12 ร้านอาหารจองยากในกรุงเทพฯ อัปเดตครึ่งปีหลัง 2565

ร้านบรันช์ที่มาแรงเป็นอันดับหนึ่งตอนนี้ อีกหนึ่งร้านจาก ปลา-อัจฉรา บุรารักษ์ แห่ง Iberry ที่หยิบเมนูสไตล์ไหนมานำเสนอก็เรียกความสนใจได้ทุกครั้ง และคราวนี้คือเมนูบรันช์แบบตะวันตกที่น่ากินทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็น Steak & Egg (790 บาท) เนื้อฉ่ำๆ ย่างเกรียมด้านนอกนิดๆ เสิร์ฟมาพร้อมไข่ดาวแบบฝรั่งและฟรายส์ ส่วนเมนูเบรคฟาสต์และบรันช์สามารถดีไอวายเลือกส่วนประกอบจานเองได้ ที่ชิ้นเบคอนหั่นหนาน่าจะเป็นฮ็อตไอเท็มที่ทุกโต๊ะต้องสั่งกัน ต้องขอบคุณคนที่จองทันได้ไปกินมาก่อนหน้าแล้ว ถึงได้โพสต์รูปความน่ากินของอาหารจานต่างๆ  

 

ทำไมถึงยาก: เอาจริงก็อุปทานหมู่แหละ จากความสวยของร้านและหน้าตาอาหารที่ออกมาผ่านบล็อกเกอร์ต่างๆ แถมด้วยการจองแบบเป็นรอบ เราได้ลองกดดูตอนนี้คิวยาวจนถึงสิ้นปี จะมีเพียงสล็อตน้อยๆ ของรอบเช้าสุด 8.00 น. ที่พอหลุดมาให้ลุ้นกดจอง

 

วิธีจอง: แอดไลน์ OA @frans.bkk แต่ตอนนี้ทางร้านมีเปิดรับแบบวอล์ค-อิน ให้ไปนั่งลุ้นหน้าร้านได้ตลอดทั้งวัน ระหว่างนี้ไปส่องรูปความน่ากินได้ที่ www.facebook.com/Frans.bangkok 

ร้านเล็กๆ ย่านท่าเตรียนที่กลายเป็นกระแสปากต่อปากถึงความอร่อยของอาหารหน้าตาธรรมดาแต่ครบเครื่องเรื่องรสชาติแบบไม่ต้องตีความให้ยาก จากคนที่ได้ไปลองชิมมาแล้ว สรุปได้ว่าอาหารของแสง เป็นอาหารไทยแนวคุ้นเคย ทั้งเหนือ กลาง ใต้ เช่น หมูสามชั้นทอดน้ำปลา ข้าวขยำปู ไข่พะโล้ต้มยำ ที่รสมือของโอม-ฐานทัศน์ ชมภูพล เจ้าของร้านที่ยืนหน้าเตาเองด้วย ก็น่าจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งในเราเดินทางไปย่านท่าเตียน เมืองเก่ากันอีกครั้ง ตอนนี้แสงปรับเป็นการเสิร์ฟอาอหารเป็นเซ็ตอาหาร 14 จาน สำหรับ 6 ท่าน ราคา 5,900 บาท

 

ทำไมถึงยาก: จำนวนโต๊ะที่น้อย เพียง 5 โต๊ะ และมีคนทำอาหารมีคนเดียวคือคุณโอมเจ้าของร้านนั้นเอง

 

วิธีการจอง: ตอนนี้ทางร้านมีการเปลี่ยนระบบเป็นจองผ่าน Line Shopping และแบ่งรอบเป็นที่ละครึ่งเดือน ที่แน่นอนว่าเดือนพฤศจิกายนได้เต็มหมดแล้ว ยังไงก็ลองส่อง Facebook: แสงท่าเตียน ไว้ให้ดีสำหรับรอบจองครั้งต่อไป 

ผ่านมาหลายปีแต่ตำแหน่งร้านจองยากในกรุงเทพฯ ก็ยังไม่มีใครโค่นบ้านนวลได้ บ้านนวลยากเพราะทำอาหารและบริการกันโดยสองพี่น้อง ทอมมี่-สิทธิศักดิ์ และ ยุ-ยุวรัตน์ สาครสินธุ์ ที่ควบคุมวัตถุดิบและรสชาติอาหารให้คงเส้นคงวาเป๊ะทุกจาน แถมโต๊ะยังมีเพียงไม่กี่โต๊ะในบ้านไม้ ซึ่งเราค่อนข้างมั่นใจว่าบ้านนวลน่าจะเป็นร้านแรกๆ ที่หยิบเอาอาหารไทยจานคุ้นโต๊ะของหลายบ้าน มานำเสนอในรูปแบบของเชฟเทเบิ้ล 

