รวมคาเฟ่หมาสุดน่ารักในกรุงเทพฯ ที่ทาสรักน้องหมาต้องห้ามพลาด

คาเฟ่น้องหมาดัชชุนเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยทองหล่อ มาพร้อมการตกแต่งโทนสีเขียวโอลีฟที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายตา และแอบมีกลิ่นอายวินเทจนิดๆ และสิ่งที่ทำให้ที่นี่ไม่เหมือนใครคือเจ้าของบ้านตัวจริง อย่าง ‘บ๊อบบี้’ และ ‘บิลลี่’ ดัชชุนสุดน่ารักที่พร้อมวิ่งมาต้อนรับลูกค้าทุกคนตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าร้าน 

เรียกได้ว่าเป็นมาสคอตที่ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้ม สำหรับสายกาแฟบอกเลยว่าต้องถูกใจ เพราะที่นี่คัดสรรเมล็ดคุณภาพดีทั้ง House Blend และ Single Origin มาให้เลือกชิมตามรสนิยม ไม่ว่าจะชอบเข้ม ละมุน หรือกลมกล่อมก็มีครบ แต่ถ้าใครอยากลองเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ต้องไม่พลาด Toffee Koffee กาแฟนมหอมกรุ่นกลิ่น Salted Caramel ที่ทั้งนุ่มละมุนและหอมหวานกำลังดี 

นอกจากนี้ยังมีเมนูสำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟ ทั้งชา นม สมูทตี้ และเบเกอรี่โฮมเมดที่อบใหม่ทุกวัน อีกมุมที่ทำให้หลายคนใจละลายก็คือโซนขายของกุ๊กกิ๊ก ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจรูปน้องหมา เสื้อยืดลายน่ารัก หมวก หรือของฝากชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เลือกซื้อกลับไปเป็นที่ระลึกได้ ที่ Benkoff ทองหล่อซอย 9 ไม่เก็บค่าเข้า ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07.30 - 16.00 น. (ปิดทุกวันที่ 16 ของเดือน) 

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Big Dog Cafe ที่นี่คืออาณาจักรของเหล่าน้องหมาใหญ่ใจดี ที่ไม่ได้มีดีแค่ไซซ์ แต่ยังมาพร้อมความแปลกและหายากกว่าที่ไหนๆ เพราะรวบรวมสุนัขกว่า 50 ตัวจากหลายสายพันธุ์ทั้งที่คุ้นเคยและแทบไม่เคยเห็นในไทย เช่น คมอนดอร์ หมาขนยาวฟูเหมือนพรม, อลาสกัน มาลามิวท์ ตัวโตใจดี, โอลด์อิงลิชชีพด็อก, แอเรเดล เทอเรีย และ อัฟกันฮาวด์หมาขนยาวสลวยที่เหมือนหลุดมาจากแคทวอล์ก

โดยคาเฟ่นี้ออกแบบระบบการเล่นกับน้องหมาเป็นรอบๆ วันละ 5 รอบ แต่ละรอบจะมีมากถึง 10 ฝูง หมุนเวียนมาเจอลูกค้า ทำให้ทุกครั้งที่ไปจะไม่เหมือนเดิม ได้เจอน้องหมาหลากหลายมากขึ้น บรรยากาศร้านกว้างขวาง เหมาะทั้งสำหรับคนที่อยากนั่งพักจิบกาแฟ หรือจะมาเต็มอิ่มกับอาหารแล้วใช้เวลาเล่นกับน้องหมาก็ฟินไม่แพ้กัน

ค่าเข้าเริ่มต้นเพียง 199 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 150 บาทสำหรับเด็ก แต่ถ้าอยากครบทั้งค่าเข้า เครื่องดื่ม และขนมเค้ก มีแพ็กเกจ 490 บาท หรือจะเลือกแพ็กเกจ 590 บาท ที่รวมอาหารด้วยก็คุ้ม ที่ Big Dog Cafe ซอยร่วมน้ำใจ แยก 2 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ร้านเปิดวันพฤหัส - วันอังคาร เวลา 09.30 - 19.30 น. (หยุดวันพุธ) 

