คาเฟ่เล็กๆ ย่านสำเพ็งที่เปิดโดยสถาปนิกผู้หลงรักกาแฟ โดดเด่นด้วยดีไซน์มินิมัลไม้สีอ่อนและผ้าโทนสีสุภาพจากแบรนด์งานคราฟต์จากเชียงใหม่อย่าง Moonler ที่ผสมงานคราฟต์กับความสงบ เมนูจะเน้นกาแฟซิงเกิลออริจินจากอัมสเตอร์ดัม พร้อมแก้วกาแฟที่ทำร่วมกับ Mk Ceramics Studio (mkstudio_cph) ที่ตั้งใจทำให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำความสุขทั้งกาแฟและดีไซน์ ที่ 496/4 ถนนทรงวาด เปิดบริการ วันจันทร์, พุธ-อาทิตย์ เวลา 08.00-17.00 น. (ปิดอังคาร)โทร. 08-0654-7988
Time Out ชวนผมมาแชร์ลิสต์คาเฟ่เปิดใหม่ที่ชอบที่สุด และระหว่างที่กำลังรวบรวมรายชื่ออยู่นั้น ผมก็ย้อนคิดไปถึงจุดเริ่มต้นตั้งแต่แรกเริ่มตลอดแปดปีที่ผ่านมา เพราะสิ่งที่ผมหลงใหลก็คือการสำรวจซีนกาแฟภายในกรุงเทพฯ
โดยทั้งหมดมันเริ่มต้นง่ายๆ เพียงเพราะผมเป็นคนที่รักการดื่มกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และช่วงที่ยังทำงานประจำ ผมก็มักจะใช้เวลาสุดสัปดาห์ไปกับการค้นหาคาเฟ่ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และในทุกครั้งที่ได้บังเอิญไปเจอคาเฟ่ที่มีกาแฟอร่อยๆ หรือร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงาม มันมักจะจุดประกายแรงบันดาลใจบางอย่างในตัวผมอยู่เสมอ มันทำให้ผมก็ไม่ต้องการที่จะเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้เพียงคนเดียว การแชร์ช่วงเวลาเหล่านั้นลงบนอินสตาแกรมจึงกลายเป็นเหมือนสมุดบันทึกเล่มเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความสุข หรือเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ มันคือแกลเลอรีส่วนตัวที่ผมตั้งใจสร้างขึ้น และจนถึงวันนี้ผมก็ยังรู้สึกทึ่งที่ผู้คนมากมายคอยติดตามการเดินทางนี้ไปพร้อมกัน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มักจะมีหลายคนเข้ามาถามผมอยู่เสมอว่า ‘คุณหาคาเฟ่พวกนี้เจอได้ยังไง?’ คำตอบก็คือมันไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว ต้องเล่าย้อนกลับไปสมัยที่ผมเคยอยู่ในกลุ่ม ‘cafe hopper’ เรียกได้ว่ามันคือคอมมูนิตี้ขนาดย่อมที่เรามักจะแชร์พิกัดใหม่ๆ ให้กัน และอาจจะเนื่องด้วยความโชคดีที่ผมมีเพื่อนๆ ที่อยู่ในสายงานดีไซน์ เวลามีโปรเจกต์อะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจเขาก็จะแอบมากระซิบบอกอยู่เสมอ นอกจากนี้ก็มีวิธีอื่นๆ ผสมผสานกันไป ทั้งการไถโซเชียลไปมา ดูแฮชแท็กว่าอะไรกำลังอยู่ในเทรนด์ หรือบางครั้งก็ได้พบโดยบังเอิญระหว่างที่กำลังออกไปสำรวจ
การที่ได้ไปเยือนคาเฟ่หลากหลายที่ มันให้อะไรกับผมหลายอย่างมาก และบทเรียนที่สำคัญที่สุดคือ ผมได้รู้ว่าการมีใจรักในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มันคือแหล่งพลังงานสำคัญในการขับเคลื่อนชีวิตให้เดินหน้าต่อไปได้ ผมเลยจะชอบพูดคุยกับบาริสต้าและเจ้าของร้านเป็นพิเศษ และในบทสนทนาเหล่านั้นเอง มันทำให้ผมสัมผัสได้ถึงความตั้งใจที่ขับเคลื่อนพลังของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นความรักในกาแฟ ความใส่ใจในรายละเอียด หรือความกล้าที่จะเปิดร้านในเมืองที่การแข่งขันสูงทะลุเพดานอย่างกรุงเทพฯ สิ่งเหล่านี้คือความหลงใหลที่ทำให้ร้านนั้นมีเสน่ห์ที่แตกต่างและไม่เหมือนใคร
