Best of 2022: บาร์เปิดใหม่ที่ดีที่สุดในปี 2565

บาร์ล่าสุดจาก Yolo Group ที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆ ร้อนๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาขยับขยายออกจากซอยนานา เยาวราช สู่ย่านทองหล่อ และเราต้องชื่นชมความกล้าและความฉีกของการวางคอนเซ็ปต์ที่เล่นกับ ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ได้อย่างแสบสัน โดยภายในร้านเน้นความหรูหราแบบคนรวยๆ ขัดกับภายนอกที่ตกแต่งเป็นโรงรับจำนำที่พึ่งของคนทำงานหาเช้ากินค่ำ เปรียบเสมือนว่าคุณต้องเอาสมบัติมาจำนำเพื่อจะได้เงินมาจับจ่ายใช้สอยในร้าน

ทั้งหมดถูกต่อยอดมาสู่เครื่องดื่มในคอนเซ็ปต์ ‘Exotic Ingredient & Unheard of Combination’ หรือการจับวัตุดิบที่หลากหลาย วัตถุดิบที่ดูเหมือนจะไม่เข้ากัน ให้ออกมาดื่มสนุกลงตัว เป็นร้านที่สนุกตั้งแต่ยังไม่ดื่มจนเราต้องเพิ่มเข้ามาในลิสต์บาร์ที่ดีที่สุดของปีนี้

ค็อกเทลบาร์น้องใหม่ของตึก T-One เครือเดียวกับ Tichuca และ Paper Plane Project ที่อยู่ในตึกเดียวกัน มาพร้อมคอนเซ็ปต์น่าสนใจที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าที่มีทั้งมนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกัน โดยชื่อร้านมาจาก Gir National Park อุทยานแห่งชาติในรัฐคุชราต ทางภาคตะวันตกของประเทศอินเดีย ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งที่อยู่สุดท้ายของสิงโตเอเชียและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อีกหลายชนิด

ร้านนี้เราให้คะแนนสร้างสรรค์เรื่องคอนเซ็ปต์และการตีความให้มาอยู่ในรูปแบบของค็อกเทลที่แบ่งเป็น 3 หมวดหมู่ ได้แก่ ‘ธรรมชาติ’  คือเครื่องดื่มที่สร้างสรรค์จากกระบวนการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่นการอินฟิวส์ ซึ่งทำให้เครื่องดื่มมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ หมวด ‘มนุษย์’ จะเสิร์ฟเครื่องดื่มที่ผ่านกรรมวิธีที่มนุษย์คิดค้นขึ้น เช่น การกลั่น การหมัก และสุดท้ายคือหมวดที่ผสมผสานเทคนิคของทั้งฝั่งของมนุษย์และธรรมชาติเข้าด้วยกัน

ยิ่งไปกว่านั้นคือการได้นั่งจิบค็อกเทลในร้านที่ถูกตกแต่งให้มีความใกล้เคียงกับธรรมชาติโดยเลือกใช้วัสดุที่มีรูปร่างและผิวสัมผัสที่ธรรมชาติเป็นผู้กำหนดประกอบกับวิวเมืองจากชั้น 40 

บาร์นี้อยู่ในโครงการพีเพิลพาร์ค คอมมูนิตี้มอลแถวอ่อนนุช เยื้องๆ กับวัดมหาบุศย์ (วัดแม่นาค) ตัวร้านจะเป็นตู้คอนเทนเนอร์ 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นออฟฟิศของเจ้าของร้านซึ่งเปิดบริษัทนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บาร์จะอยู่ชั้น 2 เน้นเสิร์ฟคราฟต์ค็อกเทลจากวัตถุดิบคุณภาพ บางอย่างก็หาดื่มยากเลยทีเดียว แต่มีที่นี่เพราะเจ้าของนำเข้าเอง บวกกับมีบาร์เทนเดอร์ที่เก่งทั้งเทคนิคการชงและการนำเสนอ ทำให้ที่นี่เป็นอีกบาร์ที่เราอยากกลับไปอีกบ่อยๆ

บาร์ค็อกเทลในซอยสมคิด ตั้งอยู่ใน Yolo Forest กับคอนเซ็ปต์ all-purpose bar คือมีทุกอย่าง มาได้ทุกคน ทุกโอกาส สมมุติเพื่อนในกลุ่มบางคนอยากจิบไวน์ บางคนชอบค็อกเทล หรือบางคนเป็นสายเหล้าอยากมาเปิดขวดที่นี่ก็พร้อมรองรับทุกแบบ เน้นให้มาสนุกกันเป็นกลุ่มโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาแกร่ว โต๊ะที่ร้านจึงเน้นเป็นโต๊ะใหญ่สำหรับนั่งหลายๆ คน แต่ถ้ามากันน้อยๆ อยากได้ฟีลบาร์ค็อกเทลก็สามารถนั่งที่หน้าบาร์ได้ 

ทั้งหมดคือความลงตัวที่ทำให้หลายคน รวมถึงเราติดใจ Verdan ตั้งแต่ครั้งแรกที่ไป นี่ยังไม่รวมโลเคชั่นของร้านที่ตั้งอยู่กึ่งกลางย่านท่องเที่ยวสุดฮอตทั้งฝั่ง Groove เซ็นทรัลเวิลด์และฝั่งทองหล่อ ที่ทำให้ร้านได้คะแนนจากคนที่ไม่อยากไปแย่งโต๊ะกับใคร แถมยังใกล้รถไฟฟ้า มีที่จอดรถ มีดีเจ มีบรรยากาศดีๆ และวุ่นวายน้อยกว่า

Verdan เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป มีดีเจทุกวันพฤหัสฯ - เสาร์ ตั้งแต่ 21.00 น. เป็นต้นไป

โซเชียลคลับสไตล์อังกฤษแห่งใหม่ใน Warehouse 26 สุขุมวิท 26 ที่นำเสนอเรื่องราวของธรรมชาติในทุกๆ องค์ประกอบของร้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตกแต่งร้านและเครื่องดื่ม เดิมที่นี่เคยเป็นโกดังประกอบรถยนต์ ทำให้มีพื้นที่ในร้านมีความโปร่ง สบาย เรียกว่าบรรยากาศกินขาด และเมื่อได้ทีมบาร์แถวหน้าของไทยนำโดย ‘ต้น-พงศ์ภัค สุทธิพงศ์’ มาช่วยดูแลค็อกเทล ทุกองค์ประกอบจึงออกมาสมบูรณ์แบบ ทั้งร้านสวย ดริงก์ดีและคอนเซ็ปต์ชัด

Tuk Din Bar อยู่ในโรงแรมเปิดใหม่แถวอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยชื่อ ‘บ้านตึกดิน’ ซึ่งเคยเป็นบ้านเก่าอายุร้อยกว่าปี (สร้างสมัยรัชกาลที่ 6) เราชอบหลายอย่างของที่นี่ตั้งแต่การตกแต่งด้วยของเก่าที่เข้ากับผนังที่ถูกทำให้ดูเก่าด้วยสไตล์พาทีน่าและพื้นกับเพดานไม้ของร้านอย่างดี ของตกแต่งชิ้นไฮไลต์คือลำโพง JBL Paragon ราคาเฉียดล้านที่ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายเมื่อเดินเข้าประตู และจุดที่ได้คะแนนจากเราไปเต็มๆ ก็คือค็อกเทลที่คาแร็กเตอร์ชัดเจน เล่นกับวัตถุดิบแปลกใหม่ เทคนิคแพรวพราว ซึ่งทั้งหมดสร้างสรรค์โดย ‘ปลั๊ก-ภณ สมบูรณ์’ อดีตเจ้าของบาร์ที่หลีเป๊ะ แต่ละแก้วเข้มถึงใจเพราะเจ้าของบาร์คอนี้อยู่แล้วและบาร์เทนเดอร์เองก็ติดมือหนักมาจากลูกค้าต่างชาติสมัยอยู่หลีเป๊ะ

บาร์แผ่นเสียงในซอยสุขุมวิท 36 (นภาศัพท์ 1) ซึ่งเป็น alternative listening bar หรือ บาร์ที่เล่นเพลงทางเลือก นำโดย ‘กิ-กิรตรา พรหมสาขา ณ สกลนคร’ แห่ง Have You Heard? Records (ไว้ใจเรื่องซีเล็กชั่นของแผ่นได้เลย) และที่นี่น่าจะเป็นบาร์เปิดใหม่เพียงร้านเดียวในปีนี้ที่จริงจังเรื่องเพลงที่สุด โดยที่ร้านจะเปิดแผ่นแบบ long play ให้เรานั่งฟังตั้งแต่แทร็กแรกและไล่อารมณ์เพลงไปตามการจัดเรียงลำดับที่ศิลปินได้คิดมาแล้วอย่างดีจนถึงแทร็กสุดท้าย ด้วยความโดดเด่นเรื่องนี้เราจึงไม่สามารถมองข้ามร้านนี้ได้จริงๆ

Freaking Out The Neighborhood อยู่ในซอยสุขุมวิท 36 (ซอยนภาศัพท์ 1) ร้านเปิดทุกวันพุธ-วันเสาร์ ตั้งแต่ 18.00  - 00.00 น.

เครือ Yolo Group ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ตั้งแต่ Teens of Thailand จนถึงบาร์ลำดับที่ 4 แห่งนี้ ที่นำเสนอคอนเซ็ปต์ Proper dive bar หรือบาร์ที่ทุกคนสามารถแวะเข้ามาได้นั่งทุกโอกาส สนุกสนานเฮฮา เสียงดังได้ (เล็กน้อย) ร้องเพลงตามได้โดยไม่ต้องเขิน ปล่อยจอยได้มากกว่าค็อกเทลบาร์ทั่วไป ท่ามกลางการตกแต่งที่สไตล์ชัดเจน ที่นี่เราจะได้จิบค็อกเทลที่ไม่ซับซ้อน มือใหม่ก็เข้าใจได้ง่ายๆ เน้นใช้ไวน์เป็นเบส เป็นอีกร้านที่เรายกให้เป็นเซฟโซนในวันที่อยากนั่งบาร์ดีๆ

Independence Bar อยู่ที่ถนนไม่ตรีจิตต์ (ด้านล่างร้าน Tax) ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 19:00 เป็นต้นไป

หากรสมือของเชฟแพมไปสุดในฝั่งอาหาร ค็อกเทลที่ Opium ก็ไปสุดในฝั่งเครื่องดื่มเช่นกัน โดยบาร์แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Restaurant.Potong ที่อยู่ในตึกเก่า 5 ชั้นของบรรพบุรุษเชฟ เปิดตัวมาด้วยเครื่องดื่มคอนเซ็ปต์ Liquid Surreality พาเราเข้าสู่โลกเหนือจริงของการดื่มโดย ‘เค-อานนท์ ฮุนตระกูล’ บาร์ไดเรกเตอร์ชาวไทยที่เกิดและโตที่ฝรั่งเศส เป็นเจ้าของร้านอาหาร บาร์ และร้านกาแฟหลายที่ในทั้งสองประเทศ ร่วมกับ Matteo Cadeddu เฮดบาร์เทนเดอร์ชาวอิตาลีที่ออกเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในบาร์มาแล้วทั่วโลกนานกว่า 13 ปี ซึ่งประสบการณ์ของทั้ง 2 คนถูกเบลนด์ไปกับเมนูเครื่องดื่มที่มีความหนา 17 หน้าของร้าน เป็นประสบการณ์การดื่มที่ล้ำลึกหาใครเทียบได้ยากจริงๆ เป็นร้านที่แนะนำต่อได้แบบไม่ต้องคิดมากเลย

Opium Bar เปิดทุกวันพฤหัสบดี-จันทร์ (ปิดอังคาร-พุธ) ตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป แนะนำให้จองก่อนที่เบอร์ 082-979-3950

หนึ่ง - รณภร คณิวิชาภรณ์ และ แจน - เจนญ์ณรงค์ ภูมิจิตร จาก #FindTheLockerRoom จับมือกันเปิดบาร์บนชั้น 2 ของร้าน 100มหาเศรษฐ์ ที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งร้านแบบ Thai Roccoco (Thai-Rocco-Disco) ที่ให้ความรู้สึกสนุก มีสีสัน แฝงกลิ่นอายของความคลาสสิกแบบไทยๆ ส่วนค็อกเทลคอนเซ็ปต์ Resourceful Cocktail ก็เป็นอีกอย่างที่เราประทับใจ เพราะการที่ร้านตั้งโจทย์ว่าต้องใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบหนึ่งอย่างให้ได้มากที่สุดสำหรับการทำค็อกเทล 1 แก้ว เราจึงได้เห็นทั้งเทคนิคใหม่ๆ และวัตถุดิบแปลกๆ ที่ทางร้านสรรหามาใส่ในแก้วให้เราได้ชิม และที่สำคัญมันออกมาดีด้วย!

มหานิยม ค็อกเทลบาร์ อยู่บนชั้น 2 ของร้าน 100 มหาเศรษฐ์ (สาขาสี่พระยา) ถนนมหาเศรษฐ์ ร้านเปิดวันอังคาร - อาทิตย์ (ปิดทุกๆวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ติดต่อเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 061 664 6588