุกวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 18.30 - 00.30 น.

บาร์สุดหรูในโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ฯ ที่มาพร้อมบรรยากาศสไตล์ยุโรป ด้วยการตกแต่งที่ใช้โทนสีน้ำตาล เก้าอี้หนัง และมีสีเขียวแซมเข้ามาประปรายให้รู้สึกผ่อนคลายในบรรยากาศพิเศษๆ บาร์นี้มีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกหลายชนิด ตั้งแต่ค็อกเทล ไวน์ จิน เตกีล่า หรือรัม

สำหรับค็อกเทลแนะนำของที่นี่คือ Lady in Red ที่ผสมด้วยจิน บรั่นดี มะนาว และเบอร์รี่ หรืออีกเมนูซิกเนเจอร์ Firefly ที่เบสใช้ลิเคียวร์กาแฟ

เปิดทุกวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 16.00 - 00.30 น.

บาร์และร้านอาหารในสวนย่านสาทรซอย 12 ที่เราเชื่อว่าเป็นบาร์กลางแจ้งที่บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติและหาใครเหมือนได้ยาก หากลองมานั่งดื่มที่นี่ในวันที่อากาศดี เราเชื่อว่าคุณจะไม่อยากลุกไปไหนแน่นอน โดยนอกจากเมนูอาหารที่เสิร์ฟตั้งแต่เช้า เมนูค็อกเทลซิกเนเจอร์ของที่นี่ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน

อาทิเมนูใหม่ล่าสุด Cherries & Smoke ที่จิบแล้วจะได้รสขมของช็อกโกแลต ตัดรสเปรี้ยวจากเชอร์รี่

ปิดทุกวันศุกร์ วันอื่นๆ เปิดตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มเปิดเวลา 08.00 น.

นอกจาก Blue Wild Space จะเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่มีทั้งแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้า ของแต่งบ้านชิคๆ และคาเฟ่แล้ว เมื่อถึงเวลาค่ำ คาเฟ่ในร้านก็จะกลายเป็นบาร์ค็อกเทลบรรยากาศสบายๆ เหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่น โดยเครื่องดื่มของที่นี่จะมีทั้งค็อกเทลและคราฟท์เบียร์ รวมถึงดนตรีสดหลังสี่ทุ่มทุกวันอาทิตย์

เปิดทุกวันพุธ - เสาร์ ตั้งแต่เวลา 19.00 - 01.45 น. 

 

เรือใบสามเสาที่จอดเทียบท่าอยู่ ณ เอเชียทีคฯ เป็นเรือใบที่ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศตอนนี้ โดยเปิดเป็นทั้งร้านอาหารและบาร์ให้พวกเราขึ้นไปกินดื่มได้ในบรรยากาศหรูหรา วิจิตร และคลาสสิคด้วยสิ่งของเครื่องใช้ราวกับในอดีต

บนดาดฟ้าเรือเป็นพื้นที่สำหรับแฮงเอาท์ สามารถรับอากาศยามเย็นริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้สบายๆ ส่วนชั้นล่างจะให้บรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและเงียบสงบกว่า จึงเหมาะกับการประชุมหรือจัดปาร์ตี้ส่วนตัว โดยบนเรือลำนี้จะมี บาร์รัม ซ่อนอยู่ในห้องกัปตันเรือด้วย ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปนั่งจิบค็อกเทลในบาร์นั้นได้ สำหรับค็อกเทลจะเน้นใช้ผลไม้จากท้องถิ่นที่ไม่ค่อยมีใครใช้ อาทิ มะเฟือง ขนุน ลำไย หรือส้มโอ 

เปิดทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 16.00 - 00.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 12.00 - 00.00 น.