เวลาที่ผมจะประเมินคาเฟ่สักแห่ง กาแฟมักจะเป็นปัจจัยแรกที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุดเสมอ นั่นคือสิ่งที่ตัดสินว่าผมจะกลับไปที่นั่นอีกไหม มันไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติที่อร่อยหรือไม่อร่อย แต่มันคือการมองให้ลึกลงไปถึงความคิดสร้างสรรค์ในแต่ละเมนู และกระบวนการคิดที่อยู่เบื้องหลังของการเลือกเมล็ดกาแฟนั้นๆ ส่วนบรรยากาศโดยรวมจะมาเป็นลำดับที่สอง เพราะผมมีความเชื่อว่าจริงๆ แล้ว กาแฟที่ดีจะยิ่งอร่อยขึ้นเมื่ออยู่ในบรรยากาศที่ใช่
ผมเคยเห็นกับตาตัวเองเลยว่าคาเฟ่สวยๆ จะเปลี่ยนบรรยากาศของย่านหนึ่งไปได้ขนาดไหน อย่างน้อยย่าน ‘ทรงวาด’ คือหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เดิมทีเป็นย่านเก่าแก่ที่เงียบสงบ แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เพราะมีคาเฟ่กว่า 20 แห่ง และยังมีคาเฟ่เปิดใหม่เรื่อยๆ คาเฟ่เหล่านี้ช่วยดึงคนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวให้แวะมาเยือน เลยทำให้ย่านนี้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง จะเห็นว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่เติมพลังให้ชุมชนได้น่าประทับใจ
เอาเข้าจริง หลายๆ คนมักจะชอบถามเรื่องการถ่ายภาพกับผม แต่จริงๆ แล้วผมไม่มีเทคนิคตายตัวหรอก ส่วนมากเป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ถ้าเห็นมุมที่ใช่หรือจังหวะที่รู้สึกว่านี่แหละ… ก็ลั่นชัตเตอร์เลย ผมพยายามถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติและความเคลื่อนไหวลงไปในภาพ เช่น แสงแดดที่ตกกระทบพอดี หรือจังหวะที่บาริสต้ากำลังเทลาเต้อาร์ตอย่างสวยงาม ผมชอบโทนสีอบอุ่นอย่างสีน้ำตาล เพราะมันเข้ากับบรรยากาศของคาเฟ่ดี สไตล์การถ่ายภาพของผมก็ได้รับอิทธิพลจากหนังที่ดูเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะงานของผู้กำกับอย่างเวสต์ แอนเดอร์สัน (Wes Anderson) ที่จัดองค์ประกอบภาพได้เป๊ะและมีเอกลักษณ์มาก
แล้วอะไรที่ทำให้ผมออกไปสำรวจแทบทุกวัน เหตุผลมันง่ายมาก เพราะมันสนุกยังไงล่ะ เมืองนี้มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทั้งแสง สี หรืออารมณ์ของผู้คน และทุกครั้งที่ได้เจอคาเฟ่ใหม่หรือมุมใหม่ๆ มันเหมือนเราได้รับแรงบันดาลใจใหม่สำหรับชีวิตตัวเองไปด้วย
ที่เห็นกันว่าคนกรุงเทพฯ หลงใหลกาแฟนั่นไม่ใช่แค่ตามกระแส แต่คือการสะท้อนตัวตนของเมืองนี้ด้วย เพราะในเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย คาเฟ่คือพื้นที่เล็กๆ ที่เราจะได้หายใจ ได้มีความสุขเล็กๆ ในแต่ละวัน คาเฟ่ไม่ใช่แค่ที่ซื้อกาแฟเท่านั้น แต่เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับใครหลายคน ที่อยากจะนั่งทำงาน อ่านหนังสือ เจอเพื่อน หรือแค่อยู่กับตัวเองเงียบๆ ความหลงใหลในคาเฟ่ยังสะท้อนรสนิยมของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพและประสบการณ์
เราไม่ได้แค่ดื่มกาแฟ แต่เรา ‘เลือก’ กาแฟที่เราจะดื่ม ทั้งแหล่งที่มา วิธีการชง หรือเรื่องราวเบื้องหลังของร้านเอง และแน่นอนว่าสื่อโซเชียลมีบทบาท ที่ทำให้คาเฟ่สวยๆ กับกาแฟดีๆ กลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่เราอยากแชร์ สิ่งนี้เองที่ทำให้เจ้าของร้านต้องใส่ใจทุกดีเทล ตั้งแต่แสง สี ดีไซน์ ไปจนถึงประสบการณ์ของลูกค้าแบบครบถ้วน
ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้แชร์ลิสต์ร้านโปรดกับคุณ และหวังว่าคุณจะสนุกกับการไปเยือนแต่ละที่เหมือนที่ผมรู้สึกตอนค้นพบมันเช่นกัน