ถ้าพูดถึงคาเฟ่น้องหมาที่ใหญ่ที่สุดในไทย ต้องยกให้ Dog Country Cafe ที่กินพื้นที่กว่า 3 ไร่ และมาพร้อมน้องหมามากถึง 400 ตัว! พื้นที่ภายในถูกแบ่งออกเป็นหลายโซนเพื่อความเป็นระเบียบ และเพื่อให้ลูกค้าได้เลือกเล่นกับน้องหมาตามสไตล์ที่ชอบ 

เริ่มที่โซน Center ที่รวมทั้งหมาเล็กและหมาใหญ่ไว้ด้วยกัน บรรยากาศคึกคักและเป็นกันเอง โซนที่ 2 โซนหมาเล็กสิบเซนติเมตร เหมาะสำหรับคนที่ชอบความน่ารักตัวจิ๋ว เพราะน้องๆ ในโซนนี้ขี้อ้อนสุดๆ สามารถอุ้มเล่นหรือให้อาหารได้ ต่อที่ Dog Gallery โซนของน้องหมาขนาดกลางที่เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเล่น ขึ้นไปบนชั้น 2 พบกับโซนกระต่ายและแมวกว่า 20 ตัว รวมทั้งสัตว์พิเศษอย่างแพะและหมู ที่เพิ่มความหลากหลายให้อารมณ์เหมือนฟาร์มเล็กๆ

นอกจากการเล่นกับน้องหมาแล้ว คาเฟ่นี้ยังมีโซนอาหารและดนตรีสด เหมาะกับการใช้เวลาเป็นครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนทั้งวัน ที่ Dog Country Cafe พุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ค่าเข้า 300 บาท เล่นได้ทุกโซนแบบไม่จำกัดเวลา พร้อมเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว เปิดทุกวัน 09.30 - 21.00 น.

ใครที่หลงเสน่ห์และชื่นชอบความน่ารักก้นกลมของเจ้าก้อนขนมปัง เอ้ย ! เจ้าหมาคอร์กี้ ต้องไม่พลาดกับคาเฟ่ของครอบครัวขาสั้นที่รวมความน่ารักเอาไว้ในที่เดียว เพราะที่นี่เต็มไปด้วยเจ้าหมาขาสั้นก้นกลมถึง 33 ตัว คาเฟ่เริ่มต้นจากการที่ครอบครัวเจ้าของเลี้ยงคอร์กี้หลายตัวอยู่แล้ว และอยากแบ่งปันความสุขให้คนอื่นได้เจอความสดใสแบบเดียวกัน จึงเปิดเป็นคาเฟ่ขึ้นมา 

ตัวร้านตกแต่งน่ารัก อบอุ่นเหมือนนั่งเล่นอยู่ในบ้านสวน เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเล่น จิบกาแฟ และนั่งชิลในวันสบายๆ เจ้าคอร์กี้เป็นหมาที่ขึ้นชื่อเรื่องความขี้เล่น ขี้อ้อน และความกวนที่ใครได้สัมผัสจะต้องตกหลุมรัก เมนูเครื่องดื่มที่นี่ก็มีทั้งกาแฟ เบเกอรี่โฮมเมด และไอศกรีมที่ช่วยเติมเต็มความสดชื่นในวันที่อากาศร้อน แนะนำว่าถ้าอยากเล่นกับน้องแบบเต็มที่ ควรเลือกไปในวันธรรมดา เพราะคนไม่เยอะ จะได้มีเวลาอยู่กับน้องๆ นานๆ ที่ Corgi in the Garden ซอยเจริญนคร 10 แขวงคลองต้นไทร คลองสาน กรุงเทพมหานคร ค่าเข้าเริ่มต้นที่ 350 บาท ฟรีเครื่องดื่ม 1 แก้ว / ผู้ใหญ่ท่านละ 450 บาท ฟรีเครื่องดื่ม 1 แก้วและเค้กโฮมเมดหรือไอศกรีม / เด็กส่วนสูง 90 - 110 ซม. ราคา 250 บาท ฟรีเครื่องดื่ม 1 แก้ว และเด็กส่วนสูงต่ำกว่า 90 ซม. เข้าฟรี ร้านเปิดทุกวัน เวลา 10.00 - 18.00 น.

