Singapore
Daniel Iskandar/Time Out Singapore

ฉลองเทศกาลคริสมาสต์และปีใหม่ที่สิงคโปร์ เช็กอินพิกัดยอดนิยมบนถนนออร์ชาร์ดและย่านมารีน่าเบย์

ชมแสงไฟสวยงามตระการตา ช้อป ชิมของอร่อย ซึมซับบรรยากาศแห่งความสุข

Time Out Bangkok in partnership with Singapore Tourism Board
การโฆษณา

นอกจากแสงไฟประดับประดาอันงดงามที่จัดเต็มอย่างสุดๆ ในเทศกาลคริสมาสต์นี้ ยังมีเหตุผลอีกมากมายที่เราอยากชวนทุกคนไปดื่มด่ำบรรยากาศแห่งความสุขกันที่สิงคโปร์ โดยเฉพาะที่ย่านถนนออร์ชาร์ดและมารีน่าเบย์ ไม่ว่าจะเลือกช้อปตามร้านรวงต่างๆ อย่าง Design Orchard หรือ Foot Locker ดื่มด่ำมื้อพิเศษแสนอร่อยจากสุดยอดร้านอาหารดังอย่าง Kausmo และ 1-Atico ละเลียดชิมของหวานกันให้ฟินที่ Tarte by Cheryl Koh หรือ Mylo's หรือจะชนแก้วจิบกับคนรู้ใจที่ Caffe Fernet กับ Level33 เราขอแนะนำการใช้เวลาให้รื่นรมย์สุดๆ บนถนนออร์ชาร์ดและมารีน่าเบย์แซนด์ในช่วงเทศกาลอันแสนพิเศษนี้ แน่นอนว่ารวมถึงแสงไฟตระการตาที่ Christmas Wonderland และพิกัดช้อปปิ้งเริ่ดๆ อีกด้วย!!

 

กิจกรรมห้ามพลาดและร้านค้าต้องแวะช้อป

ตระการตากับแสงไฟพราวระยับที่ Christmas Wonderland
Photograph: Daniel Iskandar/Time Out Singapore

ตระการตากับแสงไฟพราวระยับที่ Christmas Wonderland

Christmas Wonderland กลับมาอีกครั้งที่ Gardens by the Bay ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคมถึง 2 มกราคม และเหมือนทุกปีที่งานฉลองนี้เต็มไปด้วยการแสดงแสงไฟสวยงาม เครื่องเล่นเกมส์คาร์นิวัลสนุกๆ งานออกร้านรวงคริสต์มาส รวมถึงการแสดงแสงสีเสียง Garden Rhapsody ที่น่าตื่นตาตื่นใจ เราอยากชวนทุกคนไปชมการแสดงแสงมหัศจรรย์ทั้ง 8 รวมถึงไฮไลต์ดาวเด่นที่รังสรรค์โดยช่างฝีมือจากอิตาลี ในรูปแบบของสถาปัตยกรรมแสงสูงเจ็ดชั้นที่ดูคล้ายบานหน้าต่างลายดอกกุหลาบที่พบได้ในโบสถ์โกธิค, งาน Walk of Stars สุดโรแมนติกสูงถึง 44 เมตร, และ Enchanted Bridge ที่เจิดจรัสด้วยไฟ LED จำนวนมากถึง 100,000 ดวง!! นอกจากนี้บนยอดของต้นไม้ยักษ์ Supertree Grove สัญลักษณ์ของ Gardens by the Bay ก็ยังมีไฟเต้นระบำที่กระพริบเปลี่ยนตามเพลงคริสต์มาสที่ทุกคนชื่นชอบอีกด้วยนะ!

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Christmas Wonderland, ดูที่ christmaswonderland.sg

ซึมซับบรรยากาศแห่งความสุข ที่ Christmas on a Great Street
Photograph: Daniel Iskandar/Time Out Singapore

ซึมซับบรรยากาศแห่งความสุข ที่ Christmas on a Great Street

ร่วมสัมผัสจิตวิญญาณแห่งคริสต์มาสประจำปีนี้กันด้วยแสงไฟระยิบบนถนนสายช้อปปิ้งเลื่องชื่ออย่างถนนออร์ชาร์ด ซึ่งเริ่มประดับประดามาตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในธีมพิเศษประจำปีนี้คือ "Christmas in Bloom" สื่อถึงความเบ่งบานของย่านธุรกิจอันมีชื่อเสียงและความหวังว่าสิ่งดีๆ กำลังจะผ่านเข้ามาในปีใหม่

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้ ตลอดถนนออร์ชาร์ดระยะทาง 3.1 กิโลเมตรจากห้างตันลิน (Tanglin Mall) ไปจนถึงพลาซ่าสิงหปุระ (Plaza Singapura) จะถูกปลุกให้เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาอีกครั้งด้วยแสงไฟ ซุ้มประตู และดอกไม้ที่เบ่งบาน ตรงแยกถนนออร์ชาร์ดตัดกับถนนสกอตส์ เราจะได้พบกับซุ้มประตูหลักสูงถึง 12 เมตร ประดับประดาด้วยสีแดง สีขาว และสีทอง พร้อมต้นคริสต์มาสยักษ์ตกแต่งอย่างงดงาม แถมยังมีซุ้มประตูต้อนรับอีกแห่งบนถนนทังลิน ซึ่งประดับประดาด้วยสีแดงกับสีโรสโกลด์ เพื่อต้อนรับการเฉลิมฉลองอันรื่นเริง นับเป็นช่วงเวลาแสนพิเศษที่ทั่วทั้งถนนทังลิน, ออร์ชาร์ด และ ซัมเมอร์เซ็ต จะอาบไล้ไปด้วยแสงไฟแพรวพราวจากไฟประดับ LED สุดตระการตา

ยังมีอีก 2 กิจกรรมไฮไลต์ที่ห้ามพลาดอย่าง Virtual Tour of Christmas on A Great Street 2021 ที่ทุกคนสามารถรับชมความงามของคริสต์มาสบนถนนอันยิ่งใหญ่สายนี้กันแบบ Virtual Tour ผ่านโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ที่บ้าน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ซึ่งคุณสามารถชมบรรยากาศในช่วงเทศกาลนี้ได้อย่างเสมือนจริง 360 องศา! ส่วนอีกหนึ่งกิจกรรมที่ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดก็คือ การฉายภาพ Augmented Reality กลางแจ้งขนาดยักษ์ครั้งแรกบนถนนออร์ชาร์ด ซึ่งจะจัดขึ้นบริเวณผนังด้านข้างโรงแรมแมนดาริน ออร์ชาร์ด สิงคโปร์​ ชมการฉายภาพสุดว้าวตระการตาด้วยมัลติมีเดียผสานเทคโนโลยี Augmented Reality อันเป็นสุดยอดประสบการณ์ที่แนะนำว่าไม่ควรพลาด

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Christmas on A Great Street, ดูที่ orchardroad.org

ร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่กับงาน Marina Bay Singapore Countdown 2022
Photograph: Marina Bay Singapore Countdown 2022

ร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่กับงาน Marina Bay Singapore Countdown 2022

งานส่งท้ายปีที่มาริน่า เบย์ ในปีนี้จะเปลี่ยนจากการจุดพลุเพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่เหมือนปีก่อนๆ เป็นการแสดงแสงสีสุดตระการตาถึง 2 โชว์ คือ "Shine A Light" โชว์ที่จะสาด 60 ลำแสงไปทั่วเส้นขอบฟ้าบริเวณ The Promontory ส่วนโชว์ชุดต่อมาชื่อ "Share the Moment" ที่จะฉายภาพผลงานศิลปะของนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ทั่วสิงคโปร์ลงบนพื้นผิวของสถาปัตยกรรมสำคัญสามแห่งในมารีน่าเบย์ ได้แก่ The Fullerton Hotel Singapore, ArtScience Museum และ Merlion งานศิลปะเหล่านี้เน้นเกี่ยวกับธีมของช่วงเวลาอันอบอุ่น โดยเป็นแรงบันดาลใจจากรางวัล President's Volunteerism & Philanthropy Awards 2021

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงประติมากรรมแสงไฟและการฉายภาพบนทางเดินริมน้ำของมารีน่าเบย์ รวมถึงการแสดงแสงสีอันน่าตื่นตาตื่นใจบนต้นไม้ยักษ์ เป็นรูปกาแล็กซี และหน้าปัดนาฬิกาแนวแอ็บสแตรคสุดอลังการอีกด้วย

ชมนิทรรศการที่ ArtScience Museum
Photograph: William Cho

ชมนิทรรศการที่ ArtScience Museum

อาคารทรงดอกบัว แลนด์มาร์กที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของสิงคโปร์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของทั้งศิลปะ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ที่นี่เคยจัดแสดงนิทรรศการเต็มรูปแบบขนาดใหญ่ของศิลปินชื่อดังก้องโลกมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เลโอนาร์โด ดาวินชี, ซัลวาดอร์ ดาลี, เมาริตส์ กอร์เนลิส แอ็ชเชอร์, วินเซนต์ แวน โก๊ะ และศิลปินเจ๋งๆ อีกมากมาย

ด้านวิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังเคยจัดนิทรรศการนำเสนอแง่มุมทางวิทยาศาสตร์ที่หลากหลาย อย่าง Big Data ฟิสิกส์อนุภาค บรรพชีวินวิทยา ชีววิทยาทางทะเล ไปจนถึงการสำรวจอวกาศ ฯลฯ นอกจากนี้ยังจัดแสดงนิทรรศการระดับนานาชาติร่วมกับพิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก รวมถึงพิพิธภัณฑ์อังกฤษและพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในลอนดอน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอเมริกันในนิวยอร์ก ห้องสมุด Biblioteca Ambrosiana ในมิลาน พิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริในโตเกียว และศูนย์ภาพเคลื่อนไหวแห่งออสเตรเลียในเมลเบิร์น ฯลฯ นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดที่ควรแวะชมสักครั้ง หากได้ไปเยือนสิงคโปร์ในช่วงหยุดยาวนี้

เพลิดเพลินการแสดงที่ Esplanade Theatre (Esplanade Theatres on the Bay)
Photograph: Bernie Ng/Esplanade

เพลิดเพลินการแสดงที่ Esplanade Theatre (Esplanade Theatres on the Bay)

อีกหนี่งสถาปัตยกรรมที่ดึงดูดสายตาที่สุดของสิงคโปร์ ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายกับหนามแหลมของผลไม้เมืองร้อนอย่างทุเรียน อาคาร Esplanade Theatre ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวจึงได้รับชื่อเล่นจากชาวสิงคโปร์ว่า ‘The Durian’ มาตั้งแต่เมื่อเปิดในปี 2002

ดิเอสพลาเนดเป็นศูนย์ศิลปะการแสดงชั้นนำของสิงคโปร์ ซึ่งมีพร้อมทั้งคอนเสิร์ตฮอลล์ขนาด 1,600 ที่นั่ง โรงละครขนาดยักษ์ 2,000 ที่นั่ง นอกจากนี้ยังมีโรงละครอเนกประสงค์ ขนาด 220 ที่นั่ง และห้องบรรยาย อีก 245 ที่นั่ง มีดนตรีสดและการแสดงต่างๆ หมุนเวียนมาจัดแสดงตลอด คุณสามารถเลือกชมได้ตั้งแต่การแสดงของวงดนตรีอินดี้เล็กๆ ไปจนถึงละครเวทีฟอร์มยักษ์

ชมช้อปงานออกแบบ ค้นหาแรงบันดาลใจที่ Design Orchard
Photograph: Kashmira Kasmuri/Time Out Singapore

ชมช้อปงานออกแบบ ค้นหาแรงบันดาลใจที่ Design Orchard

Design Orchard คือศูนย์รวมผลงานออกแบบอันน่าภาคภูมิใจของดีไซเนอร์และช่างฝีมือชาวสิงคโปร์ ที่นี่เต็มเพียบไปด้วยแบรนด์ชั้นนำสัญชาติสิงคโปร์ซึ่งมีทั้งความหลากหลายและน่าสนใจกว่า 60 แบรนด์อย่าง Kydra, Onlewo, Baju by Oniatta, The Animal Project, Pinksalt Swim และอื่นๆ อีกมากมาย ดีไซน์สเปซสูง 2 ชั้นครึ่งพร้อมดาดฟ้าเปิดโล่งแห่งนี้ ตั้งอยู่บนจุดที่ดีที่สุดบนถนนออร์ชาร์ด เหมาะสำหรับการเฝ้ามองผู้คนผ่านไปมา ทั้งยังมีอัฒจันทร์กลางแจ้งและคาเฟ่ซ่อนตัวอยู่

นอกจากนี้ Design Orchard ยังเป็นที่ซึ่งคุณยังสามารถค้นพบผลงานของแบรนด์ต่างๆ ที่เข้าร่วมในโครงการ Made With Passion ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ระดับชาติที่สนับสนุนแบรนด์ท้องถิ่นสิงคโปร์ที่มีทั้งคุณภาพ เปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ จากแพสชั่นอันเต็มเปี่ยมอีกด้วย ไม่แน่นะว่าการแวะชมที่นี่จะทำให้คุณได้รับแรงบันดาลใจอะไรดีๆ กลับไปด้วยก็ได้

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Made With Passion, ดูที่ visitsingapore.com/madewithpassion

แลกเปลี่ยนและช้อปสินค้ามือสองสภาพดีที่ The Fashion Pulpit
Photograph: The Fashion Pulpit

แลกเปลี่ยนและช้อปสินค้ามือสองสภาพดีที่ The Fashion Pulpit

ด้วยกระแสรักษ์โลกที่กำลังมาแรง การแลกเปลี่ยนเสื้อผ้ามื้อสองจึงกลายเป็นเทรนด์ในสิงคโปร์ The Fashion Pulpit คือร้านที่คุณสามารถแลกเปลี่ยนซื้อขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของรักของหวงที่เจ้าของเก็บรักษาไว้อย่างดี ที่นี่มีไอเท็มเด็ดมือสองคุณภาพดี เป็นตัวเลือกสำหรับคุณมากมาย ตั้งแต่ไฮสตรีทแฟชั่นไปจนถึงผลงานของดีไซเนอร์ชื่อดัง ในราคาหลากหลายและไม่แพง แถมถ้าคุณสมัครเป็น 'swapper' ยิ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น การสะสมแต้มแลกรับไอเท็มของรางวัลที่นึกไม่ถึง รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมในกิจกรรมสนุกๆ ได้ก่อนใคร

 

ช้อปแกดเจ็ตล้ำๆ ที่ร้านแอปเปิ้ลลอยน้ำแห่งแรกของโลก Apple Marina Bay Sands
Photograph: Delfina Utomo/Time Out Singapore

ช้อปแกดเจ็ตล้ำๆ ที่ร้านแอปเปิ้ลลอยน้ำแห่งแรกของโลก Apple Marina Bay Sands

แอปเปิ้ลสโตร์ สาขามารีน่า เบย์ เซนด์ เป็น Apple Store สาขาแรกในโลกที่ตั้งลอยอยู่กลางน้ำ สามารถเข้าสู่อาคารทรงกลมสุดล้ำนี้ได้ทั้งจากทางเดินใต้ดินและสะพานบนผิวน้ำที่มอบทิวทัศน์สวยงามของมารีน่าเบย์แซนด์ก็ได้เช่นกัน

จากบันไดเลื่อนสู่ห้องโถงใหญ่ เมื่อสายตาคุณเลื่อนจากพื้นขึ้นไปยังยอดโดมที่เปิดรับแสงที่เปลี่ยนไปในทุกชั่วโมงตลอดวัน เรารับรองได้เลยว่าคุณจะตราตรึงไปกับวิวแบบพาโนรามา 360 องศารอบอ่าวสิงคโปร์ ยิ่งในวันที่อากาศเป็นใจนั้นสามารถมองเห็นวิวได้ทุกอย่างตั้งแต่เมอร์ไลออนไปจนถึงหอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์

ที่น่าทึ่งอีกอย่างเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมแห่งโลกอนาคตนี้ คือตัวอาคารมีโลหะแนวตั้งเพียง 10 เสาที่เชื่อมต่อยึดโครงสร้างทั้งหมดและกระจกใสทั้งหมด 114 ชิ้นเอาไว้

 

บันเทิงรื่นเริงกันให้สุดที่ K-Bowling
Photograph: K-Bowling

บันเทิงรื่นเริงกันให้สุดที่ K-Bowling

K Bowling Club ซึ่งอยู่ภายในห้าง 313@somerset ใจกลางถนนออร์ชาร์ด เป็นโบวลิ่งคลับเต็มรูปแบบแห่งแรกในสิงคโปร์ สถานบันเทิงสุดครบครันแห่งนี้มีพร้อมทั้งลานโบวลิ่งในบรรยากาศแสงไฟปาร์ตี้ ดนตรี อาหาร และเครื่องดื่ม ทั้งยังมีกิจกรรมอีกมากมายซึ่งเหมาะสำหรับยกขบวนกันไปสนุกกับก๊วนเพื่อน หรือจะไปกับสมาชิกในครอบครัวก็รับรองความสนุก ถ้าคุณนึกไม่ออกว่าจะไปไหนเราขอแนะนำที่นี่เลย

สัมผัสประสบการณ์ VR สุดสนุกเสมือนจริงที่ Sandbox
Photograph: Courtesy Sandbox VR

สัมผัสประสบการณ์ VR สุดสนุกเสมือนจริงที่ Sandbox

Sandbox VR คือ เกมอาร์เคดที่จะมอบประสบการณ์ความสนุกไร้ขีดจำกัดผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัย Holodeck เครื่องมือสร้างฉากจำลองจาก Star Trek ที่ผสานคุณสมบัติด้านภาพยนตร์เข้ากับอุปกรณ์จับการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ไร้รอยต่อ และเส้นเรื่องซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกราวกับอยู่ในภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้คุณสามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะวิ่ง กระโดด หรือแปะมือไฮไฟว์กับเพื่อนๆ ร่วมทีม ในระหว่างที่กำลังเดินทางสู่ห้วงอวกาศ หรือหนีเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ …นะ …ฟังแค่นี้ก็รู้สึกสนุกตื่นเต้นกันแล้วใช่ไหมล่ะ ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดสนุกในโลกเสมือนจริงนี้ได้ในราคาเกมละ 32 ดอลลาร์ (ประมาณ 780 บาท) เท่านั้น!!

สาดกระสุนกันให้มันสะใจที่ NERF Action Xperience
Photo: 8H/Shutterstock

สาดกระสุนกันให้มันสะใจที่ NERF Action Xperience

แบรนด์ Nerf อันโด่งดังเป็นที่รู้จักจากปืนของเล่นยอดฮิตที่ทำจากโฟมและเป็นมิตรสำหรับเด็กๆ ศูนย์รวมความบันเทิงจาก Nerf แห่งนี้ชวนให้คุณรวบรวมก๊วนเพื่อนสมาชิกผู้ชื่นชอบความตื่นเต้นมาร่วมกองทัพ พบกับโซนอินดอร์ในธีมที่หลากหลาย ซึ่งออกแบบมาเพื่อทดสอบความคล่องตัว ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงทีมเวิร์ก ผ่านการเล่นเกมต่างๆ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ที่นี่ยังขยันจัดอีเวนต์สนุกๆ พร้อมกิจกรรมที่เข้าร่วมได้ฟรีในแต่ละสัปดาห์ และถ้าการยิงวิ่งหลบกระสุนทำให้คุณเกิดรู้สึกหิวกันขึ้นมา ก็เติมพลังกันได้ด้วยอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังมีร้านสินค้าพิเศษของ Nerf ให้คุณได้ช้อปกลับไปขยายคลังแสงส่วนตัวที่บ้านอีกด้วยนะ

เลือกช้อปรองเท้ากันให้ละลานตาที่ Foot Locker
Photograph: Kashmira Kasmuri/Time Out Singapore

เลือกช้อปรองเท้ากันให้ละลานตาที่ Foot Locker

การมาช้อปที่ Foot Locker ในห้าง Orchard Mall จะไม่ใช่เพียงการเลือกซื้อรองเท้าอีกต่อไป เพราะนี่คือ Foot Locker สาขาใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ซึ่งกินพื้นที่ถึง 5 ชั้น และจะยิ่งสนุกกันขึ้นไปอีกถ้าคุณเป็นแฟนบาสเก็ตบอลตัวยง ที่ Foot Locker สาขาใหม่แห่งนี้คุณสามารถใช้เวลาเพลินๆ เลือกชมรองเท้าบาสเก็ตบอลคอลเลคชันยักษ์หลากหลายแบรนด์ มากไปกว่านั้นคือมีสนามขนาดครึ่งคอร์ทเอาไว้ให้ทดลองเล่นโชว์ออฟอีกด้วย! แถมนอกจากรองเท้าแล้วยังมีเสื้อผ้ากีฬาจากหลายแบรนด์ดังระดับโลกอีกเพียบ เช่น Nike, Adidas, Puma และ New Balance ฯลฯ ควบไฮไลต์อีกอย่าง คืองานศิลปะที่จับมือกับศิลปินท้องถิ่นผู้เป็นดาวเด่นของสิงคโปร์ อย่าง MessyMsxi และ Clogtwo จัดแสดงให้ชมกันภายในร้านอีกด้วย

 

อิ่มเอมกับอาหารเลิศรส

ชิมอาหารของเซเลบริตี้เชฟ โวล์ฟกัง พัค ที่ Spago
Photograph: Spago

ชิมอาหารของเซเลบริตี้เชฟ โวล์ฟกัง พัค ที่ Spago

สาขาแรกนอกประเทศของภัตตาคาร Spago อันโด่งดังจากเบเวอร์ลีฮิลส์ แคลิฟอร์เนีย โดยเซเลบริตี้เชฟ โวล์ฟกัง พัค นำเสนออาหารสไตล์ ‘Cali-fusion’ ในมุมมองใหม่

Spago สิงคโปร์ตั้งอยู่บริเวณ SkyPark ของมารีน่าเบย์แซนด์ คุณที่เป็นนักชิมจะได้พบกับวัตถุดิบหายากอย่างมัสตาร์ดแดง หัวบีทสีทองอ่อน และหัวบีทแดง ที่เป็นส่วนผสมในสลัดบีทรูทจานเด่นของเชฟพัค ซึ่งส่งมาจากตลาดของเกษตรกรท้องถิ่นที่เบเวอร์ลีฮิลส์เลยทีเดียว ก่อนจะมาผสมอย่างลงตัวกับรสชาติท้องถิ่น เช่น จานเรียกน้ำย่อยที่ปรุงด้วยฟัวกราส์นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากอาหารเช้ายอดนิยมของชาวสิงคโปร์ อย่างขนมปังปิ้งสังขยา โดยนำสังขยาทำเองมาจับคู่เข้ากับฟัวกราส์ย่างกระทะเสิร์ฟพร้อมมูสฟัวกราส์กลิ่นกาแฟ

อร่อยกับแกงกระหรี่หัวปลาและอาหารซือชาร์ ที่ Jiak Modern Tzechar at Esplanade
Photograph: Jiak Modern Tzechar at The Esplanade

อร่อยกับแกงกระหรี่หัวปลาและอาหารซือชาร์ ที่ Jiak Modern Tzechar at Esplanade

นอกจากเพลิดเพลินกับการชมการแสดงแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลที่คุณควรแวะไปที่ Esplanade Theatre คือเพื่อชิมอาหารต้นตำรับสไตล์ซือชาร์ (Zi Char) ซึ่งเน้นอาหารตระกูลผัดและทอด โดยเสิร์ฟมาให้แบ่งปันกันในหมู่เพื่อนฝูงหรือครอบครัว ที่นี่มีอาหารจานเด็ดชวนชิมทั้งแกงกระหรี่หัวปลาซึ่งล้วนเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน, ซุปหัวปลาคอลลาเจนในหม้อดิน, บี่ฮุ้นเส้นดำผัดกั้ง, บร็อคโคลี่หอยเชลล์ และอื่นๆ อีกมากมาย เราขอแนะนำให้ลองแวะมาสักช่วงบ่ายต้นๆ เพื่อคุณจะได้เพลิดเพลินกับโปรโมชั่นเซ็ตอาหารกลางวันราคาพิเศษ

ละเลียดชิลล์บรรยากาศคาเฟ่ในสวนเขียวชอุ่มที่ Hortus
Photograph: Hortus

ละเลียดชิลล์บรรยากาศคาเฟ่ในสวนเขียวชอุ่มที่ Hortus

อีกหนึ่งสถานที่เช็กอินสุดฮ็อตใน Flower Dome ของ Gardens by the Bay ที่นอกจากพรรณไม้งามๆ เรือนกระจกซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Hortus คาเฟ่ในสวนอันเขียวชอุ่ม เสิร์ฟอาหารเมดิเตอร์เรเนียนในบรรยากาศผ่อนคลาย เราขอแนะนำให้มองหาที่นั่งริมระเบียงซึ่งมีแสงแดดอ่อนๆ ส่องถึง หรือใต้เงาไม้เลื้อยอันแสนสุดโรแมนติก เพลิดเพลินกับอุณหภูมิกำลังสบายในเรือนกระจก ต้นไม้ที่เรียงรายรอบๆ ช่วยสร้างบรรยากาศประหนึ่งกำลังรับประทานอาหารในสวนส่วนตัว นอกจากนี้เมนูของที่นี่ยังถูกออกแบบมาให้เป็นอาหารเบาๆ เน้นคุณภาพสดใหม่ ปรุงอร่อยเรียบง่ายโดยใช้เตาฟืน เครื่องเทศ และน้ำมันมะกอก มื้อเบาๆ ในสวน… ช่างรื่นรมย์อะไรอย่างนี้

ชิมเจลาโต้เย็นชื่นใจในร้านเรือนกระจกที่ Mylo's
Photograph: Mylo's

ชิมเจลาโต้เย็นชื่นใจในร้านเรือนกระจกที่ Mylo's

ร้านกาแฟเจลาโต้เรือนกระจกแห่งใหม่ในบรรยากาศสว่างไสวและสดชื่น แวดล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มที่เพิ่งเปิดให้บริการใน Gardens by the Bay อย่าง Mylo's มีเมนูขนมอบใหม่ๆ และเจลาโต้เย็นชื่นใจ (ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 6 ดอลลาร์ [ไม่ถึง 150 บาท]) ทั้งยังมีให้เลือกกว่า 20 รสชาติ ไม่ว่าจะเป็นใบเตย มะพร้าว ไปจนถึงช็อกโกแลต Valrhona เข้มข้นแสนอร่อย คุณสามารถเลือกเอนตัวบนเก้าหวายแสนสบายภายในร้าน หรือจะเลือกนั่งกลางแจ้งเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศสุดผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติก็ย่อมได้ ที่เยี่ยมไปกว่านั้นร้านนี้ยังเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง แถมยังมีของอร่อยสำหรับผู้ติดตามขนฟูของคุณด้วย เช่น พีนัตบัตเตอร์สำหรับลูกสุนัข ไปจนถึงบิสกิตน้ำผึ้งหรือไอศกรีมแท่งน้ำซุปกระดูกไก่และเนื้อวัว

 

ไอศกรีมอร่อยสำหรับสายเฮลตี้ที่ Kind Kones
Photograph: Kind Kones

ไอศกรีมอร่อยสำหรับสายเฮลตี้ที่ Kind Kones

ใครที่รักสุขภาพแต่ใจยังโหยหาของหวานเราขอรับรองได้เลยว่าคุณจะต้องฟิน เพราะร้าน Kind Kones เต็มไปด้วยเมนูของหวานเพื่อสุขภาพ ทั้งวีแกน และปราศจากกลูเตน ไอศกรีมและของหวานทั้งหมดของร้านนี้ทำจากส่วนผสมธรรมชาติปลอดสารเคมีที่ไม่ผ่านการแปรรูป นักกินช่างเลือกจะต้องยิ่งถูกใจเมื่อทราบว่าไอศกรีมของทางร้านไม่มีส่วนผสมของไข่ ผลิตภัณฑ์จากนม และสารกันบูด แต่หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ อย่าง มะพร้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และอัลมอนด์แทน ทั้งยังมีรสชาติให้เลือกหลากหลาย โดยจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกวัน ส่วนไอศกรีมเด็ดที่ต้องลองคือ Blue Planet ทำจากเค้กชาเขียวที่เบสด้วยมะพร้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ นมอัลมอนด์ วานิลลา และสีธรรมชาติจากดอกอัญชัญ

อร่อยรักษ์โลกที่ Kausmo
Photograph: Kausmo

อร่อยรักษ์โลกที่ Kausmo

บอกได้เลยว่าอาหารของร้านนี้อร่อยจนน่าตกใจ และคุณจะยิ่งต้องประหลาดใจเมื่อทราบว่าวัตถุดิบที่ทางร้านเลือกใช้นั้นเป็นเนื้อส่วนรอง ผักและผลไม้ที่สุกเกินเบอร์หรือเก็บเอาไว้นานจนไม่สวยหรือไม่ได้รูปทรง ซึ่งมักจะถูกทิ้งให้กลายเป็นขยะอาหาร ทว่าทางร้านกลับจงใจเลือกวัตถุดิบเหล่านี้มาปรุง เพราะทั้งผู้จัดการร้าน Kuah Chew Shian และเชฟ Lisa Teng ต้องการที่จะสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับ ‘มุมมองด้านความงาม’ อันเกี่ยวข้องกับวัตถุดิบและอาหารเสียใหม่ นอกจากนี้องค์ประกอบอื่นๆ ภายในร้านยังคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นจานรองแก้วทำจากเศษวัสดุ และที่ใส่ช้อนส้อมทำจากไม้รีไซเคิล ฯลฯ เซ็ตเมนู 6 คอร์ส ราคาเริ่มต้นที่ 75 ดอลลาร์ ทั้งอร่อยแถมยังช่วยรักษ์โลกได้พร้อมกัน

ชิมอาหาร ชมวิวพาโรราม่า บนชั้น 56 ที่ 1-ATICO
Photograph: 1-ATICO

ชิมอาหาร ชมวิวพาโรราม่า บนชั้น 56 ที่ 1-ATICO

ด้วยทิวทัศน์ตระการตาจากระดับความบนสูงชั้น 56 และสามคอนเซ็ปต์อาหารที่น่าสนใจทำให้เราว่า 1-ATICO เป็นร้านอาหารลอยฟ้าควรค่าแก่การไปเยือนที่สุด เริ่มตั้งแต่ 1-Atico ซึ่งเป็น Ultra-Lounge วิวพาโนรามิกตระการตา ถัดมาคือ FIRE ร้านอาหารอาร์เจนติน่าร่วมสมัย ซึ่งโดดเด่นด้วยอาหารย่างชั้นดี ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัวคุณภาพ ซีฟู้ด และผักต่างๆ ซึ่งย่างร้อนๆ ด้วยเตาฟืนส่งกลิ่นหอม ถัดมาคือ FLINT ร้านอาหารกึ่งบาร์กลิ่นอายญี่ปุ่น ปรุงอาหารจากเตาย่างบินโชตันเสิร์ฟในสไตล์แบ่งปัน ซึ่งแกล้มจิบได้ดีทั้งกับค็อกเทลและสาเกสุดคราฟต์

ชิมทาร์ตแสนอร่อยที่ Tarte by Cheryl Koh
Photograph: Kashmira Kasmuri/Time Out Singapore

ชิมทาร์ตแสนอร่อยที่ Tarte by Cheryl Koh

ร้านเล็กๆ ขนาดกระทัดรัดบนชั้นกราวนด์ของห้าง Shaw Centre อย่าง Tarte by Cheryl Koh เต็มไปด้วยขนมอบกรุ่นกลิ่นเนยแสนอร่อย ซึ่งมีให้เลือก 2 ขนาด คือชิ้นเล็ก (ราคา 8-9 ดอลลาร์ [ประมาณ 200-220 บาท]) และชิ้นขนาดปกติ (ราคา 34 ดอลลาร์ [ประมาณ 830 บาท]) ขนมส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจจากผลไม้เป็นหลัก เช่น มูสเสาวรสกับเมอแรงค์ ทาร์ตครีมวานิลลากับสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์การิแกตต์ส่งตรงจากฝรั่งเศส หรือมะม่วงอัลฟอนโซจากอินเดีย เป็นต้น ที่นี่ยังเสิร์ฟช็อกโกแลตชั้นดีจากเวเนซุเอล่าที่เข้มข้นถึง 72 เปอร์เซ็นต์ และสำหรับใครที่ชื่นชอบกาแฟเราขอเตือนว่าอย่าได้พลาดชิมทาร์ตกาแฟซึ่งเลือกใช้เมล็ดกาแฟหอมกรุ่นจากโคลอมเบียกันเลยทีเดียว

จิบกาแฟในบรรยากาศสุดหรูที่ Bacha Coffee
Photograph: Bacha Coffee

จิบกาแฟในบรรยากาศสุดหรูที่ Bacha Coffee

Bacha Coffee เป็นแบรนด์ซึ่งเปรียบได้ดั่งมรดกทางวัฒนธรรมแห่งมาราเกซ ที่นี่ตกแต่งโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก พระราชวังดาร์ แอล บาชา (Dar el Bacha) อันโอ่อ่างามสง่า ด้วยเฉดสีอันอบอุ่น พื้นกระเบื้องลายตารางขาวสลับดำ ซึ่งเป็นกระเบื้องโมเสคเซลลิจ (zellige) ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา คาเฟ่ชื่อดังบนเกาะสิงคโปร์แห่งนี้ ให้บริการกาแฟถึง 4 ประเภท ทั้งเมล็ดกาแฟซิงเกิลออริจิน กาแฟเบลนด์อย่างดี กาแฟแต่งรส และกาแฟปราศจากคาเฟอีน ซึ่งเมล็ดกาแฟคุณภาพทั้งหมดมาจากหลากหลายแหล่ง ทั้งแอฟริกา คาบสมุทรอาหรับ อเมริกากลางและใต้ แคริบเบียน เอเชีย และอื่นๆ เราสามารถเลือกซื้อเมล็ดกาแฟกลับไปชงเองที่บ้าน (เริ่มต้น 11 ดอลลาร์ต่อ 100 กรัม [ประมาณ 270 บาท]) หรือจะเลือกสั่งกาแฟสักกา (เริ่มตั้งแต่ 9 ดอลลาร์ [ประมาณ 220 บาท]) มานั่งจิบที่ร้าน โดยเสิร์ฟมาพร้อมกับวิปครีมชานทิลลี่รสละมุน หรือจะสั่งเป็นกาแฟนม หรือเลือกใส่นมถั่วเหลืองก็ย่อมได้ นอกจากนี้ยังสามารถเติมเต็มความหวานด้วยน้ำตาลทรายแดงชั้นดี ที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นคือมีเมล็ดวานิลาบดเพิ่มความหอม จะสั่งครัวซองต์สักคู่มากินแกล้มจิบกาแฟก็เข้าที

รื่นรมย์จิบเครื่องดื่ม

จิบเรียกน้ำย่อยที่ Caffe Fernet
Photograph: Daniel Iskandar/Time Out Singapore

จิบเรียกน้ำย่อยที่ Caffe Fernet

บาร์กลางแจ้งทรงเสน่ห์อย่าง Caffe Fernet ชวนให้คุณเริ่มต้นค่ำคืนนี้กันเสียแต่เนิ่นๆ ด้วยดริงก์ลิสต์สดชื่นที่ครีเอทจากวัฒนธรรมดื่มเรียกน้ำย่อยแบบอิตาลี เริ่มต้นกันด้วย "Sicilian Spritz" เครื่องดื่มสดชื่นแก้วนี้มีส่วนผสมของเหล้าหวาน Italicus, Aperol, Prosecco,โซดา และน้ำดองมะกอกที่ใส่เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม เครื่องดื่มแนะนำอีกแก้วคือ "Bicicletta" โดยทั่วไปแล้วดริงก์นี้มักจะใช้ไวน์ขาวที่ค่อนข้างดรายกับเหล้า Campari แต่ที่ Caffe Fernet ทวิสต์มาใช้เหล้า Aperitivo Select ซึ่งให้กลิ่นหอมวานิลลาแทน ดริงก์ลิสต์ใหม่ของร้านยังประกอบไปด้วยเนโกรนี 4 สูตรที่แตกต่างกัน โดยแต่ละแก้วเลือกใช้เหล้าจินและบิทเทอร์ต่างชนิดเพื่อครีเอทให้คลาสสิกค็อกเทลแก้วนี้เกิดความหลากหลายชวนลอง เช่น "Elegante" ที่เลือกใช้จินแบรนด์ No.3 โดดเด่นด้วยความหอมกลิ่นดอกไม้ ในขณะที่แก้วชื่อ Secco นั้นใช้จินของ Tanqueray มีทั้งความสดชื่นและเข้มอยู่ในที เครื่องดื่มที่นี่ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 17 ดอลล่าร์ (ประมาณ 415 บาท)

สนุกสุดเหวี่ยงกันที่ CÉ LA VI
Photograph: CÉ LA VI

สนุกสุดเหวี่ยงกันที่ CÉ LA VI

สกายบาร์สูงเสียดฟ้าบนมารีน่าเบย์แซนด์เป็นจุดแฮงก์เอาต์ยอดฮิตซึ่งชาวสิงคโปร์มักจะมาดื่มกินกันหลังเลิกงานหรือไม่ก็สนุกสุดเหวี่ยงกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่นั่งเปิดโล่งชวนให้คุณดื่มด่ำเต็มที่กับเส้นขอบฟ้าวิวเมืองสิงคโปร์อันน่าตื่นตาตื่นใจ เช่นเดียวกับสระว่ายน้ำลอยฟ้า Sands Skypark Infinity Pool และโซนเลาจน์เปิดโล่งซึ่งขยายจากร้านอาหารและบาร์ CÉ LA VI ที่นี่มีซิกเนเจอร์ค็อกเทลให้เลือกหลากหลาย (เริ่มต้นตั้งแต่ 17 ดอลลาร์ [ประมาณ 415 บาท]) อาทิ "Happy Afternoon with Vodka" แก้วนี้มีส่วนผสมของลิ้นจี่ และมะพร้าว หรือจะลองจิบ The Even with Whisky ซึ่งมีส่วนผสมอย่าง เครื่องเทศชิจิมิโทการาชิของญี่ปุ่น กับชาดอกชบา พิเศษเฉพาะวันพุธซึ่งเป็น Ladies Night สาวๆ สามารถดื่มด่ำกับไวน์ Prosecco ไวน์แดงและไวน์ขาวได้ในราคาเพียง 10 ดอลลาร์ (ประมาณ 245 บาท) ต่อแก้วตลอดทั้งคืน

จิบแกล้มอาหารครีเอทจากเบียร์ที่ LeVeL33 ไมโครบริวเวอรี่สูงสุดในโลก
Photograph: Level33

จิบแกล้มอาหารครีเอทจากเบียร์ที่ LeVeL33 ไมโครบริวเวอรี่สูงสุดในโลก

เป็นไปได้ว่า Level33 อาจเป็นโรงเบียร์ขนาดเล็กที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก คุณสามารถมาจิบเบียร์เย็นเจี๊ยบชื่นใจสักไพน์ไปพร้อมๆ กับชมวิวเพลินๆ ที่นี่มีเบียร์ให้เลือกจิบเพียบ อย่าง เบียร์ลาเกอร์แนวผลไม้ หรือวีทเบียร์กลิ่นกล้วย หม้อเบียร์ทองเหลืองของร้านต้องทำงานวุ่นอยู่ตลอดเวลา มีเบียร์สดให้เลือกดื่มถึง 5 ชนิด ทั้ง IPA, สเตาท์, วีทเบียร์, พอเตอร์ และเราไม่อยากให้คุณพลาดจิบเบียร์ลาเกอร์สีบลอนด์ดีกรีชนะเลิศอันแสนสดชื่นดื่มง่าย นอกจากเบียร์แล้วในส่วนของอาหารที่ดูแลโดยหัวหน้าเชฟ ArChan Chan ก็ยังน่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยความที่เสิร์ฟเมนูซึ่งเป็นผลพลอยได้จากบาร์ เมนูสุดสร้างสรรค์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเบียร์ของที่นี่ จะทำให้คุณลืมปีกไก่และมันฝรั่งทอดแกล้มเบียร์แบบเดิมๆ ไปได้เลย

วาร์ปไปนิวยอร์กซิตี้ยุค 1900 ที่ Manhattan
Photograph: Kashmira Kasmuri/Time Out Singapore

วาร์ปไปนิวยอร์กซิตี้ยุค 1900 ที่ Manhattan

ใครจะเชื่อว่าบนชั้น 2 ของโรงแรมรีเจนท์ สิงคโปร์จะพาเราวาร์ปย้อนเวลากลับไปยังนิวยอร์กในยุคต้นศตวรรษที่ 19 ได้! ด้วยแสงไฟสลัว เฟอร์นิเจอร์ อย่างเก้าอี้หนังตัวใหญ่และโซฟา ช่วยแบ่งพื้นที่ให้ความรู้สึกอันเป็นส่วนตัว สร้างบรรยากาศนัดพบอันเร้นลับ เมนูเครื่องดื่มของบาร์แห่งนี้ถูกแบ่งออกเป็นช่วงเวลาต่างๆ ในอดีตของนิวยอร์ก มีเครื่องดื่มค็อกเทล (ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 24 ดอลลาร์ [585 บาท]) และอาหารอเมริกันเด่นมากมายให้เลือกตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1520s-1970s ขอแนะนำให้คุณได้ลองจิบ "Scarface" ค็อกเทลรสเข้มโดดเด่นด้วยกลิ่นสโม้คกี้ของส่วนผสมอย่างเหล้า Mezcal และ Fernet-Branca ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหล่าแกงค์สเตอร์ในยุค 1920s หรือจะลอง "Mad Men" ค็อกเทลที่ Don Drapers แห่ง Madison Avenue โปรดปราน ที่สำคัญคือคุณคงไม่อยากจะพลาดโอกาสเยือนบาร์ซึ่งติดอันดับ Asia's 50 Best Bars ติดต่อกันนานหลายปี โดยในปีล่าสุด 2021 ที่นี่ติดอยู่ในอันดับที่ 6!! 

 

ดื่มกันให้สุดมันที่ No.5 Emerald Hill
Photograph: Facebook/No. 5 Emerald Hill

ดื่มกันให้สุดมันที่ No.5 Emerald Hill

บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์เก่าสไตล์เปอรานากันสมัยปี 1910 ที่ได้รับการบูรณะใหม่ นอกจากให้บริการค็อกเทลคลาสสิก ที่นี่ยังมีเหล้าชอร์ตและเบียร์สดให้เลือกอีกมากมาย เราแนะนำให้ลองถามพนักงานเสิร์ฟว่าวันนี้มีอะไรพิเศษบ้าง ซึ่งอาจจะมีโปรโมชั่นอะไรเด็ดๆ ก็ได้ บาร์นี้ยังแถมถั่วมาให้กินแกล้มเมื่อคุณสั่งเครื่องดื่มมาจิบ คุณสามารถที่จะทิ้งเปลือกถั่วเปล่าๆ ลงบนพื้นได้โดยไม่ต้องรู้สึกอายแต่อย่างใด เพราะทุกคนที่นี่เขาก็ทำกัน แถมยังช่วยเพิ่มบรรยากาศดิบ เรียบง่ายให้กับสถานที่ซึ่งเป็นกันเองแห่งนี้อีกด้วย ไม่ว่าจะนั่งด้านนอกหรือภายในร้านบรรยากาศก็คึกคักเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา และหากแค่นั่งจิบยังบันเทิงไม่มากพอ ชั้นบนยังมีโต๊ะพูลไว้บริการด้วย

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา