อีเวนต์น่าสนใจในกรุงเทพฯ ตลอดมิถุนายนนี้

ก้าวเข้าสู่โลกที่มวลมนุษยชาติใกล้สูญสิ้น ในกำแพงที่คอยปกป้องและกักขังพวกเขา Attack on Titan โดย ฮาจิเมะ อิซายามะ ที่คราวนี้ไม่ได้เพียงแต่จะพารำลึกถึงความหลังผ่านมังงะ แต่เป็นการมอบประสบการณ์ที่เต็มไปด้วย แสง สี เสียง และสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ 

นิทรรศการนี้ไม่ได้เพียงแต่พาย้อนกลับไปดูเรื่องราวของกำแพงแต่ยังย้ำเตือนว่าปีศาจที่แท้จริงอยู่ที่ไหนกันแน่ ท่ามกลางความโกลาหลแห่งนี้ คุณจะได้เข้าไปโลดแล่นในโลกของสงครามที่มีไททัน ขนาด 4 เมตร พร้อมจะเขมือบคุณทุกที่ทุกเวลาในรูปแบบ 3 มิติ 

จัดแสดงที่เซ็นทรัลเวิลด์ ราคาบัตร 300 - 420 บาท ซื้อบัตรได้ที่นี่ ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน เวลา 11.00น. - 21.00น. 

เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปี ของ นารูโตะ 54 Entertainment ได้จับมือกับ SL Experiences Naruto The Gallery เป็นนิทรรศการที่เชิญชวนให้คุณได้เข้าไปสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างนารูโตะกับซาสึเกะ ผ่านโซนการแสดงทั้ง 7 โซน เหตุการณ์สำคัญตั้งแต่วัยเด็กในหมู่บ้านโคโนฮะจนถึงวันที่โชคชะตาพาให้พวกเขากลับมาพบกันในสงครามนินจาครั้งที่ 4 

นิทรรศการนี้ไม่ได้เพียงแค่ย้อนความทรงจำของเรา แต่ยังเป็นการนำภาพต้นฉบับ แบบร่างตัวละคร ฉากที่น่าจดจำจากมังงะ รวมไปถึงแผนผังหมู่บ้านโคโนฮะมาแสดงเช่นกัน ซึ่งเป็นการร่วมมือสร้างระหว่างศิลปินชาวญี่ปุ่นทั้ง 5 ท่าน จึงยิ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นตำนานของอนิเมะเรื่องนี้ และจะสร้างเซอไพรส์ให้ทั้งแฟนคลับทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าแน่นอน 

จัดแสดงที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ราคาบัตร 250 - 450 บาท สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบเข้าชมฟรี ซื้อบัตรได้ที่นี่ ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม - 31 กรกฎาคม เวลา 10.00น. - 20.00น. 

แฟนโดราเอมอนห้ามพลาด! งาน 100% Doraemon and Friends Tour มาถึงประเทศไทยเป็นครั้งแรก หลังจากไปสร้างความประทับใจมาแล้วที่ฮ่องกง ไต้หวัน และเซี่ยงไฮ้ งานนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปีของ ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ผู้สร้างโดราเอมอน ด้วยฟิกเกอร์ขนาดเท่าตัวจริงจากมังงะ

ภายในงานจะแบ่งเป็น 2 โซนหลัก โซนแรกคือพื้นที่จำลองจากโลกมังงะ ที่มีโดราเอมอนและผองเพื่อนในขนาดความสูง 123.9 ซม. ตามต้นฉบับเป๊ะ ส่วนอีกโซนเป็นคาเฟ่และร้านป๊อปอัปธีมโดราเอมอน ที่มีสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะงานนี้เท่านั้น ไฮไลต์เด็ดคือ โดราเอมอนเป่าลมยักษ์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะเปิดตัวริมแม่น้ำเจ้าพระยา กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่สุดแฟนตาซีของกรุงเทพฯ 

จัดแสดงที่ Attraction Hall, ICONSIAM ราคาบัตร 199 - 1,790 บาท ซื้อบัตรได้ที่นี่ ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน เวลา 10.30น. - 21.00น.

นักดนตรีบางคนเป็นเหมือนช่างแกะสลัก – ที่ทำงานอย่างเงียบ ๆ อยู่ในสตูดิโอ ทุกตัวโน๊ตถูกวางลงไปอย่างละเมียดละไม ในขณะที่นักดนตรีคนอื่น ๆ ประสบความสำเร็จจากเสียงดนตรีสดที่แผดกว้างและถูกหลอมละลายหายไป Yussef Dayes เป็นศิลปินแบบหลัง มือกลองจากทางใต้ของลอนดอน 

ผู้มาพร้อมกับโสตประสาตและเซนส์ของจังหวะที่น่าทึ่ง เขาสรรค์สร้าง ตัวโน๊ตที่คาดไม่ถึงในเพลงแจ๊ส แหกกฏของดนตรี เขาไม่เคยหยุดในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ยอมที่จะผุสลายเพื่อกลายเป็นสิ่งที่ดีกว่าเดิม 

หลายปีผ่านไปหลังจากที่ดนตรีแนวผสมผสานของเขาสร้างความสนุกสานในลอนดอน วันนี้ Dayes ได้นำ The Yussef Dayes Experience มาแสดงโชว์เดี่ยวครั้งแรกที่ประเทศไทย 

ทำการแสดงที่ Lido Connect 2 ในวันที่ 6 มิถุนายน เวลา 19.00น. บัตรจำหน่ายหมดแล้ว

นิทรรศการกลุ่มครั้งแรกในกรุงเทพฯ ที่มุ่งเน้นศิลปินเควียร์จากเมียนมา การเปิดตัวร่วมกันที่ไม่ได้มาในรูปแบบฉูดฉาด แต่เปรียบเสมือนลมหายใจที่รอคอยมาเนิ่นนาน ผลงานในนิทรรศการนี้ไม่ได้ส่งเสียงดัง 

หากแต่เต็มไปด้วยความปวดร้าว ผ่านวิดีโอ ประติมากรรม การแสดงสด และภาพนิ่ง ศิลปินแต่ละคนต่างถักทอเส้นเรื่องระหว่างการจากลาและการหาที่พึ่งพิง แผนที่อารมณ์ของความคิดถึงบ้าน การปรับตัว และการค้นหาตัวตนในเมืองที่มอบทั้งความหวังและความไม่ลงรอย

บางคนจากบ้านมาเพราะความรัก บ้างเพราะการทำงาน หรือเพื่อเสรีภาพ แต่ทุกคนล้วนแบกรอยประทับของที่อื่นมาเก็บไว้ ส่วนใหญ่ไม่ได้เดินบนเส้นทางศิลปะในหอศิลป์ขาวสะอาดแบบที่คุ้นเคย หากแต่เริ่มต้นจากโลกแฟชั่น เซตโฆษณา หรือฉากใต้ดิน และผลงานที่นำเสนอไม่ได้มีความเป็นมือสมัครเล่นแม้แต่น้อย

นี่ไม่ใช่นิทรรศการที่เรียกร้องการยอมรับ แต่มันยืนหยัดด้วยความเงียบอย่างท้าทาย ราวกับไดอารี่ที่ถูกเปิดทิ้งไว้ในห้องที่คุณไม่ควรเข้าไป

จัดแสดงที่ SAC Gallery ไม่มีค่าเข้าชม ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน - 9 สิงหาคม

บางการแสดงก็แค่กระซิบเบา ๆ แต่ A Cage of Fragile Heart กลับเดือดพล่านในความเงียบ กำกับโดย มัดหมี่ พิมดาว พานิชสมใจ  ผู้เคยฝากผลงานอันตราตรึงใน Bangkok Art Biennale 2024 และเป็นที่รู้กันว่าเธอไม่เคยพยายามให้คำตอบที่เรียบง่าย 

เรื่องนี้คือบทสำรวจถึงวิธีที่เรากักขังตัวเอง ไม่ใช่ด้วยโซ่เหล็ก แต่ด้วยบทบาท พิธีกรรม และสายตาของคนรอบข้าง แม้มีนักแสดงเพียงคนเดียวบนเวที แต่บรรยากาศกลับอัดแน่นไปด้วยความกลัว และความกระหายที่จะหลุดพ้น 

