Som's Table
Kenika Ruaytanapanich/Time Out Bangkok/Som's Table

Som’s Table ร้านอาหารกึ่งเชฟส์เทเบิลในหัวหินโดย ‘เชฟส้ม-จุฑามาศ เทียนแท้’

เฮดเชฟแห่ง Karmakamet Conveyance กลับมาอีกครั้งในบรรยากาศใหม่ แต่รสชาติหนักแน่นเหมือนเดิม

Kenika Ruaytanapanich
เขียนโดย
Kenika Ruaytanapanich
การโฆษณา

“ตอนแรกเราก็คิดนะว่าจะมีใครมารึเปล่า เพราะตรงนี้อยู่บนเขาเต่า” หลังจากเราไปถึงร้านอาหารแห่งใหม่ของ ‘เชฟส้ม - จุฑามาศ เทียนแท้’ ที่ต้องขับรถเลยตัวเมืองหัวหินไปอีกสักพักหนึ่ง เชฟส้มคนเดิมที่เราคุ้นเคยก็รีบออกมาทักทายเหมือนแต่ก่อน และนั่งคุยกับเราเกี่ยวกับร้าน Som’s Table ที่มาเปิดอยู่ในบ้านติดชายทะเลเมืองหัวหิน

เราเคยพูดคุยและชิมอาหารของเชฟส้มมาแล้วสองสามครั้ง ตั้งแต่เชฟยังเป็นเฮดประจำครัวอยู่ที่ Karmakamet Conveyance ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งไร้สัญชาติที่เต็มไปด้วยไอเดียและจินตนาการ รวมถึงรสชาติซึ่งบ่งบอกความเป็น เชฟส้ม ได้ทุกครั้งที่ชิม ซึ่งมันมีเอกลักษณ์เอามากๆ แม้จะน่าเสียดายที่ตอนนี้ร้านปิดตัวไปแล้ว แต่พอได้รู้ว่าเชฟลงมาเปิดร้านอาหารใหม่อยู่ที่บ้านเกิด ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เราก็พร้อมบึ่งไปทักทายเชฟอีกครั้งทันที

Som's Table
Kenika Ruaytanapanich/Time Out Bangkok

ร้าน Som’s Table จะอยู่ห่างจากเมืองหัวหินไปอีกราวๆ สิบกิโลเมตร ถ้าใครกลัวหลงให้แวะถามคนท้องถิ่นว่า อ่างเก็บน้ำเขาเต่าไปทางไหน เพราะร้านจะอยู่ไม่ไกลกันเลย เมื่อมาถึงแล้วเราเชื่อว่าใครๆ ก็ต้องชอบบรรยากาศของบ้านสองชั้นริมทะเลที่ล้อมด้วยรั้วสีขาว โดยร้านอาหารจะอยู่เฉพาะด้านล่างเท่านั้น ส่วนที่นั่งจะมีทั้งด้านในและโต๊ะกลางแจ้ง เผื่อว่าใครอยากกินไปฟังเสียงทะเลไป ส่วนพื้นที่สนามหญ้าอีกฝั่งจะเป็นสวนผักสมุนไพรที่เชฟปลูกไว้ใช้ทำอาหาร 

“ตอนเปิดร้านสัปดาห์แรกไม่มีใครมาเลย แต่หลังจากนั้นก็เริ่มเยอะจนเราตกใจ ส่วนใหญ่เป็นทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่าที่ตามเรามานาน ทั้งก่อนหน้านี้และจาก Karmakamet Conveyance”

โดยอาหารที่เชฟส้มตั้งใจทำที่ร้านนี้จะเป็นอะไรที่เบสิค และเข้าถึงง่าย ซึ่งต่างจากตอนทำไฟน์ไดนิ่งอย่างสิ้นเชิง เชฟส้มบอกกับเราว่า ตอนแรกก็ไม่มั่นใจกับการเปลี่ยนสไตล์ทำอาหารเท่าไหร่ แต่ปรากฎว่าหลายคนชอบที่นี่มากกว่า เพราะถึงแม้จะเป็นเมนูคอมฟอร์ทฟู้ด ทว่าเชฟตั้งใจปรุงมันอย่างจริง มันมีความพีค(ของรสชาติ) และมีน้ำหนัก

Som's Table
Kenika Ruaytanapanich/Time Out Bangkok
Som's Table
Kenika Ruaytanapanich/Time Out Bangkok
“จริงๆ เราก็เสียดายที่ไม่ได้ทำอะไรแบบเดิม แต่มันก็คงไม่เข้ากับบรรยากาศที่นี่ด้วย เพราะคนที่นี่เขามาพักผ่อน”

ก่อนเชฟส้มมาทำอาหารที่ร้านไฟน์ไดนิ่ง ซึ่งหลายคนบอกว่ามีกลิ่นอายความเป็นเอเชียสุดๆ คนส่วนใหญ่อาจยังไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเชฟเริ่มต้นมาจากการทำอาหารสไตล์ยุโรป แล้วเพิ่งเปลี่ยนแนวก็เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ตอนนี้เชฟเลยอยาก “กลับไปทำอะไรที่เรียบง่ายกว่าเดิม” คือการเสิร์ฟเมนูอลาคาร์ทสไตล์ยุโรป และเน้นอาหารแบบ sharing ทำให้อาหารของเชฟส้มตอนนี้จะต่างจากยุคไฟน์ไดนิ่งตรงกินแล้วไม่ต้องตีความให้มากมาย

“จริงๆ เราก็เสียดายที่ไม่ได้ทำอะไรแบบเดิม แต่มันก็คงไม่เข้ากับบรรยากาศที่นี่ด้วย เพราะคนที่นี่เขามาพักผ่อน”

แล้วเชฟส้มก็พูดต่อว่า การมาทำร้านนี้ค่อนข้างเปลี่ยนชีวิตไปเลยเหมือนกัน เพราะเชฟมาเจอบ้านหลังนี้และรีโนเวทให้กลายเป็นร้านอาหารภายในไม่กี่สัปดาห์ ทุกอย่างฉุกละหุกมาก และถึงแม้ตอนแรกจะไม่ได้คาดหวังมาก แต่ก็ทำอย่างตั้งใจจริงๆ แล้วอาหารที่นี่จะเสิร์ฟทีละจานเพราะเชฟทำเองคนเดียว(มือเป็นระวิง) 

Som's Table
Kenika Ruaytanapanich/Time Out Bangkok| Fish Bites

พูดถึงเมนูอาหารกึ่งเชฟส์เทเบิล ที่ต้องเรียกแบบนี้ก็เพราะเมนูในแต่ละวันจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่เชฟหาได้ และแน่นอนว่าทุกคนคาดหวังกับเมนูซีฟู้ดได้เลย เพราะเชฟจะเอามาจากหมู่บ้านชาวประมงใกล้ๆ นี้เอง ส่วนรสชาติก็ต้องบอกว่าทุกจานที่ได้ชิมมีความหนักแน่นและน่าจดจำเหมือนเดิม

เชฟส้มบอกว่าเชฟจะคิดเมนูหลังจากได้วัตถุดิบมาแล้ว จากนั้นจะสรุปให้ทีมรู้เพื่อบอกลูกค้าที่จะมากินมื้อเย็น อย่างเช่นในวันที่เราไปก็ได้เจอกับเมนู “Fish Bites (390 บาท/2 คำ)” ปลาหิมะรมควันวางบนข้าวปั้นเหมือนซูชิ เชฟจะปรุงรสข้าวด้วยน้ำพริก ซัมบัล สไตล์อินโดนีเซีย เป็นจานกินเล่นที่ทำให้รู้เลยว่านี่คืออาหารสไตล์เชฟส้มที่ไม่เคยใส่มาแค่มิติเดียว

จานต่อไปทำให้เราแปลกใจมาก “Avocado, Mango & Prawns (690 บาท)” เป็นเหมือนสลัดที่หยิบวัตถุดิบหลายๆ อย่างที่หาได้ในหัวหินมารวมกัน ทั้งกุ้ง อโวคาโด มะม่วงสุก และตัดรสด้วยซาวร์ครีมผักชี กินแล้วสดชื่นและเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก

Som's Table
Kenika Ruaytanapanich/Time Out Bangkok| Mango and avocado salad
Som's Table
Kenika Ruaytanapanich/Time Out Bangkok| Bean stew with local barracuda


ตามด้วยเมนู
“Barracuda Bean Stew (790 บาท)” ปลาสากเสิร์ฟพร้อมสตูถั่วดำ กระเทียมเพียวเร่ กุ้ง ราตาตุย ก่อนราดด้วยน้ำมันมะกอกทาปานาด (tapenade) ที่เชื่อมทุกอย่างให้เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ อีกจานหลักประจำวัน “Pici NDuja (590 บาท)” พาสต้าที่เชฟม้วนเส้นเองด้วยมือกับซอสไส้กรอกหมูรสเผ็ด เนื้อสัมผัสเส้นหนึบกำลังดี ก่อนเสิร์ฟปิดท้ายด้วย “Dark Choc Terrine (490 บาท)” เทอรีนช็อกโกแลตเข้มข้นกับองุ่นตุ๋นไวน์

Som's Table
Kenika Ruaytanapanich/Time Out Bangkok| Hand-rolled pici with spicy nduja

เอาจริงตอนเรานั่งชิมอาหารไปเรื่อยๆ จนค่ำ ก็เริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศโรแมนติกดีเหมือนกัน ทั้งมีความเป็นส่วนตัวและค่อนข้างสงบ เพราะฉะนั้น ถ้าใครมีแพลนจะมาเที่ยวหัวหินทริปหน้า Som’s Tabla จะเป็นอีกร้านที่พลาดไม่ได้เลย

ร้านเปิดให้บริการทุกวันพฤหัสบดี - จันทร์ เวลา 15:00 - 22:00 น. แนะนำให้จองที่นั่งล่วงหน้า โทร 09 7287 2442 หรืออีเมล reservation@somsatable.com หรือเว็บไซต์ somstable.com

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา