10 ร้านอาหารสุขภาพสำหรับคนอยากดูแลตัวเองด้วยมื้อดีๆ

ร้านนี้เริ่มมาจากเดลิเวอรีอาหารสุขภาพ ก่อนมาเปิดเป็นร้านอาหารอย่างจริงจังอยู่ในซอยสุขุมวิท 61 ดังนั้นหากใครจะสั่งไปกินที่บ้านก็ไม่ต้องห่วงเลยว่ารสชาติจะผิดเพี้ยน เพราะร้านมีประสบการณ์จัดอาหารส่งให้ลูกค้าจนเชี่ยวชาญแล้วแน่นอน

สิ่งที่เราชอบจากร้านนี้ก็คือ อาหารส่วนใหญ่เป็นเมนู plant-based แต่ว่ากินแล้วรสชาติไม่น่าเบื่อ จะเน้นอาหารสไตล์นานาชาติ กินได้ทั้งวัน หรือเป็นเมนูขนม สมูทตี้ก็กินแล้วอิ่มท้องดี เพราะเมนูหนึ่งจะเสิร์ฟมาค่อนข้างใหญ่ ส่วนเมนูที่อยากให้ทุกคนลองก็คือ “The Bibi Bowl (220 บาท)” ข้าวยำสไตล์เกาหลีที่ใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ มาพร้อมผักโขม เห็ดชิตาเกะ ถั่วงอก แครอท แตงกวา และเต้าหู้ ซึ่งทีเด็ดอยู่ตรงน้ำซอสบิบิมบับที่รสชาติไม่เหมือนใคร

⏰ เปิดทุกวัน 8.00 - 17.00 น. สอบถามโทร 091-715-5247 หรือสั่งเดลิเวอรีผ่าน line: @plantiful.bkk, Robinhood, Grab Food

แบรนด์ร้านอาหารสุขภาพจากประเทศแอฟริกา ‘คาวาอิ (Kauai)’ มาเปิดสาขาแฟลกชิปแห่งแรกอยู่ที่อโศกทาวเวอร์ ใกล้กับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เป็นอีกร้านอาหารเฮลตี้ที่เราว่าใครๆ ก็กินได้ แถมกินแล้วน่าจะถูกปากไม่น้อยเลยด้วย เพราะเมนูรสชาติค่อนข้างแปลกใหม่ มีการใส่รสชาติไทยๆ ที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยลงไป อย่างเช่น แรปข้าวมันไก่ (200 บาท) แน่นไปด้วยโปรตีนจากอกไก่และไข่ต้ม ก่อนเพิ่มรสชาติด้วยซอสรสน้ำจิ้มข้าวมันไก่ เป็นเมนูที่กินแล้วเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ 

อาหารของที่นี่จะเสิร์ฟมาแบบกินคนเดียวแล้วอิ่มนาน และหากเทียบราคากับคุณภาพแล้ว เราว่าที่นี่คุ้มค่าแบบไม่ต้องคิดนานเลย

⏰ เปิดทุกวัน 7.30 - 19.00 น. สอบถามโทร 098 282 2164 หรือสั่งเดลิเวอรีผ่าน Line Man, Robinhood

คาเฟ่อาหารเพื่อสุขภาพเล็กๆ ที่เปิดอยู่ในคอนโด Noble Ora ซอยสุขุมวิท 55 ร้านนี้จะมีแต่อาหารวีแกนที่หน้าตาไม่ต่างไปจากอาหารทั่วไป อย่างเช่น เบอร์เกอร์ พิซซ่า แซนด์วิช หรือขนมและเครื่องดื่มต่างๆ ที่สายวีแกนต้องชอบ อย่างเช่นเมนูที่เห็นกันจะเป็น “แกงไก่อินเดีย” หรือ Chicken masala (290 บาท) ใช้เต้าหู้แทนเนื้อไก่ กินคู่กับน้ำแกงเข้มข้นสไตล์อินเดียและข้าว หรือใครอยากลองเมนูอื่นๆ ก็ยังมีทั้งอาหารไทย อาทิ แกงเขียวหวาน ปอเปี๊ยะสด หรืออาหารตะวันตก อาทิ สปาเก็ตตี้โบโลเนส ซีซาร์สลัด ก็สามารถเลือกได้เช่นกัน

⏰ เปิดทุกวัน 8.30 - 17.30 น. สอบถามโทร 092-910-1191 สั่งเดลิเวอรีผ่านทาง line: @Carrotsbangkok หรือแอปพลิเคชั่นเดลิเวอรี

ร้านอาหารสุขภาพจากประเทศสิงคโปร์ มีทีมงานเบื้องหลังเดียวกับคาเฟ่ Sarnies ในย่านเจริญกรุง แม้ว่าร้านจะบอกว่าเน้นเมนูสลัด แต่รับรองว่าคุณจะไม่เห็นแต่ผักใบเขียวๆ กับน้ำสลัดธรรมดาๆ แน่นอน เพราะที่นี่จะเป็นสลัดสไตล์ Bowl ที่เราสามารถเลือกส่วนผสมได้เอง แต่ถ้าใครไม่มั่นใจในฝีมือก็แนะนำให้เลือกเซ็ตที่ร้านจัดไว้ให้แล้วดีกว่า

วัตถุดิบจะมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแป้ง โปรตีน ไฟเบอร์ต่างๆ ที่รับรองว่าสารอาหารครบถ้วน อีกทั้งชามหนึ่งก็จัดมาให้ใหญ่จนอิ่ม สำหรับเมนูแนะนำก็มี ‘Cool Gai (225 บาท)’ เนื้อไก่หมัก เสิร์ฟพร้อมลาบถั่วลูกไก่ เห็ดซอเต้ ข้าวกล้อง และน้ำสลัดแจ่วมายองเนส หรือ ‘Hula Hula Tuna (350 บาท)’ เป็นทูน่าโปเกะ มาพร้อมอะโวคาโดบด เอดามาเมะ หัวไชเท้าและแครอทดอง กิมจิ และข้าวกล้อง

⏰ เปิดทุกวัน 8.00 - 21.30 น. สอบถามโทร 02 550 7623 หรือสั่งเดลิเวอรีทาง Foodpanda, Line Man

ผัก (PAAK) เป็นคาเฟ่เครื่องดื่มทำจากผัก ทว่าเสิร์ฟในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร อย่างเช่น สมูทตี้ซีซาร์สลัด (220 บาท) เป็นเครื่องดื่มสมูทตี้ที่รสชาติเหมือนซีซาร์สลัดไม่ผิดเพี้ยน ทว่ารสชาติเราว่าดื่มง่าย แถมแปลกใหม่จนอยากสั่งซ้ำๆ

ผักตั้งอยู่ที่ The Commons ศาลาแดง มีเมนูน่าสั่ง เช่น สลัดบร็อคโคลี่ (180 บาท) ที่มาพร้อมไก่ซูวีดเนื้อนุ่ม หรือ สลัดทาโก้สไตล์เม็กซิกัน (220 บาท) ที่กินคู่กับชิลลี่ซอส plant-based และจานไฮไลท์ ‘น้ำพริกอ่องราตาตุย (280 บาท)’ พาสต้าเส้นฟูซิลี่ ราดด้วยน้ำพริกอ่อง กินคู่กับอกไก่ซูวีดย่าง

⏰ เปิดทุกวัน 8.00 - 23.00 น. สอบถามโทร 081 857 8874 หรือสั่งเดลิเวอรีผ่าน Robinhood, Grab Food

คนไหนที่ยังไม่เคยลองกินเมนูสไตล์โปเกะโบวล์ (poke bowl) ของร้านนี้ ต้องไปลองดูสักครั้งแล้วล่ะ เพราะแต่ละเมนูไม่จำเจทั้งหน้าตาและรสชาติ เรียกว่าเป็นอาหารดีต่อสุขภาพที่มีความจัดจ้าน หนักเครื่อง ครบรส และอิ่มท้องสุดๆ อีกร้านหนึ่งเลย

เมนูสไตล์โปเกะโบวล์คือเมนูข้าวหน้าต่างๆ ของฮาวาย โดย Hunter Poke นำมาปรับให้ทันสมัยและกินง่ายขึ้น ผสมผสานวัตถุดิบแปลกใหม่ทว่าเข้ากันดี อย่างเช่น X Factor (420 บาท) เมนูขายดีที่มีทั้งแซลมอน ทูน่า ปลาไหล และไข่ปลา กินคู่กับมะม่วงและเอดามาเมะ เป็นชามที่ให้สัมผัสหลากหลายดีแถมมีรสชาติ กินแล้วไม่เลี่ยนอย่างที่คิด

ตอนนี้ร้านจะมี 4 สาขา คือ The Commons ทองหล่อ, The Commons ศาลาแดง, Emquartier และ Siam Center จะแวะไปซื้อกลับบ้าน หรือาสั่งเดลิเวอรีก็ได้เหมือนกัน

⏰ เปิดทุกวัน 10.00-21.00 น. สั่งเดลิเวอรีได้ทาง line: @HunterPokeLINE หรือ Line Man, Food Panda

โทนิค เป็นอีกร้านที่เราอยากแนะนำ เพราะมาในสไตล์ข้าวกล่องที่เราสามารถจับคู่ผสมเมนูได้เอง แถมมีตัวเลือกให้เยอะ กินง่าย สารอาหารครบถ้วน และอิ่มท้องแน่ๆ ซึ่งเมนูจะสับเปลี่ยนทุกสัปดาห์เพื่อให้เรากินแล้วไม่เบื่อ

ทุกคนจะเลือกได้ว่าอยากกินไซส์ไหน มีตั้งแต่ Signature Box (190 บาท) ที่เราเลือกเครื่องเคียงได้ 3 อย่าง และโปรตีนอีก 1 เมนู หรือ Value Box (150 บาท) ที่เสิร์ฟข้าวกล้อง พร้อมกับโปรตีนและเครื่องเคียงที่เราเลือกได้เอง และถ้าหากอยากสั่งเมนูอื่นๆ เพิ่มอีกก็จะบวกเพิ่มตามราคาไป

⏰ เปิดทุกวัน 8.00 - 20.00 น. สอบถาเพิ่มเติมโทร 090 916 5186 หรือสั่งเดลิเวอรีผ่าน line: @TONICBKK และแอปฯ Line Man, Food Panda

ร้านอาหารเฮลตี้เปิดใหม่ล่าสุด อยู่ในซอยสาธุประดิษฐ์ 6 ย่านเดียวกับโรงเรียนเตรียมอุดมฯ ยานนาเวศ แบรนด์นี้เคยทำน้ำผลไม้สกัดเย็นมาก่อน จนตอนนี้ขยายมาเป็นคาเฟ่ที่มีอาหารเสิร์ฟด้วย โดยอาหารจะเน้นเมนูที่ทุกคนคุ้นเคยดีแต่เปลี่ยนให้ดีต่อสุขภาพ แต่ยังคงรสชาติถูกปาก และมีเมนูที่ใช้ superfood ให้เลือกลองอีกเช่นกัน

ส่วนเมนูแนะนำของร้านจะเป็นแนว Open toast อย่างเช่น ‘Avocado Bacon Chickpeas (280 บาท)’ เป็นขนมปังท็อปด้วยอะโวคาโด และถั่วลูกไก่ปรุงรส ผักสลัด มะเขือเทศ เบคอน และมะกอกดำ หรือถ้าใครอยากสั่งน้ำผักผลไม้มาดื่มด้วย ก็มีให้เลือกกหลายรสชาติ ราคาขวดละ 130 บาทเท่านั้น

⏰ เปิดทุกวัน 10.00 - 20.00 น. สอบุามโทร 082 535 6062 หรือสั่งเดลิเวอรีผ่าน line: @potionslowjuice และ GrabFood, Robinhood, Line Man

กัปปร้าคาเฟ่ เป็นคาเฟ่แนววีแกนที่อยู่ในย่านคลองสาน ร้านจะไม่เน้นเมนูอาหารหนัก แต่ก็มีเมนูที่กินแล้วอยู่ท้องด้วยเช่นกัน อย่างเช่น แซนด์วิชหน้าเปิดที่เครื่องแน่นจนมองไม่เห็นขนมปัง ราคาเริ่มต้น 145 - 185 บาทเท่านั้น ท็อปปิ้งขนมปังที่มีอย่างเช่น น้ำตกหมู, เต้าหู้เทอริยากิ, เวลเว็ทอะโวคาโด หรือ ฮัมมัสโทเมไก่ นอกจากของกิน ก็มีขนมให้สั่งด้วย ตั้งแต่สมูทตี้โบวล์ พุดดิ้ง คุ้กกี้

⏰ เปิดวันจันทร์ - เสาร์ 9.00 - 17.00 น. สอบถามโทร 080 080 4061 หรือสั่งเดลิเวอรีทาง line: @kappracafe

อีกร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ใครๆ ได้ลองก็ติดใจจนอยากกลับไปอีกครั้ง วิสโทร (Vistro) นับว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหาร plant-based ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ร้านจะเสิร์ฟเมนูวีแกนทำจากวัตถุดิบมีคุณภาพ แถมรสชาติและเมนูไม่น่าเบื่อ อย่างเช่น Vistro Dumplings (220 บาท) เกี๊ยวนึ่งราดซอสพริกสไตล์ไต้หวัน มาพร้อมน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่า หรือจะเป็น Tokyo Tacos (280 บาท) ทาโก้แป้งกรอบๆ ทำมาจากโนริสาหร่าย ห่อผักกรีนโอ๊ค เต้าหู้เทอริยากิ ข้าวญี่ปุ่น มายองเนสรสพริกศรีราชา พริกเกาหลี และหอมเจียว

นอกจากนี้ยังมีเมนูน่ากินอื่นๆ อย่าง ข้าวซอย, หมูปิ้ง, พิซซ่า, ราเม็ง และเบอร์เกอร์ ที่ล้วนไม่มีเนื้อสัตว์ให้ลองอีกเช่นกัน

⏰ เปิดทุกวัน 10.00 - 21.00 น. สอบถามโทร 065 998 2201 หรือสั่งเดลิเวอรีผ่าน line: @vistro.vizza และ Food Panda, Line Man

Fitmeal Cafe มีอาหารเสิร์ฟตั้งแต่มื้อเช้า-สาย อาทิ สลัด แซนวิช หรือข้าวราดน้ำชา สำหรับอาหารกลางวันไปจนถึงเย็น จะเน้นเมนูสไตล์ฟิวชั่น แนะนำให้ลองสั่ง ข้าวแซลมอนเทอริยากิ (290 บาท) ที่เสิร์ฟแซลมอนชิ้นโตสุกกำลังดีมาบนข้าวกล้อง ก่อนราดด้วยซอสเทอริยากิเพิ่มรสชาติ กินคู่กับเครื่องเคียงอย่างผักและไข่ม้วน หรือเมนูน่าลองอื่นๆ อีกเช่น ข้าวผัดแซลมอนสไปซ์ซี่ลาวา (260 บาท) วีแกนเบอร์เกอร์ (280 บาท) และ สยาม บาราชิราชิ (310 บาท)

ส่วนเมนูเครื่องดื่มแนะนำ สมูทธี้ Wake me up (185 บาท) ผสมด้วยกาแฟ โอ๊ต และเนยถั่ว หรือ Berry blast (165 บาท) ผสมด้วยสตรอว์เบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่ และบลูเบอร์รี่

Veganerie (วีแกนเนอร์รี่) ร้านอาหารวีแกนแห่งแรกๆ ของเมืองไทย เริ่มต้นจากการเป็นร้านขนมและอาหารสไตล์วีแกน ที่แต่ละเมนูใช้วัตถุดิบดีต่อร่างกาย และทำจากพืชล้วน 100% โดยร้านเริ่มต้นจากเจ้าของที่กินอาหารมังสวิรัติเป็นชีวิตประจำวัน จึงตัดสินใจแบ่งปันสูตรอาหารเหล่านั้นให้ผู้ที่สนใจได้ลองบ้าง และทำให้เห็นด้วยว่าอาหารทำจากพืชก็มีความหลากหลาย ทั้งด้านรสชาติ หน้าตา และเมนู แถมยังได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนได้เช่นกัน

ร้านเปิดบริการครั้งแรกในปี 2016 สาขาแรกอยู่ที่ Mercury Ville ก่อนปีต่อมาจะเริ่มเพิ่มเมนูวีแกนที่ร้าน เนื่องจากได้รับการตอบรับที่ดีจากคนรักสุขภาพ จนกระทั่งในปี 2018 ร้านวีแกนเนอร์รี่ ก็เปิดสาขารวมทั้งสิ้น 6 สาขาทั่วกรุงเทพฯ อยู่ที่ Mercury Ville, EmQuatier, ซอยสุขุมวิท 24, สยามพารากอน, สีลมคอมเพล็กซ์ และซอยสุขุมวิท 11 บนชั้น G โรงแรม Ambassador

เมื่อมีคนสนใจอาหารวีแกนมากขึ้น ร้านจึงมีเมนูที่หลากหลายขึ้นจากเดิม ซึ่งปัจจุบันรวมแล้วมีมากกว่า 150 เมนู มีเสิร์ฟตั้งแต่เบเกอรี่ ขนมหวาน อาหารไทย อาหารต่างชาติ อาทิ ยำ สลัด เบอร์เกอร์ พาสต้า และสามารถเลือกเมนูรับประทานได้ตั้งแต่มื้อเช้าจนถึงมื้อเย็น

เมนูวีแกนที่แนะนำให้ลอง อาทิ ฮาวาเอี้ยนเวจจี้เทอริยากิเบอร์เกอร์ (290 บาท) เบอร์เกอร์บันสไตล์วีแกน ประกบกินคู่กับแพตตี้ดอกกำหล่ำซอสเทอริยากิ สัปปะรด ผัก และวีแกนเนส (มาโยเนสวีแกน) เสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟรายส์ สลัด และมันม่วงอบ หรืออีกเมนูอาหารเหนือสไตล์วีแกน ข้าวซอยเห็ดย่างเต้าหู้ทอด (149 บาท) ก็เชื่อว่าเป็นอีกเมนูน่าลองสำหรับผู้ที่อยากเริ่มกินอาหารวีแกน

สามารถดูเมนูเพิ่มเติม และรายละเอียดของแต่ละสาขาได้ที่ veganerie.co.th

หากใครมาลองกินอาหารที่ร้านนี้ เราแนะนำให้สั่งเมนู ข้าวผัดแกงเขียวหวานควินัวโบวล์ (230 บาท) ที่นำคีนัว เต้าหู้ และผัก ไปผัดเข้ากับซอสแกงเขียวหวานโฮมเมด เสิร์ฟพร้อมกับข้าวกล้อง หรือ ผัดไทยเส้นธัญพืชเมล็ดเจีย (190 บาท) และอีกเมนูแนะนำ เบอร์เกอร์ชาร์โคลบร็อคโคลี่กับควินัว (240 บาท)

ร้านเปิดใหม่ตั้งอยู่ในโครงการ เดอะ คอมมอน ศาลาแดง เน้นเสิร์ฟเมนูสุขภาพที่มีรสชาติแบบไทยทวิสต์ เพื่อให้ถูกปากทั้งคนในประเทศและต่างประเทศ อย่างเช่น ไก่กอและ ที่ใช้มะพร้าวในการปรุงรสชาติ หรือเมนูอื่นๆ เช่น ควินัวผัดต้มยำ ไข่ชะอม ซึ่งทั้งหมดเราสามารถเลือกส่วนผสมในชามเองได้ด้วย

ร้านนี้เปลี่ยนชื่อมาจาก Dressed แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมไว้คือ การเสิร์ฟอาหารที่สดใหม่และดีต่อสุขภาพ

โดยมีเมนูแนะนำ อาทิ สไปซี่พอร์คบุลโกกิโบวล์ (240 บาท) เนื้อหมูเทนเดอร์ลอยน์สไตล์เกาหลี เสิร์ฟพร้อมกิมจิ หัวไชเท้าดอง ไข่ออนเซ็น และข้าวแจสเบอร์รี่ออร์แกนิก