นักแสดง David Bigander เคลื่อนไหวราวกับถูกหลอกหลอนด้วยตัวตนในอดีตและความเป็นไปได้ที่แตกต่างกัน ท่าเต้นโดย ภาวิดา วชิรปัญญาพร ทำให้ร่างกายกลายเป็นภาษาหนึ่ง ส่วนบทกวีของ วิน นิมมานนราวุธหรือที่รู้จักในนาม Romantic Savage แทรกซึมเข้ามาเหมือนลมหายใจที่กลั้นไว้นานเกินไป 

นี่ไม่ใช่ละครที่มีเนื้อเรื่องแบบชัดเจน แต่มันคือการเผชิญหน้ากับความจริง ที่ซึ่งความเงียบ การเคลื่อนไหว และความทรงจำ ตั้งคำถามเดียวที่สำคัญที่สุดว่า เมื่อหน้ากากหลุดออกไปแล้ว… อะไรคือสิ่งที่ยังเหลืออยู่

ทำการแสดงที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก บัตรราคาเริ่มต้นที่ 350 - 500 บาท จองได้ที่นี่ เริ่มแสดงวันที่ 7 - 15 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 18.30น.

เพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น  ถนนภายใน Sansiri Krungthep Kreetha Community จะถูกเนรมิตให้กลายเป็นกระดานเกมกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่ซึ่งครอบครัวจะกลายเป็นนักผจญภัยแบบไม่คาดคิดในภารกิจไขปริศนาแบบอินเทอร์แอคทีฟ ลืมหน้าจอและตารางนัดเล่นแบบเดิม ๆ ไปได้เลย เพราะที่นี่ ทีมเวิร์กคือสกุลเงิน และความอยากรู้อยากเห็นคือเข็มทิศนำทาง 

ทุกมุมของพื้นที่ซ่อนเบาะแสไว้อย่างแนบเนียน ทุกภารกิจจะพาผู้ร่วมกิจกรรมก้าวลึกไปสู่จังหวะของการค้นพบร่วมกัน กิจกรรมนี้ไม่ใช่แค่ล่าสมบัติธรรมดา แต่ยังเป็นการทดลองทางสังคมเล็ก ๆ ที่ตั้งใจสร้างความสนุก พร้อมกับสะท้อนบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น ความสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน ในชุมชนที่เต็มไปด้วยถนนเรียบหรูและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสากล 

กิจกรรมนี้เหมือนจะเข้ากับแนวคิดของการใช้ชีวิตแบบชุมชน ว่าบางทีสิ่งที่น่าอยู่ที่สุดอาจไม่ใช่ความเป๊ะตามโบรชัวร์ แต่คือความวุ่นวายที่มีชีวิตชีวาและการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง นี่คือความสนุกที่มีแก่นสาร ไม่ได้หาเจอได้ง่ายนัก

จัดที่ Sansiri Krungthep Kreetha Community ค่าเข้าร่วมกิจกรรม 550 บาท สำหรับครอบครัว 4 ท่าน สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ เข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่เวลา 16.00น. - 22.00น.  

กรุงเทพฯ เมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งที่ยากจะนิยามให้ชัดเจน ดูเหมือว่าจะต้องการพื้นที่ที่เปิดกว้างมากขึ้น เพื่อให้ทุกคนได้ปล่อยใจจากทุกความขัดแย้ง และนั่นคือจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์หมุนเวียนที่ Neighbourmart พื้นที่รวมตัวของศิลปิน นักออกแบบ และนักขบคิดตัวยงเรื่องชีวิตในเมือง ไม่ใช่เพื่อขายของ แต่เพื่อพูดคุย ตั้งคำถาม และบางครั้งก็เพื่อเล่นสนุก

กิจกรรมที่นี่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ บางวันเป็นทัวร์เดินชมเมือง บางวันเป็นเสวนา บางวันกลายเป็นนิทรรศการหรือการแสดงแบบเฉพาะกิจ รอบนี้ เปิดพื้นที่ให้กับ Bangkok Pains บอร์ดเกมจาก Invisible Ink ที่หยิบเรื่องราวอันน่าปวดหัวในชีวิตประจำวัน ทั้งรถติด สายไฟพันกัน หรืออาการหมดไฟระหว่างรอคิวในเซเว่น มาแปลงเป็นเกมที่ทั้งเจ็บจี๊ดและเยียวยาไปในตัว ไม่ได้เล่นเพื่อชนะ แต่เพื่อมองเห็นความวุ่นวาย เข้าใจมัน ตั้งชื่อให้มัน และหัวเราะขื่นๆ ไปพร้อมกับใครบางคนที่เข้าใจ

จัดแสดงที่ Neighbourmart TCDC ไม่มีค่าเข้าชม ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน สามารถลงทะเบียนได้ที่นี่ เปิดให้เข้าชมเวลา 14.00น. - 17.00น.

16 สุดยอดนักเต้นสตรีทแดนซ์ของไทย เตรียมปะทะกันในศึกแบทเทิล 1 ต่อ 1 ที่ดุเดือดที่สุดแห่งปี ทั้งเต็มไปด้วยพลัง ความเร็ว และจังหวะที่ไม่มีใครยอมใคร ท่ามกลางสายตาผู้ชมกว่า 2,000 คน ผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งเวทีระดับโลกที่ลอสแอนเจลิส เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องการเต้น แต่ครั้งนี้จะได้เห็นสไตล์ที่ไม่เหมือนใครแน่นอน เหงื่อจะไหล อารมณ์อาจล้น และระหว่างรอบการแข่งขันยังมีโชว์พิเศษจาก Tobii Thaitanium และ Younggu ที่มากับความคูลแบบไม่แคร์ใคร หนึ่งเวที หนึ่งโอกาส ไม่มีรอบสอง

ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ไม่มีค่าเข้างาน วันที่ 7 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป

ในผลงานล่าสุดของ อุดม แต้พานิช ศิลปินที่รู้จักกันดีในเรื่องการสื่อสารความคิดมากมายเพียงแค่ยักคิ้ว เขาพาผู้ชมย้อนกลับไปตั้งคำถามถึงการเลือนหายของ ‘การเล่น’ แบบแท้จริง 

ไม่ใช่ของเล่นที่ขายกันทั่วไป แต่คือการเล่นที่เราเคยสร้างขึ้นเองตามสัญชาตญาณ สมัยที่เบาะโซฟากลายเป็นปราสาท และคำถามผุดขึ้นมาโดยไม่ต้องคิดนาน ตอนนั้น จินตนาการเป็นสิ่งที่เราทุกคนมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด เราวาดอสุรกายจากลายเส้นมั่ว ๆ สร้างทั้งโลกจากกล่องกระดาษ

แต่แล้วก็มีเส้นแบ่งบาง ๆ ที่เรียกว่า ‘วัยผู้ใหญ่’ โผล่ขึ้นมา ความผิดพลาดกลายเป็นเรื่องน่าอาย ความสุขต้องมีเหตุผลมารองรับ เราลืมไปว่าความไร้สาระโดยไม่ต้องขอโทษใคร เคยเป็นเรื่องธรรมดา และอาจจะยังเป็นไปได้…ถ้าเรายอมเปิดใจอีกครั้ง

ที่ The Pinnacle Hall, ICONSIAM บัตรราคา 250–850 บาท ซื้อได้ที่นี่ ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน – 3 สิงหาคม เวลา 11.00 – 21.00 น. 

Kula Shaker ไม่ใช่วงดนตรีที่เดินตามสูตรสำเร็จทั่วไป พวกเขาเหมือนการปะทะกันของเสียงซิตาร์ และพลังงานที่สะกดทั้งร่างกายมากกว่า โด่งดังจากกระแสไซเคเดลิกร็อกในอังกฤษช่วงยุค 90s พวกเขาเป็นคนที่แหวกแนวจากคนอื่น และนั่นแหละคือเหตุผลที่พวกเขายังคงอยู่จนถึงวันนี้

การกลับมาครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนแนว แต่เพื่อปลุกจิตวิญญาณเดิมให้มีชีวิตอีกครั้ง คอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ได้พาเราย้อนวันวาน แต่นำเราออกนอกเส้นทางไปสู่โลกที่ประหลาดขึ้น ดังขึ้น และลึกซึ้งขึ้นอย่างน่าประหลาด ไม่ว่าจะเป็นเสียงกีตาร์หมุนวนแบบจักรวาล บทสวดภาษาสันสกฤต และเสียงร้องที่เหมือนหลุดมาจากอีกยุคหนึ่ง

คุณอาจจะกำลังโยกตัวตามจังหวะ แล้วทันใดนั้นก็เหมือนหลุดไปอยู่ตรงกลางระหว่างแคมเดนกับแม่น้ำคงคา งงไปหมดว่ามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง คำตอบน่ะเหรอ? ก็ Kula Shaker ไงล่ะ

ที่ Lido Connect บัตรจำหน่ายหมดแล้ว 12 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป

เพียง 3 คืนเท่านั้น เชพผู้ได้การขนานนามว่า King of White Truffles อย่างเชฟอุมแบร์โต บอมบานา  (Umberto Bombana) กลับมาเยือนกรุงเทพฯ อีกครั้ง พร้อมลงมือปรุงอาหารด้วยตัวเองที่ Cannubi by Umberto Bombana ร้านอาหารที่ใช้ชื่อของเขาแต่แทบไม่เคยได้เห็นตัวจริงเสียงจริงของเขาสักที 

นอกจากนั้นยังไม่ใช่แค่ดินเนอร์ธรรมดา แต่เป็นการแสดงศิลปะที่มีชีวิต ตั้งใจ สั้นกระชับ และจะยังตราตรึงอยู่ในใจแม้จบคอร์สสุดท้ายไปแล้ว

เมนูจะเป็นอะไรนั้นยังไม่เปิดเผยแน่นอนตามสไตล์ แต่บอกได้เลยว่า มันจะไม่ใช่แค่วัตถุดิบธรรมดาๆ แต่เป็นบทสนทนาเงียบๆ ที่ชวนให้ขบคิด ความเรียบง่ายจะหยอดกลิ่นอายของความหรูหรา และระหว่างจาน คุณจะเข้าใจว่าทำไมเชฟบางคนถึงได้รับการยกย่องไม่ต่างจากจิตรกร กวี หรือแม้แต่นักบุญ

ที่ Dusit Thani Bangkok ราคาเริ่มต้นที่ 11,950 บาท สำรองที่นั่งโทร 02-200-9000 หรือที่เว็บไซต์ของทางร้าน 12–14 มิถุนายนนี้เท่านั้น เวลา เที่ยงวัน – 23.00 น. 

ไม่ใช่ทุกการปฏิวัติจะต้องส่งเสียงดัง บางครั้งมันเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ บนหน้าจอ ในห้องสูงเหนือเมือง ที่ซึ่งเรื่องราวฉายอยู่บนผนัง และอัตลักษณ์หลากหลายก็กลายเป็นจุดศูนย์กลาง

งานภาพยนตร์ 2 วันนี้ จัดร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ไม่ได้ต้องการจะเรียกร้องความสนใจจากใคร แต่มุ่งเน้นที่จะเล่าเรื่องอย่างจริงใจ ภายใน Maa-Lai Library บนชั้น 30 ของโรงแรม บรรยากาศอบอุ่นเหมือนนั่งดูหนังอยู่บ้านเพื่อนมากกว่าโรงหนัง 

นอกจากนั้นยังคัดสรรหนังที่เล่าเรื่องของชีวิต LGBTQIA+ ที่เล่าเรื่องราวได้อย่างจริงใจ มีความวุ่นวาย เฮฮา ไม่สมบูรณ์แบบ และเต็มไปด้วยชีวิต

13–14 มิถุนายน ไม่มีค่าเข้าชม ที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok ตั้งแต่ 15.00 น. เป็นต้นไป

จดหมายรักกลางฤดูร้อนของกรุงเทพฯ ฉบับนี้ไม่ได้มาพร้อมความหวานเบา ๆ แต่มากับความเร่าร้อนและโกลาหลในจังหวะเสียงแบบเต็มพิกัด งานเทศกาลดนตรีที่จัดโดย One Bangkok ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสและ Alliance Française ครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อเป็นแค่เพลงเปิดคลอ แต่มาเพื่อปลุกพลังในตัวคุณ ด้วยเสียงดังสนั่น เหงื่อไหล และอารมณ์ล้นทะลัก

พบกับ 5 เวที 28 ศิลปินจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่หมอลำที่ร้อยเรียงเข้ากับแจ๊ส ป๊อปที่ผสามผสานกับเทคโน และดีเจที่จะเล่นยาวจนคุณลืมเวลา ศิลปินแถวหน้าอย่าง Phum Viphurit Gene Kasidit และ Paradise Bangkok Molam International จะขึ้นเวทีเดียวกับศิลปินหน้าใหม่และนักแสดงสายสตรีทในบรรยากาศที่ไร้ขอบเขต เปิดรับทุกคน และเสียงดังสะใจ เป็นค่ำคืนที่ถูกร้อยเรียงด้วยบีตหนักๆ และความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยาย

วันที่ 14 มิถุนายน ไม่มีค่าเข้าชม ที่ One Bangkok และ Alliance Française (เวลาจะประกาศเร็วๆ นี้)

มิถุนายนนี้เป็นครั้งแรกที่มีที่นั่งพิเศษสำหรับสาย Bears โดยเฉพาะ เพราะไม่ใช่ทุกเรื่องรักจะเริ่มต้นจากการปัดซ้ายขวาในแอปได้เสมอไป นอกจากสปีดเดตสำหรับชาว LGBTQ+ และชายหญิงแล้ว ปีนี้ยังมีรอบใหม่มาเสริมทัพ สำหรับคนที่ชอบความรักที่นุ่มนวล และอบอุ่นกว่าที่เค

ทั้งสองคืนเต็มไปด้วยความเขิน ความลุ้น และบางที...ความพัง แต่ก็ใช่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ ที่ทำให้การเริ่มต้นมันน่าจดจำ ไม่มีรูปโปรไฟล์ ไม่มีคำแนะนำตัวที่แต่งมาดีเกินจริง มีแค่การสบตา มุกแป้กๆ และความเป็นไปได้อันน่าตื่นเต้นว่า… นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรบางอย่างจริงๆ ก็ได้

ที่ SO/ Bangkok บัตรราคา 1,499 บาท จองได้ที่นี่เลย วันที่ 21 และ 29 มิถุนายน เวลา 19.00 - 22.00 น.

อยากเปลี่ยนบรันช์ธรรมดาให้กลายเป็นมื้อที่มีทั้งรสชาติ ดนตรี และวิวสุดว้าว ลองมาที่ Ojo ชั้น 76 ของ The Standard, Bangkok Mahanakhon กับงาน Amigos de Ojo ที่จัดทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือน มื้อนี้เน้นความสนุกและจัดเต็มในแบบเม็กซิกันแท้ ทั้ง โบตานาส กัวคาโมเล่ ทาโก้หลายไส้ ซีฟู้ดสด หอยนางรม และเซบิเช่แบบไม่อั้น

ไฮไลต์คือการคอลแลบกับเชฟรับเชิญที่หมุนเวียนกันทุกเดือน มาร่วมเสิร์ฟเมนูสุดครีเอต อย่างที่ผ่านมาก็ได้ Vaso และ Bisou มาร่วมสร้างสีสันกันจนอยากให้มีจัดทุกอาทิตย์ เสริมบรรยากาศด้วยดีเจเซตชิลๆ และวิวกรุงเทพฯ พาโนรามาจากมุมที่สูงที่สุดในประเทศ

ของหวานก็ห้ามพลาด ไม่ว่าจะเป็น ช็อกโกแฟลน เค้กสามนม หรือ conchas ขนมปังเม็กซิกันสูตรดั้งเดิม งานนี้เหมาะทั้งกับกลุ่มเพื่อน ครอบครัว หรือใครที่อยากเปลี่ยนวันเสาร์ให้กลายเป็นเทศกาลเล็กๆ

หลานม่า ได้สร้างปรากฏการณ์อย่างแท้จริง จากหนังไทยที่เข้าฉายในบ้านเรา สู่การคว้ารางวัลมากมายในระดับสากล และล่าสุด กำลังจะถูกรีเมคเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษโดยค่าย Miramax ใช่แล้ว Miramax นั่นแหละ ใช่จริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่งาน Cannes

ในเทศกาลภาพยนตร์เดือนนี้ หนังเรื่องนี้จะได้กลับมาฉายอีกครั้งพร้อมกับเรื่องราวของความเศร้า ความรู้สึกผิด และความตึงเครียดระหว่างวัยที่ถูกร้อยเรียงไว้อย่างลึกซึ้ง ทั้งใกล้ตัวและเฉพาะเจาะจง 

ผู้กำกับ พัฒน์ บุญนิธิพัฒน์ ผู้ที่สามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ออกมาเป็นงานภาพยนตร์ที่งดงามแทนที่จะเป็นแค่เรื่องซาบซึ้ง จะมาร่วมพูดคุย Q&A หลังการฉายด้วยตัวเอง

เตรียมพบกับเสียงหัวเราะที่ชวนอึดอัด น้ำตาที่ไหลเบาๆ และบรรยากาศที่ตอกย้ำว่า หนังไทยตอนนี้ไม่ได้แค่ มีโมเมนต์ แต่มันคือ movement จริง ๆ

ที่ TK Park เซ็นทรัลเวิลด์ สำหรับสมาชิก TK Park ไม่มีค่าเข้าชม สำหรับผู้ที่ไม่ใช่สมาชิก TK Park ค่าเข้าหน้างาน 20 บาท สำรองที่นั่งได้ที่ filmforum17@gmail.com วันที่ 22 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป

เสียงดนตรีของเขาไหลเอื่อยเหมือนควันแดดในห้องเงียบๆ เต็มไปด้วยจังหวะกรู๊ฟ ความรู้สึกลึกๆ ที่หวนให้คิดถึงความทรงจำเก่า ๆ

เพียงคืนเดียวเท่านั้น โปรดิวเซอร์และนักร้องจาก LA คนนี้จะมาแสดงสดที่กรุงเทพฯ พร้อมโชว์พิเศษที่รวมทั้งงานที่ยังไม่เคยปล่อย และเพลงดังในหมู่แฟนตัวจริง เล่นสดทั้งคีย์บอร์ดและร้องสดให้ฟังกันแบบเต็มอารมณ์

ใครที่รู้จัก MNDSGN จะรู้ว่าเขาโตมากับโซล ขัดเกลาด้วยสไตล์ของ Stones Throw Records และผ่านการลุยซีนเบสหนักๆ อย่าง Low End Theory มาแล้ว เสียงของเขาไม่ใช่อะไรที่จัดหมวดง่ายๆ มันคือ R&B ที่แฝงกลิ่นไซคีเดลิก เพลงประกอบหนังที่มีหัวใจของแจ๊ส และวงดนตรีที่ไม่ได้แค่เล่น แต่สื่อสารกันด้วยเสียงดนตรี

อัลบั้ม Rare Pleasure คือก้าวใหม่ที่ไม่ทิ้งตัวตนเดิม แต่พาเราไปอีกมิติหนึ่งของเขา และครั้งนี้ กรุงเทพฯ จะได้สัมผัสตัวจริงของเขาแบบใกล้ชิด ก่อนที่เขาจะกลับเข้าสู่วงโคจรลึกลับของตัวเองอีกครั้ง

ที่ Speakerbox บัตรราคา 1,300 บาท ซื้อได้ที่นี่ วันที่ 23 มิถุนายน เวลา 20.30 น. ไม่มีค่าเข้าชม