Bangkok's Bars
Photograph: Paikapai
Photograph: Paikapai

รวมบาร์เปิดใหม่รอบกรุงเทพฯ ในปี 2568

ในฐานะที่เป็นทั้งคนสังเกตการณ์ คนที่ดื่มจริง และคนที่อินกับเมืองนี้สุดหัวใจ เราเลยอยากแชร์ลิสต์บาร์ทั้งหมดนี้ให้คุณได้ไปลองด้วยตัวเอง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยด้วยกันเลย!

Paikapai
Contributors: Yokploy Chandrabha และ Sriwalee Lakmuang
การโฆษณา

พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ Time Out เลือก ‘ไปค่ะไป’ มาร่วมทำคู่มือพิเศษเกี่ยวกับบาร์เปิดใหม่ที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ เพราะจุดเริ่มต้นของเรานั้นเรียบง่ายมากจริงๆ มันเริ่มจากกิจกรรมเล็กๆ หลังเลิกงาน เพียงการนัดเพื่อนออกไปนั่งดื่มด้วยกัน และไม่นานก็มีคำถามซ้ำๆ จากเพื่อนๆ ว่า บาร์ที่ไปคือที่ไหน บรรยากาศดีไหม เครื่องดื่มอร่อยหรือเปล่า คำถามเหล่านี้กลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เราสร้างคอมมูนิตี้เล็กๆ ขึ้นมาในชื่อ ‘ไปค่ะไป’ เพื่อแบ่งปันเรื่องราวร้านที่เราชอบให้คนอื่นได้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง

วิธีการคัดเลือกบาร์ของเราก็ออร์แกนิกมากๆ ไม่ได้อาศัยข้อมูลวงในหรือทิปจากใคร แต่ใช้สองเท้าในการเดินสำรวจเมือง คอยสังเกตซอกซอยที่กำลังปรับปรุงอาคาร และเมื่อบาร์เหล่านั้นเปิด เราก็จะลองเข้าไปในฐานะลูกค้าคนหนึ่งเสมอ เรามักเริ่มต้นด้วยการสั่งเครื่องดื่ม นั่งซึมซับบรรยากาศ และเมื่อมั่นใจว่านี่คือสถานที่ที่อินจริงๆ ถึงจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพและแชร์ออกไปให้โลกได้รู้ การบันทึกแต่ละครั้งจึงไม่ได้เกิดจากหน้าที่ แต่เกิดจากความรู้สึกที่อยากบอกต่อจริงๆ

สำหรับเรา การไปบาร์ไม่ใช่งาน แต่มันคือไลฟ์สไตล์ที่อยู่ในทุกจังหวะชีวิต บางวันอารมณ์ดีอยากสังสรรค์ บางวันเหนื่อยล้าหรือเหงาอยากได้ที่พักใจ บาร์มักจะเป็นคำตอบที่ทำให้เราได้พบผู้คนใหม่ๆ และได้เรียนรู้เรื่องราวของพวกเขา ทั้งจากบาร์เทนเดอร์ที่ตั้งใจปรุงในทุกๆ แก้วของตัวเอง พนักงานที่คอยดูแลเอาใจใส่ ไปจนถึงลูกค้าที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งต่างคนก็ต่างมีเรื่องราวไม่เหมือนกัน บรรยากาศในบาร์จึงเปรียบเสมือนค็อกเทลที่อยู่ในเชกเกอร์ และค่อยๆ คลุกเคล้าเรื่องราวหลากหลายเข้าด้วยกัน

สิ่งที่ทำให้เราหลงรักการไปบาร์คือความรู้สึกว่าเราไม่เคยอยู่ลำพัง สถานที่เหล่านี้รายล้อมไปด้วยเพื่อนสนิท คนรู้จัก หรือแม้แต่คนแปลกหน้าที่พร้อมจะกลายเป็นเพื่อนใหม่ได้ทุกเมื่อ

โดยเฉพาะเวลาเราลิสต์บาร์ออกมาทั้งหมด เราไม่ได้โฟกัสที่เครื่องดื่มอย่างเดียว แต่สิ่งที่เรามองเป็นอันดับแรกคือ ‘บรรยากาศ’ ด้วยว่าใช่หรือเปล่า ถ้าเดินเข้าไปแล้วรู้สึกอบอุ่นไหม หรือเป็นที่ที่นั่งเอนหลังให้หายใจโล่งๆ อย่างผ่อนคลายได้จริงหรือเปล่า แล้วหลังจากนั้นค่อยดูต่ออีกทีว่ามีค็อกเทลเริ่ดๆ ด้วยไหม หรือการบริการที่อบอุ่นและเป็นกันเองแถมมาด้วยหรือไม่  ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่รวมกันแล้วทำให้การไปบาร์ครั้งเดียวกลายเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์เลยก็ว่าได้  

ซึ่งตอนนี้ ฉากบาร์ในกรุงเทพฯ เดือดพล่านด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่ผุดขึ้นเป็นระลอก บาร์เทนเดอร์ก็ใช้ทีเด็ดด้วยการนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาใช้กับเครื่องดื่มแก้วโปรด ไม่ว่าจะเป็นจินหรือรัมของไทย แถมยังเล่นใหญ่ด้วยค็อกเทลที่ท้าทายทุกกฎ อย่าง ‘Fossil Fuel’ ที่ร้าน Wasteland ซึ่งเป็นแก้วที่จำได้ไม่ลืม 

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ บาร์เจ๋งๆ ไม่ได้เสิร์ฟเครื่องดื่มดีๆ อีกต่อไป แต่ยังเปลี่ยนย่านนั้นๆ ให้คึกคักขึ้นมาได้อีกด้วย เอาง่ายๆ อย่างซอยนานา หรือย่านเยาวราช จากถนนที่เคยเงียบเชียบกลับกลายเป็นเดสติเนชันระดับโลกที่ใครมากรุงเทพฯ ทั้งทีก็ต้องมาลองให้ได้สักครั้ง 

เราคิดว่าพลังงานแบบนี้มาจากแก่นแท้ในตัวตนพวกเราล่ะนะ เพราะไทยเรามันหมู่ชาวสังสรรค์อยู่แล้ว ซึ่งพอมารวมตัวกับความคูลหรือความเป็นนานาชาติ มันก็เลยกลายเป็นวัฒนธรรมแห่งค็อกเทล (cocktail culture) ที่เรียกได้ว่าเป็นเวิลด์คลาสของแท้ 

ด้วยทั้งหมดนี้เอง ในฐานะที่เป็นทั้งคนสังเกตการณ์ คนที่ดื่มจริง และคนที่อินกับเมืองนี้สุดหัวใจ เราเลยอยากแชร์ลิสต์บาร์ทั้งหมดนี้ให้คุณได้ไปลองด้วยตัวเอง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปลุยด้วยกันเลย!

อยากรู้ไหมว่าทำไมบาร์เหล่านี้ถึงติดโผ รอติดตามพอดแคสต์สุดพิเศษที่จะปล่อยในเดือนตุลาคมนี้ได้เลย!
และฝากกดติดตามช่องยูทูบใหม่ของเราเอาไว้ก่อน เพื่อที่จะได้ไม่พลาดหลากคอนเทนต์ดีๆ ในตอนต่อไป

  • เยาวราช

บาร์เรโทรสไตล์จีน อีกหนึ่งจุดหมายที่พาเราย้อนเวลากลับไปยังบรรยากาศเซี่ยงไฮ้ยุค 1930s ได้อย่างเต็มอารมณ์ ด้วยการตกแต่งที่จัดเต็มทั้งสีสันฉูดฉาด ทั้งเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ที่ให้อารมณ์หรูหราอลังการราวกับก้าวเข้าสู่โลกอีกยุคสมัยทันทีที่ผลักประตูเข้าไป นอกจากบรรยากาศที่ชวนหลงใหลแล้ว สี่แก้วซิกเนเจอร์นี้ของที่นี่ ยังเปรียบเสมือนการเดินทางผ่านรสชาติที่หลากหลาย ตั้งแต่ความสดชื่นละมุนของ Third Tango ความเข้มแต่สว่างของ Shanghaied ความจัดจ้านไม่เหมือนใครของ Tea and Fire ไปจนถึงความคลาสสิกขมหวานแบบเอเชียนของ Nanjing Negroni แต่ละแก้วจึงไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่ม แต่ยังเป็นการตีความเซี่ยงไฮ้ยุค 1930s ในรูปแบบที่ทันสมัยและเต็มไปด้วยคาแรกเตอร์เฉพาะตัว ที่ ชั้น 2 ด้านบนร้าน Chop Chop Cook Shop, 328 ถนนเยาวราช เปิดบริการทุกวันพุธ - อาทิตย์ เวลา 18.00 - 23.00 น.

  • สุขุุมวิท 26

ถ้าใครกำลังมองหาประสบการณ์การดื่มที่แตกต่างและอบอุ่นเหมือนนั่งอยู่ในบาร์เล็กๆ ที่ญี่ปุ่น ต้องไม่พลาดที่นี่ สาเกบาร์สุดพิเศษที่ส่งตรงจากโตเกียว โดยเป็นบาร์ลูก ของ Euraka Sake Bar ที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น เจ้าของตั้งใจเปิดที่นี่เพื่อมอบประสบการณ์การจิบสาเกที่คัดสรรเองทุกขวด ให้คุณได้ลิ้มรสชาติและค้นหาสาเกที่ตรงใจที่สุด ทันทีที่ก้าวเข้ามาในร้าน สิ่งแรกที่สะดุดตาคือ ชั้นวางสาเกเรียงรายเป็นร้อยฉลาก แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะเลือกไม่ถูก เพราะที่นี่มีทั้งพนักงานชาวไทยและญี่ปุ่นที่พร้อมให้คำแนะนำอย่างเป็นกันเอง และสามารถช่วยจับคู่รสชาติสาเกกับสไตล์ที่คุณชอบได้อย่างแม่นยำ บรรยากาศของร้านก็ให้ความรู้สึกเรียบง่าย อบอุ่น ที่นั่งภายในร้านมีไม่มากนัก หากใครที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในค่ำคืนกรุงเทพฯ ลองแวะมาที่นี่สักครั้ง แล้วจะเข้าใจเสน่ห์ของการดื่มสาเกอย่างแท้จริง ที่ Nihonmachi ชั้น 2 สุขุมวิท 26 เปิดบริการทุกวัน เวลา18.00 - 23.30 น.

การโฆษณา
  • เยาวราช

ในย่านเมืองเก่าตลาดน้อย มีบาร์อุเมะชูขนาดกะทัดรัดที่ซ่อนตัวอยู่ พร้อมพาทุกคนไปสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นแท้ๆ แบบที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงโตเกียว โดยไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ Newcomer Set ที่ให้คุณได้ลองอุเมะชู 4 รสชาติในแก้วเล็กๆ รับรองว่าถูกใจทุกแก้ว และถ้าเจอรสที่ใช่ ก็สามารถสั่งแก้วใหญ่ต่อได้ทันที นอกจากอุเมะชูแล้ว เมนูที่ต้องสั่งคู่กันคือ Miso Cream Cheese ครีมชีสรสนัวที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับรสหวานหอมของอุเมะชู เรียกได้ว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัวแบบญี่ปุ่นแท้ๆ และสิ่งที่ทำให้ที่นี่พิเศษกว่าคือบรรยากาศ อันอบอุ่นและผ่อนคลาย ไม่ว่าจะมาแฮงก์เอาต์กับเพื่อนฝูง หรือพาคนพิเศษมาเดทสุดโรแมนติก ที่นี่ก็เหมาะที่สุด เป็นอีกหนึ่งมุมลับของกรุงเทพฯ ที่สายดื่มและคนรักญี่ปุ่นไม่ควรพลาด ที่ เจริญกรุง 22 ตลาดน้อย เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00 - เที่ยงคืน

  • Hotels
  • วัฒนา

ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศการแฮงก์เอาต์แบบเดิมๆ ต้องลองมาที่ Cul De Sac บาร์สุดชิคที่พาเราย้อนไปในยุค 80s ตั้งแต่ก้าวเข้าประตูจนถึงด้านใน ไฮไลต์ของร้านคือ จอเอาต์ดอร์ขนาดใหญ่ที่ฉายหนังตลอดคืน ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งชิลๆ อยู่ในสวนหลังบ้าน ที่รายล้อมด้วยต้นไม้และการจัดสวนเป็นสัดส่วน ลงตัวทั้งสำหรับมากับเพื่อนหรือมาคู่รัก และที่นี่ไม่ได้มีดีแค่บรรยากาศ แต่ยังเสิร์ฟทั้งอาหารและเครื่องดื่มครบครัน โดยเฉพาะ ค็อกเทลซิกเนเจอร์ที่นำเสนอแบบไม่ธรรมดา เพิ่มสีสันให้กับค่ำคืนได้เป็นอย่างดี ระหว่างรอหนังสนุกๆ ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับเกมที่มีให้เลือกเล่นเพียบ ใครที่กำลังมองหาที่แฮงก์เอาต์บรรยากาศดีๆ แถมยังมีกลิ่นอายความสนุกแบบเรโทร Cul De Sac คือคำตอบที่ไม่ควรพลาด ที่ โรงแรม The Quartier Hotel, สุขุมวิท 49 Rooftop Bar ชั้น 10 เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00 - 00.30 น.

การโฆษณา
  • คลองเตย

ถ้าใครกำลังมองหาสถานที่ที่เป็นทั้ง คาเฟ่ ที่ทำงาน และบาร์ ต้องไม่พลาด Paper Plane Project ที่เพิ่งรีโนเวตโฉมใหม่จาก Co-Drinking Space ให้เป็น Common Ground for The Creative พื้นที่อบอวลด้วยบรรยากาศดีๆ เหมาะทั้งนั่งทำงานจริงจังและแฮงก์เอาต์สบายๆ และสิ่งที่ทำให้ที่นี่พิเศษคือความหลากหลายของพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น โซนทำงาน ที่มีทั้งโต๊ะ ปลั๊กไฟ และ Wi-Fi ครบถ้วนสำหรับการทำงาน และยังมีมุม Grab and Go Corner สำหรับคนที่รีบแต่ยังอยากจิบกาแฟดีๆ ไปด้วย หรือจะเป็น Cafe & Bar ที่พร้อมเสิร์ฟทั้งกาแฟและค็อกเทลซิกเนเจอร์รสชาติน่าลองอย่าง Saffron Sbagiano และ Savory Bay นอกจากนี้ทุกมุมของร้านยังถ่ายรูปสวย ไม่ว่าคุณจะมาคนเดียว มาพบปะกับเพื่อนร่วมงาน หรือมาแฮงก์เอาต์กับแก๊งเพื่อนๆ Paper Plane Project ก็พร้อมต้อนรับเสมอ ที่ อาคาร T-One สุขุมวิท 40 อาคาร T-One ชั้น 40 เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 - 01.30 น.

  • ค็อกเทลบาร์
  • วัฒนา

ค็อกเทลบาร์สุดครีเอทีฟแนว Upcycled & Zero Waste โดยความเก๋ของบาร์นี้ คือการตกแต่งด้วยของเก่าที่ถูกปรับใช้อย่างมีสไตล์ ทั้งตู้เย็น โคมไฟ และโซฟา ทุกมุมภายในร้านล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจ ส่วนเมนูค็อกเทลจะถูกแบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ World คลาสสิกค็อกเทลซิกเนเจอร์เฉพาะของทางร้าน, Wild เมนูสนุกท้าทายจากวัตถุดิบแปลกใหม่ และ Waste ที่เปลี่ยนวัตถุดิบเหลือใช้เป็นแก้วพิเศษ ประสบการณ์การดื่มจะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นหากได้นั่งที่หน้าบาร์เพราะคุณสามารถพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ เรียนรู้เรื่องราวและแรงบันดาลใจเบื้องหลังในแต่ละแก้ว ทำให้ค่ำคืนของคุณไม่ใช่แค่การดื่มค็อกเทลแต่เป็นการเดินทางผ่านรสชาติและเรื่องเล่าที่เต็มไปด้วยความสนุกและความคิดสร้างสรรค์ ที่ Wasteland สุขุมวิท 71 ใกล้ BTS พระโขนง เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.00 - 00.00 น.

การโฆษณา
  • เยาวราช

หนึ่งในบาร์ลับและร้านอาหารที่ซ่อนตัวอยู่กลางซอยนานา เยาวราช ผสมผสานความเก๋ของตึกเก่าเข้ากับดีไซน์จีนโมเดิร์นได้อย่างลงตัว เมื่อก้าวขึ้นไปยังชั้นบนสุด จะพบกับโซนบาร์ที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ทั้งป้ายไฟนีออนสุดเท่ และภาพวาดโลโก้กระต่ายสไตล์จีนที่สะท้อนวัฒนธรรมแบบสร้างสรรค์ ส่วนเครื่องดื่มที่นี่เรียกว่าเป็นค็อกเทลที่มีเอกลักษณ์ เพราะเป็นการนำสูตรคลาสสิกมาทวิสต์ใหม่อย่างมีสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น Drunken First Sour เปรี้ยวหวานกำลังดี, Regroni รสเข้มเต็มรสชาติ, หรือ Tai Chi Spritz เบาๆ สดชื่น ทุกแก้วล้วนสร้างรสชาติที่แตกต่างและน่าจดจำ ส่วนใครที่หิวที่บาร์ยังเสิร์ฟอาหารไทยจีนโมเดิร์น เรียกได้ว่าที่นี่เป็นทั้งจุดนั่งชิลมุมสูง ที่มองเห็นความคึกคักของซอยนานา และที่ฝากท้องสำหรับมื้อค่ำสุดเก๋ในเวลาเดียวกัน ที่ ซอยนานา เยาวราช เปิดบริการวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 17.00 - เที่ยงคืน

  • เยาวราช

บาร์เล็กๆ แต่อบอุ่นในซอยเยาวพานิชย์ ใกล้เยาวราชและถนนทรงวาด โดยมีคอนเซ็ปต์คือ Standing Bar ที่พร้อมให้คุณได้ยืนจิบเครื่องดื่มจากเหล้าอากาเว่ในบรรยากาศเรียบง่าย และเป็นกันเองแบบสุดๆ เหมาะอย่างยิ่งกับมานั่งชิลกับเพื่อนๆ โดยจุดเด่นของร้านอยู่ที่ บาร์เทนเดอร์หมุนเวียนจาก Opium Bar ที่แต่ละคนล้วนสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มเฉพาะตัว โดยทางร้านจะมีเมนูค็อกเทล Regulars 5 เมนูจากบาร์เทนเดอร์ประจำ และยังมีเมนูประจำสัปดาห์ที่เปลี่ยนไปตามบาร์เทนเดอร์ที่หมุนเวียนมา ทำให้ทุกครั้งที่มา คุณจะได้สัมผัสรสชาติใหม่ๆ และเรื่องราวสนุกๆ จากบาร์เทนเดอร์แบบไม่ซ้ำหน้า ที่ เยาวพานิช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เปิดบริการทุกวันพฤหัสบดี – จันทร์ เวลา 18.00 - 01.00 น. 



การโฆษณา
  • วัฒนา

รูฟท็อปบาร์ใจกลางเมืองที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมธรรมชาติเข้ากับดีไซน์ไม้ไผ่และหวาย คล้ายเรือจำลองท่ามกลางต้นไม้เขียวขจีได้อย่างลงตัว โดยรอบๆ ร้านจะเต็มไปด้วยมุมสง บที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลบหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ เหมาะทั้งมานั่งชิลคนเดียวหรือสังสรรค์กับเพื่อน ส่วนค็อกเทลของที่นี่จะแบ่งเป็น 4 หมวด ได้แก่ Familiar Flavourtails ใช้วัตถุดิบไทยคุ้นเคยอย่างตะไคร้ ผักชีลาว ใบเตย และมินต์, Comfortails ของหวานสร้างสรรค์จากข้าวเหนียวมะม่วง ลูกชุบ และโรตีกล้วย, Wildtails รสแปลกใหม่ตีความจากวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ไข่มดแดง แมงดา ปลาร้า และหัวล็อบสเตอร์, และ Champagne Cocktails สำหรับฉลองในโอกาสพิเศษ ที่ Intercontinental Sukhumvit  ชั้น 34 เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00 - เที่ยงคืน 

  • ทองหล่อ

จากตำนานแห่งเกาลูนสู่บาร์ลับในทองหล่อ กับ Residents Only ค็อกเทลบาร์ที่ถอดแรงบันดาลใจจาก Kowloon Walled City ในยุคที่ยังเป็นสลัมลอยฟ้าของฮ่องกง มาให้เราได้สัมผัสด้วยบรรยากาศแบบทำถึง 

เริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่ลึกลับ การจำลองห้องพักที่อยู่ในย่านเกาลูนทำให้บรรยากาศในร้านมีทั้งความเก่า ดิบ เท่ ความไม่สมบูรณ์แบบ และความไม่เป็นระเบียบ อย่างสายไฟที่ห้อยระโยงระยาง โปสเตอร์ ข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ แต่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ 

เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านก็คูลเอามากๆ เป็นการตีความสตรีตฟู้ดไทยและฮ่องกง เป็นเครื่องดื่มที่ผ่านการใช้วัตถุดิบมาทำค็อลเทลได้อย่างน่าสนใจ อย่าง โมฮิโต, มาลา มาร์ตินี่, ผัดเปรี้ยวหวาน (Pad Priew Wan) ที่ Residents Only ทองหล่อซอย 6 เปิดบริการทุกวัน เวลา 19:00 - 01:00 น.  



การโฆษณา
  • เยาวราช

จากร้านเล็กๆ ในซอยอารีย์ สู่ร้าน Mischa Cheap ที่ถนนข้าวสาร และตอนนี้กลายเป็น National Bar หรือบาร์แห่งชาติ บาร์ในอาคารเก่าแก่บนถนนทรงวาดที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ตั้งแต่เดินผ่านหน้าร้าน 

เมื่อเดินเข้าไปในร้านจะเห็นการตกแต่งที่มีสไตล์ ผนังร้านมีเรื่องราวบอกเล่าถึงความเป็นมาเป็นไปของร้าน โดยเฉพาะมุมป้ายกล่องไฟรูปศิลปินแวน โกะห์ของร้าน เต็มไปด้วยเรื่องราวที่พนักงานเล่าถึงความเป็นมาเป็นไปให้ได้ฟัง

เมื่อพูดถึงบรรยากาศ เสียงเพลง รวมไปถึงผู้คน ก็ช่วยเสริมให้การดื่มเครื่องดื่มมีอรรถรสมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

เครื่องดื่มที่ต้องลองเลยนั่นก็คือ The National Anthem และ Micha Cheap Gin แต่ละแก้วไม่เพียงแค่รสชาติที่มีเอกลักษณ์ แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวและส่วนผสมที่น่าสนใจ ถ้ามีโอกาสอย่าลืมคุยกับบาร์เทนเดอร์ แล้วคุณจะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการดื่มในทุกๆ แก้ว ที่ The National Bar (บาร์แห่งชาติ) เปิดบริการทุกวัน เวลา 14.00 – 00.00 น. 



  • ศาลาแดง

คอมมูนิตี้ใหม่ของชาว LGBTQ+ บรรยากาศทั้งดนตรี แฟชั่น ศิลปะ และผู้คนสุดครีเอตไว้ด้วยกัน ซึ่งร้านมี 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นบาร์และสเปซโล่งๆ (แต่ช่วงดึกๆ คนเพียบ) ส่วนชั้น 2 เป็นเลาจน์ มีเก้าอี้และโซฟาให้นั่งสบายๆ มีมุมที่ตกแต่งด้วยทีวีวินเทจ มุมนี้เรายกให้เป็นมุมถ่ายรูปสุดเก๋ได้เลย ไม่ไกลกันก็มีงานศิลปะติดไว้ตามผนังอีกด้วย 

ส่วนค็อกเทลเขาก็ดี เราลอง Tamarind Highball The art of dong dong และเมนู Toxic แล้วชอบมาก

คืนที่เราไป มีช่วงดีเจไลฟ์สดด้วย แนวเพลงก็ยังคงคอนเซปต์ในยุค 90 ล้วนเป็นเพลงที่อยู่ในความทรงจำ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราไปนั่งดื่มและนั่งดูงานดีไซน์ที่เต็มไปความสร้างสรรค์ก็เพลินแล้ว ที่ ซอยศาลาแดง 1 เปิดบริการ วันอังคาร - อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) เวลา 19.00 - 00.00 น.






การโฆษณา
  • สีลม

เราชอบคอนเซปต์ของที่นี่ที่เขาเนรมิตร้านให้กลายเป็น ‘Shower Room’ ที่จะได้สัมผัสกับความสนุกสนานไปกับการแสดงจากเหล่าบรรดาแดร็กควีนที่จัดเต็มทั้งโชว์และลูกค้าภายในร้าน บอกเลยว่าเวทีและม่านน้ำสุดอลังการนี้ทำให้ตื่นตาตื่นใจได้ทุกวินาทีที่อยู่ในนั้นซึ่งในแต่ละคืน จะมีรอบการแสดง 2 รอบ รอบแรกเวลา 23.00 น. และรอบที่สองเวลา 00.30 น. ส่วนใครมาที่นี่ต้องเสียค่าเข้า โดยบัตรจำนวน 1 ใบ นำไปแลกเป็นเครื่องดื่มที่บาร์ได้เลย ที่ สีลมซอย 4 ชั้น 2 เปิดบริการทุกวัน เวลา 21.00 - 00.00 น. 




  • ธนบุรี

รูฟท็อปบาร์ย่านเจริญนคร หากมายืนอยู่จุดนี้จะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่หาที่ไหนไม่ได้ พร้อมแสงสวยๆ ในช่วงพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปจนถึงย่ำค่ำ โดยร้านถูกออกแบบสไตล์คลาสสิกโมเดิร์นผสานความหรูหราและร่วมสมัยได้ลงตัวด้วยโทนสีดำ สีทอง และสีทองแดง ที่ดูสวยงามมาก เราชอบบูธของดีเจที่ดูเด่นอยู่หลังบาร์  กลายเป็นจุดเด่นของร้านที่ทำให้บรรยากาศในบาร์ดูเท่และมีสไตล์

ส่วนค็อกเทลมีทั้งหมด 10 เมนูด้วยกัน เราได้ลอง Forbidden Nectar Enigma หรือ Velvet Rose ที่เราลองแล้วบอกเลยว่าดีมาก แค่นั้นยังไม่พอ ที่นี่ยังเสิร์ฟอาหารสไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมียมที่อร่อยจัดเต็ม และถ้าใครมาแล้วได้เห็นการจุดพลุกลางแม่น้ำ เราขอบอกเลยว่า คุณน่ะโชคดีสุดๆ ที่ SIN Rooftop Bar ชั้น 27 โรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ เปิดบริการวันพุธ-ถึงอาทิตย์ (ปิดวันจันทร์-อังคาร) เวลา 17.00-01.00 น. 

การโฆษณา
  • ศาลาแดง

ถ้าคุณอยากเห็นสกายไลน์ของกรุงเทพฯ ที่สวยที่สุดอีกจุดหนึ่ง อาจจะต้องแวะมาที่ดุสิต ธานี กรุงเทพฯ 

ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Spire Rooftop Bar รูฟท็อปบาร์ที่มี Golden Spire สถาปัตยกรรมยอดแหลมสีทองที่เห็นในระยะใกล้สุดๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงแรมมาตั้งแต่สมัยก่อน ด้วยบรรยากาศในบาร์ที่ออกแบบมาอย่างดี มีหลายโซน ทั้งเก้าอี้และโซฟา ซึ่งทุกโต๊ะมองเห็นวิวกรุงเทพฯ ตัดกับความเขียวขจีของสวนลุมพินีได้เต็มตา 

ที่นี่เหมาะมากสำหรับการนั่งจิบเครื่องดื่มค็อกเทลเมนูพิเศษของบาร์ เช่น 6pm Romance Star Dust หรือ Trip Advisor ที่จะทำให้ค่ำคืนของคุณพิเศษขึ้นอีกขั้น ที่ Spire Rooftop Bar ชั้น 39 M โรงแรมดุสิต ธานี กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00 - 01.00 น. 



  • กรุงเทพมหานคร

ยอมรับว่าตื่นตาตื่นใจกับร้าน Nobu ที่ทั้งใหญ่และสูงที่สุดในโลก โดยได้แรงบันดาลใจในการตกแต่งมาจากภูมิทัศน์และธรรมชาติในกรุงเทพฯ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา และเส้นขอบฟ้าที่มองเห็นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา 

ที่นี่นำเสนอเมนูอาหารญี่ปุ่นร่วมสมัยที่ผสานเสน่ห์แบบเปรูซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของเชฟโนบุ มัตซึฮิสะ ท่ามกลางบรรยากาศสุดหรู พร้อมวิวพาโนรามากลางเมือง ซึ่งเราชอบที่นี่ทั้งโซนเลานจ์ วิสกี้บาร์ ซูชิบาร์ และรูฟท็อปบาร์กลางแจ้ง โดยชั้นบนสุดของ Nobu ที่เปิดมุมมองทั่วกรุงเทพฯ แบบ 360 องศาให้เห็นแบบเต็มตา ที่ EA Rooftop at The Empire ชั้น 57, 58 อาหารมื้อค่ำเริ่มเวลา 17.30-01.00 น.



การโฆษณา
  • พญาไท

สถานที่ต่อไปเป็นบาร์ที่ชื่อว่า ‘ม่วน’ ซึ่งภาษาอีสานหมายถึงสนุก ครึกครื้น เราชอบการตกแต่งของร้านที่สร้างบรรยากาศ แสง สี มาใช้ตกแต่งได้อย่างเก๋ไก๋ ทำให้รู้สึกเหมือนนำบรรยากาศจากตลาดทางภาคอีสานมาไว้ในกรุงเทพฯ ซึ่งเมนูที่ต้องลองคือ ส้มตำและคอหมูย่างรสแซบ ที่ฟีลเหมือนนั่งกินร้านลาบแถวปากซอย แต่ติดแกลมขึ้นมานิดนึง  

สำหรับเครื่องดื่มมีค็อกเทลซิกเนเจอร์แปลกใหม่ที่ไม่ควรพลาด อย่างเมนูบักสีดา จ้ำบ๊ะ ดันมะดันดอง ซึ่งแต่ละแก้วมีรสชาติและให้ฟีลที่ไม่ลองไม่ได้ 

ไม่พูดถึงไลน์อัปเพลงของร้านก็ไม่ได้ เพราะมีตั้งแต่ลูกทุ่ง หมอลำ เพลงไทย แถมมีดีเจมาคอยอัปบีทเพิ่มความสนุกที่ชีเสิร์ฟการแสดงแบบปังและม่วนจอยสมกับชื่อร้าน ที่ ม่วน บางกอก ชั้น 3 (ติดกับ รพ.วิมุต) เปิดบริการวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 19.00 - 02.00 น.

  • เอกมัย

โซเชียลบาร์เกมที่ซ่อนตัวในซอยเอกมัย 12 เอาใจคนรักบอร์ดเกมโดยเฉพาะ ด้วยเกมที่หลากหลายซึ่งมีไว้สำหรับประลองฝีมือกับกลุ่มเพื่อนด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง 

ที่คูคูไม่เพียงแค่มีเกมให้เลือกเล่นเท่านั้นนะ แต่เขายังเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่ของกินเล่นแบบ small bite ไปจนถึงพิซซ่าหรือสปาเกตตี้

ส่วนใครเป็นสายดริงก์ ห้ามพลาดกับเมนูค็อกเทลซิกเนเจอร์ อย่าง Tokyo Sunset และ Strawberry Lychee Marg ก็มีให้เลือกแบบ Bucket ที่ใหญ่จุใจอีกด้วย 

อีกความน่ารักของคูคูคือมีมุมของกินเล่นบริการฟรีอีกด้วย แถมมีเกมให้เลือกเล่นเยอะดี เล่นได้เพลินๆ รู้ตัวอีกทีร้านก็ใกล้ปิดแล้ว ที่ COUCOU ซ.เอกมัย 12 เปิดบริการทุกวัน เวลา 17.00 - 02.00 น.



การโฆษณา
  • สุขุมวิท 24

The Red Door คือคาเฟ่กึ่งบาร์สไตล์ปารีสที่ซ่อนตัวอยู่กลางสุขุมวิท เพียงแค่เปิดประตูสีแดงเข้าไป อย่างกับหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งเลย ที่นี่เป็นค็อกเทลบาร์และร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัย (Contemporary Parisian) ที่ตกแต่งเรียบหรูแต่มีความลึกลับราวกับอยู่ในฉากหนังยุโรป 

โดยภายในร้านจะแบ่งออกเป็น 2 คือโซนไดนิ่งที่เหมาะสำหรับนั่งกินข้าวแบบบรันช์หรือดินเนอร์ชิลๆ ก็ได้ เพราะมีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟ และม็อกเทลครบครัน ส่วนโซนคลับด้านในสุดมีดีเจเปิดเพลงเพลินๆ ซึ่งบางวันก็มีเล่นดนตรีแจ๊ซด้วย บรรยากาศแบบนี้เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ต้องชอบ คอนเฟิร์ม! ที่ The Red Door ชั้น 3 Neighbor 24 (สุขุมวิท 24)




  • เยาวราช

ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศนิวยอร์กที่ผสมผสานกับเสน่ห์คลาสสิกของกรุงเทพฯ ต้องมาที่บาร์แห่งนี้ เพราะเขารีโนเวตตึกแถวเก่าให้กลายเป็นไดฟ์บาร์สุดเท่ ชั้นล่างสลัวๆ ตกแต่งด้วยโคมไฟแดง กระจก และสตรีทอาร์ตสีสันจัดจ้าน ส่วนชั้นบนเป็นรูฟท็อปที่มองเห็นสวนเมืองเขียวชอุ่มให้อารมณ์เหมือนหลบไปพักในโอเอซิสกลางกรุงพร้อมวิวเมืองเต็มตา เมนูค็อกเทลที่นี่ล้วนเป็นเมนูคลาสสิกที่คอเหล้าคุ้นเคย ทั้ง Moscow Mule, Aperol Spritz และ Negroni ในราคาแก้วละเพียง 290 บาท ด้านเพลงก็ไม่ธรรมดา เพราะเลือกเปิดตั้งแต่ World Music หลากสไตล์ แทร็ก B-side หาฟังยาก ไปจนถึงฮิปฮอปยุค 90s บรรยากาศชวนให้นั่งยาวแบบไม่มีเบื่อ ที่ 92 ซอยนานา ป้อมปราบฯ เปิดบริการทุกวันพุธ–เสาร์ เวลา 18.00–01.00 น. (ปิดวันจันทร์ อังคาร และอาทิตย์)

เรื่องเด่น
    การโฆษณา