 

ทำไมถึงยาก: จำนวนโต๊ะน้อย​ (มาก) หากยิ่งไปกลุ่มใหญ่ก็ยิ่งยาก แถมตอนนี้คิวยาวเต็มทั้งปีแล้ว รอลุ้นอีกทีปีหน้า 

 

วิธีจอง: ไดเร็คแมสเสจทาง Instagram: baannual372 เท่านั้น 

สองร้านนี้เราขอจับรวมกัน เพราะไม่ได้เป็นร้านที่ต้องจอง แต่ขึ้นชื่อว่ายาก เพราะทั้งสองรับแต่วอล์คอิน ใครมาก่อนได้ก่อน อย่างเจ๊ไฝที่แน่นอนว่าไม่ต้องโฆษณาอะไรแล้ว ล่าสุดเราเห็นว่าคิวแรกของวันจะต้องไปนั่งรอหน้าร้านตั้งแต่เจ็ดโมงกว่า เพื่อให้ได้กินไข่เจียวปูตอนเก้าโมง ให้อารมณ์ประมาณว่า Breakfast at Jay Fai’s ไปแทน 

 

ส่วนร้าน Laun ผลงานใหม่ล่าสุดของสองพี่น้องแห่งบ้านนวล สำหรับที่นี่เสิร์ฟอาหารคุ้นลิ้นแนวลูกครึ่งฝรั่งกลิ่นอายแบบจีนหน่อยๆ ตัวร้านก็แปลงตึกหัวมุมซอยสามเสน 4 ให้กลายเป็นเป็นร้านอาหารอารมณ์คาเฟ่ที่เราอาจเคยเดินหลงเข้าไปเวลาไปเมืองนอก ด้วยที่นั่งมีไม่กี่ที่และไม่รับจอง แน่นอนว่ารีบตื่นเช้าแล้วเก็บท้องไปเริ่มมื้อแรกของวันที่นี้กันดีกว่า

เชฟศรีล โรจนเมธินทร์ เสิร์ฟอาหารเทสติ้งเมนู 12 คอร์สที่ไม่บอกรายละเอียดจนกว่าคุณจะได้นั่งบนเคาเตอร์ ที่รับได้เพียง 12 ที่ กับรสชาติที่คุณต้องใช้จินตนาการและความคุ้นเคยตีความรสชาติที่อยู่ในปาก จากวัตถุดิบที่ถูกแปลงร่างมาในรูปแบบอื่นๆ และชื่อเมนูที่สะท้อนความขี้เล่นและความสร้างสรรค์ของคนครัวที่นี่ – นิยามการกินอาหารของ SDC เต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์ ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าไปร้านสุดเท่ริมถนนเจริญกรุง 

 

ทำไมถึงยาก: จำนวนที่นั่งน้อย และเปิดแค่วันพฤหัสบดี-อาทิตย์ วันละรอบเท่านั้น ทำให้การจองจะต้องอย่างน้อยล่วงหน้าหนึ่งเดือนหรือมากกว่า

 

วิธีการจอง: สามารถจองได้ทาง www.smalldinnerclub.com แนะนำว่าให้คอยส่องอินสตาแกรมร้านไว้ให้ดีๆ บางทีมีคิวหลุดมาให้เรารอเสียบได้

ศรณ์นั้นจองยากจองเย็นอยู่แล้วมานานนม พอได้รางวัลร้านอาหารอันดับ 2 ของเอเชียจาก Asia’s 50 Best Restaurants 2022 และสองดาวมิชลินมาด้วยอีก ดีกรีความยากก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว กว่าจะได้ชิมอาหารใต้รสจัดที่เสิร์ฟในรูปแบบไฟน์ไดนิ่ง ที่ร้านนิยามว่าเป็น Fine Southern Cuisine ของเชฟไอซ์ - ศุภักษร จงศิริ ซึ่งเมนูเด่นที่รู้ว่ามากินศรณ์ก็ต้องยกให้จานกรรเชียงปู 

 

ทำไมถึงยาก: เพราะรางวัลการันตีรสชาติและการบอกกันปากต่อปาก เพราะถ้าไล่ดูตามลำดับแล้ว ศรณ์ถือเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทยตอนนี้ เป็นลำดับ 2 ของเอเชีย และลำดับ 39 ของโลก เรียกว่าเป็นร้านอาหารไทยหนึ่งเดียวที่กระโดดไปไกลได้ขนาดนั้น ทำให้ความต้องการแย่งกันจองไม่ใช่แค่ในบ้านเราแต่ยังรวมถึงนักชิมจากทั่วโลกอีกด้วย 

 

วิธีจอง: เมื่อก่อนต้องใช้วิธีการโทรจอง ชนิดที่ว่าโทรแบบกระหน่ำโทรจนกว่าจะติด แต่เดียวนี้มีระบบเป็นเรื่องเป็นราว เราลองจิ้มวันดูแล้ว แน่นอนว่าเต็มยาวไปถึงพฤศจิกายน ส่วนของเดือนธันวาคมยังไม่เปิดให้จอง สามารถดูรายละเอียดได้ทาง Facebook: Sorn ศรณ์ 

ดินเนอร์อาหารไทยสไตล์เชฟเทเบิ้ล ของเชฟปริญญ์ ผลสุข นำเสนอรสชาติอาหารไทยจากสูตรโบราณหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ เติมความโมเดิร์นแต่ยังคงรสชาติเดิม ทำให้อาหารของสำรับสำหรับไทยที่แค่ชื่อร้านก็เก๋แล้ว ยังต่อเนื่องความเก๋ด้วยการหมุนเวียนต่อเนื่อง ตามฤดูกาลรวมถึงตารางการเดินทางของเชฟที่มักจะโผล่ไปป๊อปอัพตามที่ต่างอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังพ่วงมาด้วยตำแหน่งร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียลำดับที่ 31 จาก Asia’s 50 Best Restaurants 

 

ทำไมถึงยาก: จำนวนทีนั่งน้อย ความต้องการสูง ไม่สามารถรองรับทีละมากๆ ได้ เป็นการเสิร์ฟอาหารกึ่งไพรเวทเชฟด้วย

 

วิธีจอง: จองผ่านทาง Facebook: สำรับสำหรับไทย แต่ว่าตอนนี้ร้านกำลังปิดรีโนเวทและกำลังจะย้ายไปโลเคชั่นใหม่ ที่น่าจะเริ่มเปิดให้จองกันได้อีกครั้งในช่วงกลางเดือนตุลานี้ 

ไฟน์ไดนิ่งอาหารจีนโมเดิร์น 11 คอร์ส ที่ชูวัตถุพรีเมียมสไตล์อาหารจีนขึ้นโต๊ะเหลา แต่ใช้เทคนิคการปรุงแบบอาหารฝรั่งเศสเข้ามาผสม จากฝีมือของสองพี่น้อง ที่อีกคนคนสืบทอดรสชาติจากกิจการร้านอาหารจีนของที่บ้าน ส่วนอีกคนก็ได้นำความรู้วิชาที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปร่ำเรียนถึงฝรั่งเศส ร้านนี้เรายังไม่ได้ลองด้วยตัวเอง แต่ฟังจากแหล่งข้อมูลใกล้ตัวที่เพิ่งไปกินมาและจองรอบเดือนธันวาคมเพื่อไปซ้ำอีกเรียบร้อย ก็น่าจะการันตีความฮ็อตของร้านนี้ได้พอควร 

 

ทำไมถึงยาก: ไม่บ่อยที่เราจะเห็นอาหารเอเชีย โดยเฉพาะอาหารจีนถูกนำมาเสิร์ฟเป็นไฟน์ไดนิ่ง แล้วยิ่งอาหารจีนก็ถูกปากคนไทยอยู่แล้วพอมาเจอกับเทคนิคการปรุงแบบฝรั่งเศสก็ยิ่งช่วยชูรสชาติซึ่งกันและกันอย่างลงตัว 

 

วิธีจอง: จองผ่าน Line OA: @cross_bkk โดยร้านจะเปิดให้รับจองในทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่ตอนนี้ตุลาคมเต็มยาวหมดแล้ว สำหรับเดือนพฤศจิกายน ยังพอลุ้นให้กดทันในวันที่ 10 ตุลาคมนี้  

เชฟแพม - พิชญา สุนทรญาณกิจ แปลงโฉมตึกแถวชิโนโปรตุกีสย่านสำเพ็งอายุนับร้อยปีของครอบครัวให้กลายเป็นร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่สวยในทุกรายละเอียดที่ผสานกลิ่นอายไทย-จีน และอาหารในทิศทางเดียวกันในสไตล์ Progressive Thai-Chinese เล่าประวัติศาสตร์ของคนจีนในไทยผ่านอาหาร 20 คอร์ส แถมบาร์ด้านบนก็ยังสวยจับใจ เป็นการออกมาดินเนอร์ครั้งเดียวที่ครบทั้งสนุก สวย และอร่อย 

 

ทำไมถึงยาก: ร้านสวยมาก อาหารพิสดารมาก ที่นั่งมีไม่เยอะ และยังอยู่ในกระแส เลยอาจต้องออกแรงในการจองสักหน่อย 

 

วิธีจอง: จองผ่านทาง Line OA: @potong ตอนนี้เท่าที่กดดูคิวเต็มยาวจนถึงเดือนธันวาคมแล้ว แต่ยังพอมีสล็อตเวลาที่ว่างอยู่ ใครอยากลองขอให้วางแผนดีๆ ก่อนจองทริปไปเที่ยวไหน  

ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้กับร้านราเมงที่มาพร้อมกระแสปากต่อปากภายในตั้งแต่วันแรกที่ตั้งเตาน้ำซุป ด้วยการเสิร์ฟราเมงแบบไม่กี่เมนูและมักจะหมุนเวียนตามฤดูกาล ทำให้เราได้เห็นหน้าตาและรสชาติของราเมงหลายชามที่ชื่ออาจไม่คุ้นหูมาก่อน โดยเชฟชินจิ อิโนะอุเอะ ผู้ที่เติบโตมากับเส้นและน้ำซุปราเมงตั้งแต่ และอยากที่จะนำเสนอวัฒนธรรมการซู้ดราเมงแบบใหม่ๆ ให้กับคนไหน แต่ก่อนที่เราจะได้ลิ้มชิมรสของเชฟ ต้องฝ่าด่านการจอง ด้วยที่นั่งของร้านเพียงน้อยนิด 

 

ทำไมถึงยาก: รอบละ 7 ที่นั่ง เสิร์ฟวันละ 35 ชาม เปิดมื้อกลางวันเท่านั้น และบางเมนูก็อาจจะหมดก่อนรอบที่ไปอีกด้วย 

 

วิธีการจอง: ผ่านทางเว็บไซต์และ Facebook: www.facebook.com/nonamenoodlebkk 

แค่ชื่อของเชฟมาซาโตะ ก็น่าจะการันตีในหมู่นักชิมแล้วว่ายังไงก็คุ้มค่าการฝ่าฟันมหกรรมจองคิวล่วงหน้าหลายเดือน ตั้งแต่ที่เขาครองตำแหน่งเชฟที่อายุน้อยที่สุดในนิวยอร์กที่ได้รับมิชลินสตาร์ เมื่อย้ายมาใช้ชีวิตในเมืองไทย และเปิดร้านโอมากาเสะแห่งนี้ที่คัดแต่วัตถุดิบแบบพรีเมียมในบรรยากาศร้านที่สุดแสนจะมินิมัล พร้อมรางวัลการันตีทั้ง 1 ดาวมิชลินและติด Asia’s 50 Best Restaurants เป็นครั้งแรกด้วยลำดับที่ 29

 

ทำไมถึงยาก: มีที่นั่งแค่ 10 ที่ ทุกๆ ครึ่งเดือน ระบบจองจะปล่อยวันว่างของเดือนถัดไปออกมา ต้องคอยเล็งวันให้ดีแล้วรีบกดให้ทัน

 

วิธีการจอง: สามารถจองได้ที่เว็บไซต์ www.sushimasato.com/ 

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราเคยยกให้มหาสารเป็นร้านที่จองยากที่สุดลำดับ 1 ในการจัดอันดับของ Time Out มาถึงปีนี้มหาสารก็ยังคงความฮ็อตแบบไม่มีแผ่ว เป็นตัวจริงด้านเนื้อที่ใครก็ต้องคาราวะ แน่นอนว่าเรายังไม่เคยได้ชิม แต่ฟังจากคำบอกเล่าของคนที่แต้มบุญมากพอจะได้กิน เล่าให้ฟังว่าเนื้อโคขุนไทย-เฟรนช์คุณภาพดีจากสกลนคร คุณภาพไม่ต่างจากเนื้อสัญชาติอื่นๆ 

 

ทำไมถึงยาก: เนื้อดี รสชาติชาติดี ราคาดี 

 

วิธีการจอง: จองผ่านเว็บไซต์ของร้าน ซึ่งตอนนี้เต็มยาวไปถึงเดือนพฤศจิกายน แต่ศุกร์ที่ 28 ตุลาคมนี้ ร้านกำลังจะเปิดให้จองรอบเดือนธันวาและมกรา ใครอยากลองแต้มบุญตัวเอง เตรียมเน็ตไว้ให้ดีแล้วรอกดได้เลยที่ www.mahasanbkk.com