จากสาขาเอกมัยสู่ย่านฮิปสเตอร์อารีย์ Dog in Town Ari คือคาเฟ่น้องหมาที่ให้ความรู้สึกเหมือนมาเล่นกับแก๊งเพื่อนตัวใหญ่ใจดี เพราะส่วนใหญ่ที่นี่จะเป็นหมาใหญ่สายพันธุ์ยอดนิยม เช่น ไซบีเรียนฮัสกี้, โกลเด้น รีทรีฟเวอร์, คอร์กี้, ซามอยด์ และยังมีหมาพันธุ์เล็กขี้อ้อนมาเสริมความน่ารักอีกด้วย กิมมิกสุดคิวท์ของร้านอยู่ที่น้องหมาทุกตัวจะถูกตั้งชื่อตามสถานี BTS ในกรุงเทพฯ เช่น หมอชิต, อ่อนนุช, สำโรง ทำให้เวลาเรียกชื่อยิ่งน่ารักเข้าไปอีก 

ใครที่ได้มาต้องบอกเลยว่าจะได้เสพโมเมนต์ความน่ารักของน้องๆ กลับบ้านไปแบบเต็มปอด บรรยากาศภายในร้านมีความเป็นกันเองมากๆ แถมยังมีการจัดคิวถ่ายรูปให้ลูกค้าคู่กับน้องๆ น้องหมาบางตัวก็ถูกฝึกให้โพสต์ท่าถ่ายรูปอย่างมืออาชีพ เรียกได้ว่าถ่ายกี่ช็อตก็ดีงาม ใครมาก็มั่นใจได้เลยว่าจะได้รูปสวยๆ กลับไปแน่นอน ที่ Dog in Town Ari ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ค่าเข้า 350 บาท ฟรีเครื่องดื่ม 1 แก้ว ไม่จำกัดเวลา ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.

สายหมาขนฟูต้องถูกใจแน่นอน เพราะ Neverland Husky คืออาณาจักรของเหล่าไซบีเรียนฮัสกี้กว่า 30 ตัว ที่ถูกดูแลอย่างดีจนขนฟูนุ่มน่ากอดทุกตัว และถึงแม้น้องๆ จะตัวใหญ่ แต่ทุกตัวก็มีนิสัยอ่อนโยน เป็นมิตรกับผู้คนสุดๆ ความพิเศษคือเราจะได้เล่นและถ่ายรูปรวมกับฝูงน้องหมาแบบเต็มๆ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ นอกจากไซบีเรียนแล้ว ที่นี่ยังมีน้องพันธุ์อื่นๆ ให้เล่นด้วย เช่น อาคิตะ อินุ ที่หายากในไทย และ ซามอยด์ เจ้าหมาหน้ายิ้มที่ใครเห็นก็ใจละลาย 

บรรยากาศของร้านถูกออกแบบให้เหมือนพื้นที่สวนกว้างๆ ทำให้ลูกค้าได้วิ่งเล่นกับน้องหมาอย่างใกล้ชิดโดยไม่อึดอัด และอีกไฮไลต์คือโซนสินค้าที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็นของใช้หรือเมอร์เชนไดส์ลายน้องๆ ที่สามารถซื้อกลับไปเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ ที่ Neverland Husky ซอย อารีย์สัมพันธ์ 2 แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ค่าเข้าเริ่มต้นที่ 350 - 500 บาท ฟรีเครื่องดื่ม 1 แก้ว โดยร้านจะเปิดเป็นรอบเช้า 11.00 - 14.00 น. และรอบบ่าย 15.00 - 18.00 น. (จำกัดเวลาในการเล่น) 

คนรักหมาชิบะ ต้องปักหมุดมาเยือนให้ได้กับ Shibainu Story คาเฟ่ที่รวมฝูงน้องหมาชิบะไว้ให้เราได้สัมผัสความน่ารักกันอย่างใกล้ชิด มีทั้งชิบะตัวโตขี้เล่นและลูกชิบะไซซ์มินิที่น่ารักจนใจละลาย โดยจุดเด่นคือการจัดแบ่งโซนอย่างชัดเจน ทั้งโซนทานอาหารสำหรับนั่งชิล และโซนน้องหมาที่เต็มไปด้วยเจ้าก้อนขนฟูที่พร้อมวิ่งเข้ามาเล่นด้วยตลอดเวลา

บรรยากาศในร้านอบอุ่นและคึกคักไปด้วยเสียงหัวเราะ เพราะน้องชิบะเป็นหมาที่ขึ้นชื่อเรื่องความน่ารักกวนๆ อยู่แล้ว แถมที่นี่ยังเป็นฟาร์มชิบะอีกด้วย หมายความว่าถ้าใครถูกใจน้องตัวไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถติดต่อเพื่อรับน้องกลับบ้านได้ ถือว่าเป็นคาเฟ่ที่ให้มากกว่าการเล่นกับน้องๆ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการได้เจอเพื่อนใหม่สี่ขาจริงๆ ที่  Shibainu Story จุฬาซอย 5 ถนนบรรทัดทอง โครงการดราก้อนทาวน์  ค่าเข้าราคา 250 บาท ไม่จำกัดเวลา ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น.

ทาสรักหมาเด็กขี้อ้อนไม่อยากให้พลาดกับ Bangkok Dog Cafe คาเฟ่ที่สร้างขึ้นจากความตั้งใจของบรีดเดอร์มืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี จุดเด่นคือฝูงโกลเด้นที่ถูกเพาะพันธุ์และคัดสรรมาอย่างดี ทุกคนจะได้เจอน้องๆ โกลเด้นที่ไม่เพียงแต่น่ารักอย่างเดียว แต่ยังได้มาตรฐานระดับแชมป์อีกด้วย โดยคาเฟ่นี้จัดกิจกรรมให้เราได้เจอน้องหมาเป็นรอบๆ โดยมีแพ็กเกจให้เลือกหลายแบบ 

เริ่มต้นที่ รอบ Variety 199 บาท สามารถเล่นกับน้องหมาหลากหลายสายพันธุ์กว่า 30 ตัว ทั้งขนาดเล็กและกลาง แบบไม่จำกัดเวลา (ไม่มีเครื่องดื่ม) เหมาะกับคนที่อยากลองบรรยากาศก่อน มาต่อที่รอบ Combo 350 บาท เหมาะสำหรับแฟนพันธุ์แท้โกลเด้น เพราะคุณจะได้เล่นกับโกลเด้นแชมป์ทั้งฝูงแบบเอ็กซ์คลูซีฟ 1 ชั่วโมงเต็ม พร้อมฟรีเครื่องดื่ม และต่อรอบ Variety ได้แบบไม่จำกัดเวลา (ต้องจองล่วงหน้า) ปิดท้ายด้วยรอบ Puppy VIP 590 บาท ไปฟินกับฝูงลูกโกลเด้นสุดน่ารัก 1 ชั่วโมงเต็ม แถมฟรีเครื่องดื่มและถุงเท้าคู่ใหม่ ก่อนจะไปต่อรอบ Variety ได้แบบไม่จำกัดเวลาเช่นกัน ที่ Bangkok Dog Cafe ถนนกาญจนาภิเษก แขวงหลักสอง บางแค กรุงเทพมหานคร ร้านเปิดวันศุกร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.30 - 20.00 น.