Mia Restaurant
Mia Restaurant

Mia ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิด้วยคอร์สเมนูใหม่เสิร์ฟแล้ววันนี้จนถึงพฤษภาคม

และไฮไลต์ก็คือ ‘ซีเรียลโบวล์’ ของเชฟมิเชล ที่ทำเราไม่อยากซื้อซีเรียลน่าเบื่อมากินอีกต่อไป

Kenika Ruaytanapanich
เขียนโดย
Kenika Ruaytanapanich
การโฆษณา

กลับมาชิมคอร์สเมนูใหม่ของ Mia (มีอา) ฤดูกาลนี้ เราบอกตรงๆ ว่าแม้จะรู้ทันคอนเซ็ปต์อาหารของร้านนี้แล้ว แต่หลายเมนูใหม่ที่ได้ชิมก็มีความน่าสนใจ และคุ้มค่ากับการกลับไปครั้งนี้

Mia เป็นร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งสไตล์ยุโรปผสมเอเชีย นำโดย เชฟท็อป-พงศ์ชาญ รัสเซล และ เชฟมิเชล โก สองเชฟผู้รังสรรค์ทุกคอร์สเมนูประจำร้าน โดยเชฟท็อปจะเป็นคนดูแลเรื่องอาหารคาว ส่วนแฟนสาวของเขาจะดูแลเรื่องของหวาน และเมนูต่างๆ จะเปลี่ยนไปโดยยึดฤดูกาลของฝั่งยุโรปเป็นหลัก

Mia Restaurant
Mia Restaurant



คอร์สเมนูที่เราชิมและจะมาเล่าให้ฟังรอบนี้ เป็นคอร์สเมนูประจำ ‘ฤดูใบไม้ผลิ’ ที่เต็มไปด้วยสีสันและความสดชื่น ถึงแม้ว่าจะมีบางเมนูคงเดิมเหมือนคอร์สซัมเมอร์ก่อนหน้า อย่างเช่น ของกินเล่นบางคำ หรือ Crab Chawanmushi เมนูโปรดของเราครั้งที่แล้ว ที่ดูเหมือนรอบนี้จะโดนจานอื่นแซงหน้าไปนิดหน่อย เพราะจานใหม่หลายๆ คอร์สทำได้ดีเลยทีเดียว

Mia Restaurant
Mia Restaurant
Mia Restaurant
Mia Restaurant

เริ่มตั้งแต่ “อมูช บุช” ที่รอบนี้เสิร์ฟหอยนางรมมาพร้อมอิกุระ เราชอบคราวนี้มากกว่าเพราะความเปรี้ยวสดชื่นจากน้ำผลไม้ ลงตัวดีกับความมันของไข่ปลา หลังจากน้ันเป็นของกินเล่นอีก 4 คำ ซึ่งเมนูใหม่คือ “แคร็กเกอร์สมุนไพรและถั่ว” เสิร์ฟในรูปทรงกระบอกที่ด้านนอกกรอบ ตัดกับเนื้อสัมผัสด้านใน

เข้าสู่คอร์สแรก “Lobster Perfume” มาพร้อมซุปมะเขือเทศใส และเพิ่มคาเวียร์ได้ เราชอบความสุกกำลังดีของเนื้อล็อบสเตอร์จานนี้ ตามมาด้วย “Bluefin Tuna” เชฟซ่อนเนื้อปลาอยู่ด้านล่าง ก่อนท็อปด้วยอะโวคาโด เจลลี่ทำจากสัตว์มีเปลือก และอิกุระ 

Mia Restaurant
Mia Restaurant

จากนั้นจึงเป็นเมนูที่เราคิดถึง “Crab Chawanmushi” ทว่าครั้งนี้อาจเพราะอุณหภูมิและความหนักของรสชาติที่ลดลงไปนิดหน่อย เราเลยแอบให้คะแนนจานอื่นแซงขึ้นมา

Mia Restaurant
Mia Restaurant
Mia Restaurant
Mia Restaurant

ก่อนเข้าสู่เมนคอร์ส “Grilled Ocean Trout” เชฟใช้ปลาเทราต์จากญี่ปุ่นนำมาย่างจนเนื้อนุ่มละมุนลิ้น กินคู่กับส้มและเพียวเร่เฟนเนล (พืชคล้ายผักชี) ที่อยู่รอบๆ แต่สิ่งที่ทำให้จานนี้น่าสนใจขึ้นมาจริงๆ คือ อัลมอนด์ ที่ช่วยเพิ่มเท็กซ์เจอร์กรุบกรอบและสร้างมิติให้จานนี้

เมนคอร์สจะมีให้เลือกระหว่าง เนื้อ หรือ เป็ด ซึ่งไฮไลต์ที่เชฟแนะนำครั้งนี้คือ “Hay Aged Duck” เป็ดดรายเอจ 2 สัปดาห์ โดยเชฟตั้งใจใช้ทุกส่วนของเป็ดให้มีประโยชน์ เลยนำส่วนคอมาทำไส้กรอก ท็อปด้วยไข่ดาว ส่วนจูซ์ หรือน้ำซอสทำจากปีกและขา 

นอกจากนี้ ส่วนที่เหลืออีกก็นำไปทำเป็นซุปอุ่นๆ เสิร์ฟในแก้วให้ดื่มก่อนเข้าสู่ช่วงของหวาน ซึ่งเมนูนี้เป็นอีกซิกเนเจอร์พิเศษของร้านอีกเช่นกัน

Mia Restaurant
Mia Restaurant

มาถึงเมนูขนมโดยเชฟมิเชล เริ่มจาก “Kiwi G&T” ที่เชฟได้แรงบันดาลใจมาจากคลาสสิกคอกเทลอย่าง จินโทนิก แต่ทำให้อยู่ในรูปของไอศกรีมและกีวี่กรอบๆ ด้านบน

หลังจากนั้นเป็นเมนูที่เราขอยกให้เป็นไฮไลต์ “Mia's Cereal Bowl” เชฟมิเชลได้แรงบันดาลใจมาจาก บิงซูไมโล เมนูขนมโปรดในวัยเด็กที่ยอดฮิตในบ้านเกิดประเทศมาเลเซีย เชฟเลยหยิบวัตถุดิบมาเป็นแรงบันดาลใจ และนำเสนอใหม่ในรูปแบบ ‘อาหารเช้า’ 

เมนูนี้เป็นอีกซิกเนเจอร์ของเชฟมิเชล โดยซีเรียลและครัมเบิลทั้งหมดเชฟทำเอง เสิร์ฟพร้อมไมโลมูส และท็อปไอศกรีมข้าวโพด ก่อนราดด้วยนมตอนเสิร์ฟ กินแล้วชวนนึกถึงอาหารเช้าในวัยเด็กเหมือนกัน แต่ด้วยความหอมมัน กรุบกรอบ และหวานกลมกล่อมกำลังดี เมนูนี้เลยทำเอาเราลืมซีเรียลธรรมดาๆ ที่เคยกินไปเลย แถมเป็นเมนูของหวานปิดคอร์สได้อย่างน่าประทับใจด้วย

คอร์สเมนูฤดูใบไม้ผลิ ราคา 3,250++ บาท/5 คอร์ส และ 4,250++ บาท/7 คอร์ส หรือ คอร์สมังสวิรัตและวีแกน ราคา 3,150++ บาท สามารถเพิ่มไวน์แพร์ริ่งได้ ราคา 2,250++ บาท ได้รับไวน์ 5 แก้ว (ซึ่งที่นี่เป็นอีกร้านอาหารที่แพร์ริ่งได้ดีทุกครั้ง)

ร้านเปิดทุกวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 17:00 - 23:00 น. สำหรับวันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 12:00 - 14:00 น. สอบถามหรือสำรองที่นั่งได้ที่ www.miarestaurantbkk.com หรือโทร 098 862 9659

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา