ดีไซเนอร์และเชฟชื่อดังจับมือรังสรรค์เมนูอาหารที่เพิ่มตัวตนให้ 5 ร้านย่านเจริญกรุง

Kenika Ruaytanapanich
เขียนโดย
Kenika Ruaytanapanich
การโฆษณา

เทศกาล Bangkok Design Week 2020 ไม่ได้มีเพียงผลงานออกแบบที่เราสามารถชมได้ด้วยหู ตา หรือการสัมผัสเท่านั้น ดังเช่นโปรเจ็กต์นี้ที่เกิดภายใต้คอนเซ็ปต์ว่า Curated Charoen Krung ที่ต้องการสะท้อนเอกลักษณ์และตัวตนของย่านเจริญกรุงให้โดดเด่นและเป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านผลงานออกแบบในร้านอาหารที่สร้างสรรค์โดย 5 เชฟชื่อดัง ร่วมกับ 5 ดีไซเนอร์มืออาชีพ

แคมเปญเกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง Bangkok Design Week 2020 ร่วมกับ World Curated by WP Energy ที่ชวนเชฟมีฝีมือทั้ง 5 คน ให้มาร่วมออกแบบเมนูอาหารสุดพิเศษให้กับร้านอาหารทั้ง 5 แห่ง ซึ่งจะนำไปขายจริงแม้เทศกาลนี้จบลงด้วย โดยเชฟทั้งหมดได้แก่ เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล เชฟระดับดาวมิชลิน 1 ดวง เชฟฟาง-ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช จากรายการ The Next Iron Chef เชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ จากรายการ Top Chef Thailand เชฟชิ้ง-กนกวรรณ อัศวานุชิต เซเลบริตีเชฟเจ้าของเพจ Fashion on food และ เชฟพุฒิ-พุฒิธนัตถ์ ไชยอภินันท์ฐากุล ผู้ชนะจากรายการ Celeb Chef Thailand

นอกจากนี้ยังมีนักออกแบบจากอีก 5 แบรนด์ ได้แก่ วิคธีร์รัฐ (Vickteerut) ทีแอนด์ที (TandT) เจนสุดา (Janesuda) ปัญญา พีเจ (Panya PJ) และ วิณ ภทรฤน (Vinn Patararin) ที่มาร่วมสร้างสรรค์ด้วยการออกแบบตกแต่งร้านไปจนถึงชุดพนักงาน

หมี่พันวัวทองคำ ที่ ร้านวัวทองโภชนา

เมนูสร้างสรรค์โดย เชฟชิ้ง ใช้วัตถุดิบขึ้นชื่อของร้านวัวทองโภชนา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรชิงเต่า ที่โดดเด่นด้วยสูตรเฉพาะและรสชาติตามแบบต้นตำรับของเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ประเทศจีน โดยมีดีไซเนอร์ชาวไทย อรประพันธ์ สุทธินรเศรษฐ์ จากแบรนด์ Vickteerut ที่เลือกนำเสนอผลงานผ่านการใช้เทคโนโลยีภาพเสมือน หรือ Augmented Reality ที่สามารถดูผ่านมือถือของทุกท่านได้

ชาแดงเลมอนเนดและขนมโป๊งเหน่งเรดเวลเวท ที่ Heijii

เมนูที่ได้เห็นมีชื่อเต็มๆ ว่า ชาแดงเลมอนเนดใบไทม์ไซรัป และขนมโป๊งเหน่งเรดเวลเวท ช๊อกโกแลตลาวา สร้างสรรค์โดย เชฟพุฒิ ที่นำเอาความทรงจำของคนรุ่นก่อนมานำเสนอใหม่ผ่านเมนูสุดพิเศษ เหมือนกับคาเฟ่ Heiji ที่ชุบชีวิตตึกเก่าในย่านเจริญกรุงให้กลับมาสนุกสนานอีกครั้ง ร่วมมือโดยดีไซเนอร์ชาวไทยที่น่าจับตามองที่สุดแห่งยุค ธนาวุฒิ ธนสารวิมล จากแบรนด์ TandT ที่เลือกภาพยนตร์เรื่อง Willy Wongka and The Chocolate Factory จากปี 1971 มาฉายในร้าน เพื่อสร้างบรรยากาศให้ทุกคนนึกย้อนกลับไปถึงความทรงจำในอดีต

โพ๊คเกะปลาฮามาจิและเจลลี่กุหลาบออร์แกนิก ที่ Jua

ส่วนเมนูต่อมา โพ๊คเกะปลาฮามาจิ ดอกเก็กฮวยออร์แกนนิก ยูสุ และดอกขิง กินคู่กับ เจลลี่กุหลาบออร์แกนิกจากเชียงดาว ไวท์ช็อกโกแลต สาเกจุนไม และลิ้นจี่ จานนี้รังสรรค์โดย เชฟตาม ที่มีความสามารถยกระดับอาหารท้องถิ่นให้ไปสู่ระดับอินเตอร์ได้อย่างน่าทึ่ง เชฟคิดค้นเมนูนี้เพื่อมอบให้กับร้าน JUA โดยเฉพาะ ทั้งมีศิลปะการจัดวางรูปปลาหมึกยักษ์ที่สร้างขึ้นจากดอกไม้จัดแสดงอยู่ที่หน้าร้านด้วย เพื่อแสดงความโดดเด่นด้านอาหารซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นของร้านอาหาร เพิ่มความสดใสด้วยผลงานของดีไซเนอร์ เจนสุดา ปานโต จากแบรนด์ Janesuda ที่นำเสนอแฟชั่นสุดพิเศษไว้ที่ร้านนี้

แคปหมูหม่าล่ากับปลาหมึกบดราดซอส และแซงเกรีย ที่ To More

เมนูน่ารับประทานจาก เชฟฟาง ที่ขออาสาสร้างผลงานชิ้นใหม่เพื่อร้าน To More โดยมีดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง ปัญญา จิตรมานะศักดิ์ จากแบรนด์ Panya PJ มาร่วมสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เราก้าวเข้าไปในร้าน ด้วยการใช้เทคนิคการจับเดรปผ้าสีแดงเลือดนกที่ได้แรงบันดาลใจจากการตกแต่งโรงละครแบบ Theatre Musical มาสร้างสรรค์ผลงานในร้านอาหารแห่งนี้

แก้มปลาบุริย่างซีอิ๊วไทยกับข้าวชาวนา และยำแซลมอน ที่ REI

เมนูจากเชฟแอนดี้ เชฟระดับดาวมิชลิน 1 ดวง ที่ผสมผสานวัตถุดิบท้องถิ่นกับวัตถุดิบต่างประเทศให้เข้ากันได้อย่างกลมกลืน และยังคงชูรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละวัตถุดิบเอาไว้ได้เป็นอย่างดี โดยมีดีไซเนอร์ผู้ขึ้นชื่อเรื่องการผสมผสานเทคนิคงานคราฟต์กับเทคโนโลยีอย่าง วิณ โชคคติวัฒน์ และภทรฤณ พงษ์ประสิทธิ์ จากแบรนด์ Vinn Patararin มาร่วมสร้างสีสันด้วยการจัดแสดงผลงานแบบวิชวลอาร์ต เป็นการจัดแสงแบบ Asian Light ที่ให้ความรู้สึกลึกลับ เข้ากับการใช้เหล็กในการตกแต่งเพื่อสะท้อนถึงอาชีพของคนในชุมชนแถบนั้น

ใครที่อยากลองสามารถตามไปชิมกันได้ที่ร้านเลยนะ

แชร์เนื้อหา

บทความล่าสุด

    การโฆษณา