สำรวจ 11 ร้านตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์กลางเมือง ที่ Velaa Langsuan เฟสสอง

ร้าน CHICHA San Chen (ชิชา ซาน เชน) ร้านชาจากเมืองไถจง ประเทศไต้หวัน ที่มีไร่ชาและโรงชาเป็นของตัวเอง พวกเขาใช้เวลากว่า 20 ปีในการศึกษาวิถีของการดื่มชาเพื่อผลิตและพัฒนาคุณภาพชาให้ดีอยู่เสมอ ปัจจุบันชิชาขยายสาขามาที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 13 ของโลก จุดเด่นของชิชาคือใช้เครื่องชงชา Teapresso หรือการใช้นวัตกรรม AI ในเครื่องชงชา Teapresso เป็นชาแบรนด์เดียวของโลกที่ได้รับรางวัลเทียบเท่ามิชลิน 3 ดาวถึง 6 ปีซ้อน และเป็นครั้งแรกของวงการชาที่ลูกค้าเลือก Customization ในแต่ละแก้วได้ตามความชอบ 

ที่สำคัญ ชิชาเป็นเครื่องดื่มชาที่เน้นสุขภาพ ซึ่งมากกว่า 90% ของวัตถุดิบนำเข้าจากไต้หวัน โดยมีชาให้เลือกถึง 6 เบสชา เเต่จะมีแค่ 3 เบสชาที่ต่างจากที่อื่น ก็คือ High mountain pouchong tea ชากลิ่นครีม Dong Ding Oolong Tea ชาคั่วเข้มหอมกลิ่นเตาถ่าน และ Classia Black Tea ที่นำเมล็ดแคสเซียและชาดำมาคั่วจนส่งกลิ่นหอม ความพิเศษกว่านั้นคือได้ออกแบบระดับการคั่วถึง 5 ระดับ ตั้งแต่คั่วอ่อน คั่วอ่อนปานกลาง คั่วกลาง คั่วเข้มปานกลาง และคั่วเข้ม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ CHICHA San Chen 

LAWOI’ ละโวยจ ร้านอิซากายะอาหารทะเลพื้นถิ่นคู่กับสาเกญี่ปุ่น ในคอนเซปต์ The Fisherman Cave & Sake Bar ซึ่งชื่อ ลาโวยจ มีความหมายมาจากคำว่า ทะเล ในภาษาอูรักลาโวยจ (ภาษามลายูที่ใช้ในชาวประมงพื้นถิ่น) โดยคอนเซปต์ของร้านไม่ได้หมายถึงสถานที่อย่างเดียว แต่คือวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นถิ่นที่พึ่งพาทะเลในการดำรงชีวิต 

ภายในร้านถูกออกแบบเสมือนถ้ำของชาวประมง (The Fisherman Cave) ที่ตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ทางร้านใช้วัตถุดิบสดใหม่ส่งตรงจากแหล่งประมงทุกวัน พร้อมนำเสนอเมนูโดยเชฟใหม่-นฤมล อดีต Sous Chef แห่งร้าน Le Du และอดีต Head Chef ที่ร้าน Niras (Hong Kong) ซึ่งเคยทำงานร่วมกับเชฟต้นมานานกว่า 9 ปี 

เมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ ซาชิมิปลาไทย (Aged) 3 ชนิด ไฮไลต์ของร้านจะอยู่ที่เมนูปลาเก๋าแดงย่าง หนวดหมึกย่าง พาสต้าอ่องมันปู และมาฟาลดีนี่ปลาเค็ม เสิร์ฟคู่กับกุ้งลายเสือย่าง และมีสาเกกินคู่กับมื้ออาหารที่คอสาเกควรไปลอง (ยกทั้งก้อนนี้ไปวางใหม่ได้เลยจ้ะ) 

สำรองที่นั่ง โทร. 082-052-1688 หรืออีเมล lawoibkk@gmail.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB: Lawoi’ IG: lawoibkk 

ร้านอาหารไทยที่เกิดจากแรงบันดาลใจร้านขนมไทย ‘เสน่ห์จันทน์’ ที่เป็นซิกเนเจอร์เมนูมาจากผลไม้ชื่อเดียวกัน ซึ่ง ลูกอิน ลูกจัน เป็นผลไม้ที่มีเอกลักษณ์ที่เกิดในต้นเดียวกัน ที่เปรียบเสมือนการสร้างสรรค์เมนูแต่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน โดยมี #เมนูลับหลังร้าน เป็นเมนูดั้งเดิมที่ผสานกับการครีเอตเมนูสนุกๆ ด้วยวัตถุดิบคุณภาพจากท้องถิ่นโดยทีมเชฟมิชลิน ซึ่งนี่คือซิกเนเจอร์ของร้านเลยก็ว่าได้ 

บรรยากาศในร้านจึงให้กลิ่นอายเหมือนการมาพบปะกับเพื่อนสนิท ด้วยความเรียบง่าย มีเสน่ห์ ทันสมัย และอบอุ่นในคราวเดียว โดยมีเมนูแนะนำคือ พล่าเนื้อริบอายย่าง ก๋วยเตี๋ยวแกงรัญจวนกระดูกหมู ข้าวหมูฮ้องชาชู หรือขากบคั่วพริกเกลือ 

นอกจากนั้นยังมีเมนูเครื่องดื่มและของหวานที่เข้ากับคอนเซปต์ของร้าน อย่างน้ำสมุนไพร เช่น น้ำมะตูม น้ำเก๊กฮวย เป็นต้น ส่วนของหวานก็เช่นขนมไทยลูกอิน ลูกจัน และขนมหวานลูกอิน ลูกจัน อย่างขนมถ้วย ตะโก้ ขนมเปียกปูน หรือปลากริมไข่เต่า ทับทิมกรอบ ไอศกรีมกะทิโบราณ ฯลฯ อาจเห็นเป็นเมนูที่คุ้นเคย แต่บอกเลยว่าแค่เห็นเมนูก็น้ำลายสอไปแล้วไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB: ลูกอิน ลูกจัน IG: ลูกอิน ลูกจัน 

วิลาศ ร้านอาหารไทยที่นำมาตีความใหม่ให้กลายเป็นร้านอาหารที่ผสานเทคนิคหรือกระบวนการแบบร่วมสมัย โดยยังคงรักษารสชาติแบบไทยๆ ไว้อย่างครบถ้วน ทุกเมนูรังสรรค์โดยเชฟแบงค์-วรพจน์ ตันสกุล และเชฟปริญญ์ ผลสุข ซึ่งเคยเปิดร้านอาหารสำรับสำหรับไทย ย่านศาลาแดง 

สิ่งที่ทำให้รู้สึกว่าร้านอาหารวิลาศดูสง่า โดยก้าวข้ามขีดจำกัดของร้านอาหารไทยแบบเดิมๆ คือการตกแต่งร้านที่เห็นแล้วดูราวกับหลุดไปในมิวเซียมหรือภาพยนตร์สักเรื่อง อย่างการตกแต่งผนังด้วยรูปภาพโทนสีคลาสสิก การวางผังบริเวณร้านดูสบายตาเหมาะกับการนั่งกินอาหารด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย 

ที่นี่จะเสิร์ฟเมนูเด่นๆ เช่น พล่าเต้าเจี้ยวหอยเชลล์ญี่ปุ่นน้ำมะม่วงเบา ข้าวเม่าดอยจี่ไข่ดาว ไก่กระทงวิลาศที่เสิร์ฟทั้งตัว ส่วนเมนูของหวานเห็นจะเป็น ‘โสมนัส’ ที่มีความหมายว่า ยินดี หรือ มีความสุข ขนมไทยดั้งเดิมทำด้วยเมอแรงก์ก้อนเล็ก นอกจากนั้นยังมีเครื่องดื่มค็อกเทลสูตรต่างๆ ที่ครีเอตด้วยวัตถุดิบไทยผสานเหล้าพื้นบ้านหลากชนิด ทุกอย่างรวมกันออกมาดูแล้วเพอร์เฟกต์สุดๆ  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB: VILAS IG: VILAS 

แบรนด์กาแฟสเปเชียลตี้ชื่อดังนำเข้าจากเกาหลีใต้ ซึ่ง Get Some Coffee แรกเริ่มร้านตั้งอยู่ในย่านจัมชิล ที่เสิร์ฟกาแฟและของหวานด้วยวัตถุดิบคุณภาพ และพยายามพัฒนาแบรนด์จากฟีดแบ็กของลูกค้า จนขยายสาขาที่สองในย่านกังนัมเมื่อปี 2016 โดยมีเมนูซิกเนเจอร์คือ Apple Crumble Affogato, Dirty Cappuccino หรือ Ducth Pepper 

สำหรับการเปิดสาขาใหม่ที่ Velaa จะให้บรรยากาศของโอเพ่นบาร์ที่เสิร์ฟกาแฟพร้อมเบเกอรี่เช่น ครัวซองต์ พีนัตบัตเตอร์คุกกี้ ฯลฯ ที่กินแล้วอร่อยเข้ากันกับเครื่องดื่มได้ทุกเมนู 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Get Some Coffee  

หนึ่งในไฮไลต์ของ Valaa คือการร่วมมือกับเชฟระดับมิชลินของ JTAP (เจ๊แท็ป) ด้วยร้านอาหารคอนเซปต์ล่าสุดที่เชฟลุกขึ้นมาปั้นแบรนด์ใหม่ตามสไตล์ตัวเอง ด้วยการครีเอตรสชาติโดยเชฟแท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล ที่รังสรรค์เมนูอาหารที่ปรุงอย่างเรียบง่ายด้วยความประณีต ทั้งเมนูต้ม นึ่ง ย่าง ทอด ผัดที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด 

จุดเด่นของเจ๊แท็ป คือการนำวัตถุดิบมาครีเอตผ่านเมนูหลากสไตล์ เช่น โทสต์ยำปลาอิวาชิ อูนิโทสต์ หรือโป๊งเหน่งล็อบสเตอร์ต้มยำ ยังมีเมนูไว้สำหรับแชร์กับกลุ่มเพื่อน เช่น เมนูไทยๆ อย่าง ส้มตำ ยำ ย่าง แต่ที่เห็นแล้วว้าวคือ บานาน่า เฟลมเบ้ กล้วยตาก ซึ่งเป็นของหวานสไตล์ฝรั่งเศสที่เชฟรังสรรค์ได้เข้ากันสมน้ำสมเนื้อ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ JTAP (เจ๊แท็ป) 

ร้านแฮนด์โรลซูชิร้านแรกในเครือ Iberry Group ของปลา-อัจฉรา หรือปลาแห่งอาณาจักร iberry ที่เกิดจากความร่วมมือของเชฟมาซาโตะ ชิมิสุ เชฟชาวญี่ปุ่นและเจ้าของร้าน Sushi Masato ที่มีชื่อเสียงด้านซูชิโอมากาเสะ 

แนวคิดของ Maison RORU คือการนำเสนอแฮนด์โรลด้วยคุณภาพของวัตถุดิบ อร่อย เข้าถึงง่าย และจับต้องได้ โดยชื่อร้านแปลรวมๆ ได้ว่า บ้านแห่งโรลซูชิ ราวกับชวนให้ใครก็ตามเข้ามาลองชิมโรลซูชิเหมือนกินข้าวที่บ้าน 

นอกจากแฮนด์โรลแล้ว Maison RORU ยังให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มที่แพริ่งคู่กับสาเก ไม่ว่าจะมื้อกลางวัน ช่วงดินเนอร์ หรือแวะไปนั่งชิลล์ช่วงดึกก็เพลิดเพลินได้ในบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Maison RORU  

HEAP แบรนด์ร้านอาหารที่ยืนหนึ่งในเรื่องร้านนั่งชิวฟังดนตรีที่มีอาหารอร่อยรสจัดจ้าน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมานาน โดยเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 6 ปี ทั้งสาขาวิภาวดีและสาขาอนุสาวรีย์ 

ร้านเปิดตัวพร้อมกับเมนูพิเศษที่คัดสรรขึ้นใหม่ด้วยสไตล์ฟิวชั่น เช่น แมงกะพรุนหัวกระสุนดองโชยุยูสุ หรือเซตที่จัดมาเพื่อสังสรรค์ในช่วงวีคเอนด์ อาหารที่ร้านยังคงรสชาติไทยแท้รสจัดจ้าน ตามสไตล์ HEAP พร้อมค็อกเทลสูตรพิเศษของทางร้านซึ่งเตรียมมาไว้ที่สาขาใหม่ล่าสุดที่ Velaa Langsuan 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB: HEAP และ IG: HEAP 

Tonkatsu AOKI คือร้านทงคัตสึต้นตำรับจากญี่ปุ่น ร้านที่เชี่ยวชาญและมุ่งมั่นในการทำทงคัตสึเพียงอย่างเดียวเพื่อให้ได้มาตรฐานสูงสุด ซึ่งถ่ายทอดกระบวนการที่พิถีพิถัน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การปรุง ไปจนถึงการเสิร์ฟ 

โดยมีปรัชญาว่า ทุกจานของ Tonkatsu AOKI คือผลลัพธ์ของความตั้งใจที่ใส่ใจรายละเอียดด้วยสูตรลับที่ส่งต่อจากญี่ปุ่น ด้วยเทคนิคการทอดอันแม่นยำ เสิร์ฟคู่กับเกลือ 3 ชนิดที่รังสรรค์เพื่อรสชาติที่แท้จริง 

ความพิเศษคือในทุกๆ เซตจะเสิร์ฟซุปทงจิรุ ซุปหมูสไตล์ญี่ปุ่นที่กลมกล่อม หอมมิโสะ ด้วยผักสดหลายชนิด พร้อมข้าว Yumepirika สายพันธุ์พิเศษที่ได้รับรางวัล Special A ซึ่งสัมผัสได้ถึงความอร่อยที่สมบูรณ์แบบทุกคำ 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ FB: TonkatsuAoki และ IG: TonkatsuAoki 

KINGSMAN คือร้านตัดผมสุภาพบุรุษด้วยลุคหรูหรา ประณีต อบอุ่น แต่เข้าถึงได้ ที่เน้นเรื่องการให้บริการเพื่อนำเสนอรูปลักษณ์ของแบรนด์ด้วยความทันสมัย ​ 

การนิยามของร้านคือต้องก้าวข้ามกรอบจำกัดเดิมของการตัดผม เช่นการสร้างบรรยากาศราวกับอยู่ในเลานจ์ด้วยเทรนด์ทันสมัยที่เหนือกาลเวลาผ่านการตัดผมแบบคลาสสิก ซึ่งในอนาคตร้านมีเป้าหมายที่จะขยายแบรนด์ทั้งภายในและต่างประเทศด้วย

ความน่าประทับใจของร้านตัดผมสุภาพบุรุษ KINGSMAN ก็คือบรรยากาศที่คลอด้วยเสียงดนตรี กลิ่นหอมฟุ้งอันเป็นเอกลักษณ์ และการออกแบบภายในร้านที่ต่างไปจากร้านตัดผมทั่วไป เสมือนเป็นพื้นที่ให้พอได้เอกเขนกและผ่อนคลาย เป็นอีกร้านที่พร้อมมอบประสบการณ์การตัดผมที่เปลี่ยนลุคให้ดูวิเศษกว่าที่เคย 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KINGSMAN

Kad Kreamery คือคาเฟ่ขนมหวานที่นำเสนอไอศกรีมและคุกกี้อบสูตรเฉพาะของร้าน ที่นำวัตถุดิบคุณภาพมาสร้างสรรค์ขนมสไตล์ฝรั่งเศส พร้อมเสิร์ฟในบรรยากาศอบอุ่นและมีสไตล์ รังสรรค์เมนูขนมหวานโดยเชฟลูกครึ่งฝรั่งเศส-ญี่ปุ่น ผู้ที่ชื่นชอบขนมหวานอย่างไอศกรีมและคุกกี้สุดหัวใจ จึงนำความพิถีพิถันแบบญี่ปุ่นผสานเทคนิคการทำขนมแบบฝรั่งเศสจนออกมาเป็นไอศกรีมและคุกกี้ 

ไม่เพียงแค่นั้น ทางร้านยังใช้วัตถุดิบคุณภาพจากท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทย เช่น เมล็ดโกโก้ซึ่งเป็นวัตถุดิบนำมาทำเป็นเมนูช็อกโกแลต ด้วยแนวคิด Bean-to-Bar ที่เน้นความยั่งยืน หรือผลไม้ตามฤดูกาล ทุกเมนูจึงอร่อยและเต็มไปด้วยเรื่องราว

ซึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ได้แก่ ไอศกรีมหลากรสชาติที่ผลิตจากนมและผลไม้ที่ไม่ใส่สารกันบูด หรือคุกกี้และบรู๊กกี้ (Brookie) สูตรพิเศษ ยังมีช็อกโกแลตไทยเกรดพรีเมียมด้วยรสชาติซับซ้อน แถมยังมีความหอมเฉพาะตัว

ใครอยากเปิดใจลองเมนูของหวานสุดคราฟต์และใส่ใจทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 081-0070-8828 และ 080-109-3130 หรือ FB: Kad Kreamery และ IG: Kad Kreamery