Copper Bar 04
Sereechai Puttes/Time Out Bangkok

สุดยอดบาร์ค็อกเทลในกรุงเทพฯ

หากยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดีคืนนี้ ลองมาดูลิสต์ของ Time Out กันดีกว่า

เขียนโดย
Suthima Thongmark
การโฆษณา

จากผับย่านทองหล่อไปถึง บาร์รูฟท็อป บาร์ย่านสีลม แสดงให้เห็นว่ากรุงเทพฯ เป็นแหล่งรวบรวมมิกโซโลจิสต์ชั้นยอดที่แต่ละคนก็มีสูตรเฉพาะตัวของตัวเอง เพราะฉะนั้นเราจึงได้รวบรวมบาร์ค็อกเทลในกรุงเทพฯ ที่เราไปลองแล้วบอกเลยว่าประทับใจคอค็อกเทลอย่างแน่นอน 

สุดยอด Cocktail Bar ในกรุงเทพฯ

  • Bars
  • ไวน์บาร์
  • รัตนโกสินทร์
  • ราคา 3 จาก 4
เชฟต้น-ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร แห่งร้านอาหารติดดาว Le Du ที่เรารู้จักกันดี จับมือพี่ชายตาม-ชัยศิริ เปิดไวน์บาร์ใหม่ในย่านท่าเตียนที่เลือกจับคู่ natural wine กับอาหารไทยรสชาติจัดจ้านได้อย่างลงตัว เมรัย ปลุกตึกแถวย่านท่าเตียนด้วยการตกแต่งภายในจัดจ้าน ไฟนิออน และบรรยากาศที่ราวกับยกบาร์เท่ในย่านนานามาซอยเล็กๆ ริมน้ำ ถ้าไม่รู้จะนั่งตรงไหนเราขอแนะนำให้ตรงไปนั่งหน้าบาร์ เพราะต้นและตามจะผัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเล่าเรื่องสนุกเบื้องหลังขวดไวน์แต่ละยี่ห้อให้คุณฟัง และชวนคุณดื่มด่ำกับไวน์ที่ผลิตด้วยกรรมวิธีธรรมชาติ อย่างเช่น Phaunus Pet Nat 2017 (1,990 บาท/ขวด) สปาร์คลิงไวน์จาก Vinho Verde ประเทศโปรตุเกส ที่ใช้กรรมวิธีโบราณในการบ่มโดยไม่ใช้ยีสต์หรือน้ำตาลแม้แต่น้อย หรือถ้าคุณชอบไวน์ฟุลบอดี้ คุณอาจจะได้รับคำแนะนำให้รู้จักกับ Alpsmanta Natal Malbec 2017 (1,699 บาท/ขวด) จาก Mendoza ประเทศอาเจนตินา ที่เปล่งกลิ่นหอมๆ ของพลัมและแบล็คเคอเรนต์ออกมาทุกๆ จิบที่คุณสัมผัส หรือถ้าอยากลองไวน์อื่นๆ เมรัยก็พร้อมให้บริการในราคาเริ่มต้นที่แก้วละ 200 บาทเท่านั้น หรือถ้าอยากจะลองอะไรโลคัลๆ ลองกระซิบถามถึงยาดองดู เพราะเมรัยมีสูตรยาดองของตนเองที่ปรุงจากสมุนไรพถึง 12 ชนิดด้วยนะ อาหารไทยรสจัดจ้านที่เราพูดเมื่อตอนต้นก็คืออาหารเส้นรสสะดุ้งลิ้นอย่างผัดไทย ที่เชฟต้นเปิดราคามาเพียงแค่จานละ 79 บาทสำรับผัดไทยธรรมดา หรือจะลองขั้นกว่าอย่างผัดไทยกุ้งแม่น้ำที่มาในราคาจานละ 690 บาท ส่วนสารอาหารเส้นเมืองเหนือต้องไม่พลาดลองสั่งข้าวซอยเนื้อวะกิว ที่คอเนื้อว่าคุ้มค่าคุ้มราคาชามละ 390 บาท ส่วนชั้นสองของเมรัยนั้น เชฟต้นบอกเราว่าเขาเตรียมจะทำเป็นร้านอาหารไทยปรุงอาหารตามตำรับโบราณแต่นำเสนอในแบบไฟน์ไดนิ่งตามที่เขาถนัด นักกินอดใจรอกันอ
  • Bars
  • วัฒนา
บาร์ค็อกเทลน้องใหม่ใต้สโมสรกีฬาใจกลางสุขุมวิทอย่าง The Racquet Club ที่พรางตัวอยู่อย่างเนียนๆ เบื้องหลังประตูและหน้าต่างกระจกสีดำ ซึ่งมีเก้าอี้โลหะสีแดงสองตัวตั้งอยู่ด้านหน้า เป็นเครื่องหมายบอกว่าคุณได้มาถึงบาร์แห่งนี้แล้ว และเมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านในก็จะพบกับสเปซกว้างขวาง ในบรรยากาศสลัวๆ แต่เรืองรองไปด้วยแสงสะท้อนจากบาร์ทองแดงที่ด้านบนเป็นแผ่นหินอ่อน เข้าคู่กับเก้าอี้ที่ชวนให้นึกถึงความสง่างามในช่วงกลางศตวรรษ  ที่นั่งมีให้เลือกจับจองทั้งบริเวณที่เป็นเคาน์เตอร์บาร์ ชุดโซฟา และชุดโต๊ะเก้าอี้พิงหลัง แต่หากเลือกนั่งด้านหน้าบาร์ก็จะทำให้เราได้มีโอกาสใกล้ชิดกับ Fabio Brugnolaro บาร์เทนเดอร์มือรางวัลผู้เป็นเจ้าของบาร์แห่งนี้ การันตีฝีมือด้วยประสบการณ์การทำงานในบาร์หลายแห่งทั้งในมิลาน ประเทศอิตาลี และในกรุงเทพฯ บ้านเรา ทั้งยังขึ้นชื่อในเรื่องของวิธีที่เขาผสมผสานความหลงใหลในการทำอาหารลงไปในค็อกเทล ด้วยการหยิบจับรสชาติจากวัตถุดิบที่เขาพบว่าน่าสนใจมาดัดแปลงให้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มแก้วต่างๆ ทั้งคาวและหวาน แนะนำให้ลองสั่ง Spring Steen (340 บาท) ค็อกเทลหอมกลิ่นผลไม้ที่พ่วงมากับรสชาติเปรี้ยวอมหวานกำลังดี ด้วยสัดส่วนที่ลงตัวจากส่วนผสมอย่าง วอดก้า มังคุดสด น้ำมะนาว ไซรัปกุหลาบ ดอกลาเวนเดอร์ และไข่ขาว หรืออีกตัวที่เป็นแก้วโปรดของบาร์เทนเดอร์อย่าง Rango (340 บาท) ค็อกเทลที่จะปลุกเราให้ตื่นด้วยส่วนผสมจากซอสมะม่วงโฮมเมด น้ำมะนาว เหล้ารัมขาว ไข่ขาว และน้ำส้มสายชูอีกเล็กน้อย จิบไปจิบมาก็จัดว่าเพลินดี ส่วนใครชอบค็อกเทลหวานๆ หรือมองหาแก้วที่ถ่ายลงอินสตาแกรมแล้วคนต้องกรี๊ด ให้ลองถามหาค็อกเทลแก้วใหม่ (ใหม่ขนาดที่บาร์เทนเดอร์ยังไม่ทันได้ตั้งชื่อ) ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขนมอิตาเลียน ถอดรสชาติแล้วถ
การโฆษณา
  • 3 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • หลังสวน
  • ราคา 4 จาก 4
  • แนะนำ
กลุ่มคนผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของค็อกเทลบาร์อย่าง Rabbit Hole และ Liberation ได้ขยับขยายอาณาจักรการกินดื่มอย่างมีระดับมาสู่แจ๊สบาร์แห่งใหม่ที่ Velaa Sindhorn Village บนถนนหลังสวน ในคอนเซ็ปต์โรงละครที่ราวกับหลุดมาจากยุค 20's อย่างไรอย่างนั้น โคมไฟระย้าที่ระยิบระยับไปด้วยเม็ดคริสตัลจำนวนมากถูกแขวนเอาไว้กลางห้อง มอบความหรูหราที่เข้ากันได้ดีกับเหล่าเบาะที่นั่งกำมะหยี่สีแดงสูงลดหลั่นกันคล้ายกับอัฒจันทร์ในโรงละคร มีฉากไม้สีเข้มกั้นระหว่างกันเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้แขกที่จะเข้ามาเยี่ยมเยียนโรงละครแห่งนี้ได้แบบพอดีๆ ไม่บดบังการรับชมการแสดงบนเวทีขนาดย่อม ซึ่งจะมีทั้งดนตรีแจ๊สสดจังหวะชวนโยก ดีเจจำนวนมาก และการแสดงอีกหลายรูปแบบผลัดเปลี่ยนกันมาเรื่อยๆ สร้างบรรยากาศให้เป็นโรงละครมาขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าเครื่องดื่มที่เสิร์ฟที่นี่ก็ยังได้แรงบันดาลใจมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการแสดงบนเวทีดำเนินอยู่ โดยแบ่งเครื่องดื่มออกเป็นหมวดหมู่ เริ่มจาก Bee Pollen (380 บาท) ค็อกเทลสีเหลืองจากเหล้าจิน Hendrick’s เหล้าสมุนไพร Yellow Chartreuse และไซรัปคาราเมลหอมหวาน ที่เสิร์ฟมาในแก้วนกน้อยน่ารัก จากหมวด 'Dim The Light' กลุ่มค็อกเทลประเภทที่ได้รับการออกแบบให้มีรสชาติสดชื่น ดื่มง่าย เหมาะกับการเริ่มต้นเมื่อเราเข้ามานั่งประจำ ณ ที่นั่ง และเตรียมตัวเพบิดเพลินไปกับการแสดงบนเวที และเมื่อม่านการแสดงถูกเปิดขึ้น ก็ถึงเวลาของค็อกเทลที่แรงขึ้นมาอีกหน่อยอย่าง Orange Jasmine (380 บาท) ซึ่งชงขึ้นจากเหล้าจิน Star of Bombay กับลูกพรุน ดอกส้ม และเหล้าไวท์มอลต์ ทำให้เราได้ผ่อนคลายพร้อมรับมือกับจังหวะโหมโรงทางการแสดงต่อไปกับ À La Menthe (380 บาท) ค็อกเทลในหมวดหมู่ 'The Strike the Band' ที่ทำขึ้นจากมาร์ตินี่ เหล้าอ
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • ทองหล่อ
  • ราคา 3 จาก 4
  • แนะนำ
I’m not a secret bar ประโยคที่บาร์แห่งนี้ใช้อธิบายตัวเอง ทำให้เรารู้สึกแย้งขึ้นมาในใจทันที เมื่อเห็นทางเข้าร้านที่ออกจะลับยิ่งกว่าบาร์ที่เรียกตัวเองว่าบาร์ลับซะอีก หลังจากผลักประตูสีแดงเข้าไปจะเจอโถงทางเดินสั้นๆ ที่พาเราเข้าไปในด้านในร้าน ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ เราสามารถขีดเขียนข้อความหรือเส้นสายอะไรก็ได้ตามอัธยาศัย ก่อนจะเข้าไปดื่มด่ำกับงานศิลปะชุดใหญ่ที่รออยู่ในร้าน ที่ต้องพูดถึงเรื่องศิลปะทั้งที่อยู่ในบาร์ ก็เพราะบาร์แห่งนี้ตกแต่งราวกับ Art Gallery ทุกพื้นที่ของร้าน ไล่มาตั้งแต่เพดาน ผนัง พื้น โต๊ะ เก้าอี้ บาร์ ถูกตกแต่งด้วยสีขาวล้วนๆ เหตุผลที่ต้องขาวทั้งร้านก็เพราะ Littles อยากให้ค็อกเทลทำหน้าที่เป็นสีสันของร้านนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ Signature Cocktail จึงมีชื่อเป็นสีต่างๆ คือ Scarlet (280 บาท), Shamrock (290 บาท), Bumblebee (290 บาท), Fuscia (290 บาท) ฯลฯ ซึ่งทุกแก้วจะเน้นรสชาติที่ดื่มง่าย นอกจาก Signature Cocktail แล้ว ก็ยังมีเครื่องดื่มที่แบ่งออกเป็นซีรีส์ต่างๆ เช่น Signature Littles นำเสนอคอนเซ็ปต์ของแบ็กแพ็กเกอร์ที่เดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ โดยใช้สปิริตที่มีชื่อเสียงของหลายๆ ประเทศมาเป็นเบส ราคาเริ่มต้นแก้วละ 350 บาท หรือ Littles Tasting สำหรับนักดื่มที่ชอบลองก็จะได้ลองชิมสปิริตชั้นดีจากทั่วโลกในราคา 990 บาทต่อ 3 แก้ว ค็อกเทลที่เราได้ชิมวันนี้เป็นตัวแทนจากแต่ละซีรีส์ เริ่มที่ Signature Cocktail อย่าง Shamrock (290 บาท) ใช้ Whitley neill dry gin เป็นเบสและมีส่วนผสมของน้ำฝรั่งและน้ำผึ้ง จึงได้รสเปรี้ยวหวาน ดื่มง่าย กลิ่นหอมสดชื่น Yim Siam (350 บาท) จากซีรีส์  Signature Littles ที่เบสด้วย Phraya Rum พรีเมียมรัมของไทย ผสมกับลำไยและช็อกโกแลตจึงมีทั้งความหวานและหอมแบบไทยๆ
การโฆษณา
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • วัฒนา
  • ราคา 3 จาก 4
  • แนะนำ
ทุกคืนวันศุกร์ถ้าอยากไปแฮงเอาต์หลายคนก็มักจะปักหมุดไปที่ทองหล่อและเอกมัยก่อนที่อื่นๆ เสมอ เพราะมีบาร์มีร้านให้เลือกนั่งเยอะแยะ ผู้คนก็คึกคักราวกับเมืองนี้ไม่มีใครหลับใครนอน ไปทีไรก็สนุกกับบรรยากาศที่คุ้นเคย แต่เราจะผูกขาดตัวเองกับสถานที่เดิมๆ ไปทำไม ในเมื่อทุกวันนี้มีทั้งร้านสวยๆ และบาร์น่านั่งเปิดใหม่แทบทุกตรอกซอกซอย อย่างบาร์ที่เราพามารอบนี้ก็อยู่แค่แยกพระโขนง เลยเอกมัยมานิดเดียวเอง Talk of the town คือชื่อของร้านที่เราพูดถึง ชื่อนี้มาจากความตั้งใจที่ว่าอยากให้ทุกคนที่มาที่นี่มีอะไรให้พูดถึง อยากให้ร้านเป็นที่พูดถึงแบบ Talk of the town ส่วนการตกแต่งร้านก็ชวนให้พูดคุยตั้งแต่ภาพเขียนหน้าร้านที่ภาพ คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือกับประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัล ทรัมป์ นั่งซดเบียร์อยู่บนระเบิดนิวเคลียร์ เป็นการหยิกแกมหยอกที่น่ารักและทันยุคทันสมัยดีเหมือนกัน ส่วนภายในร้านถึงจะดูหรูหรา แวววาวด้วยทองแดงที่ด้านหลังบาร์ แต่ก็ยังมีความวินเทจกลืนๆ อยู่ ด้วยกระจกเก่า เก้าอี้ไม้หน้าบาร์สีเข้มๆ และเพดานที่ตั้งใจเปิดโล่งโชว์การเดินท่อและสายไฟ ส่วนที่ผนังด้านในก็จะมีภาพจากข่าวดังและบุคคลสำคัญต่างๆ แต่ละภาพก็จะมีเรื่องราวให้พูดถึงได้ไม่ซ้ำกัน เครื่องดื่มของร้านนี้มาจากการคิดค้นของ ทอมมี่ - สุวรรณ สีลี บาร์เมเนเจอร์ ดีกรีอันดับ 3 ของโลก จากการแข่งขันบาร์เทนเดอร์ที่อิตาลี จะเน้นให้คนเข้าถึงได้ง่าย แต่ละแก้วได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวรอบๆ ตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นข่าว เหตุการณ์ กระแสหรือคนดัง ที่สำคัญคือวัตถุดิบแต่ละอย่างจะเน้นใช้วัตถุดิบที่ทำเอง โดยทอมมี่ย้ำกับเราว่า “เราจะไม่ซื้อของมาใส่ แต่จะซื้อของมาทำแล้วค่อยใส่” เดินเข้ามาในร้านแล้วอาจจะสะดุดตากับพื้นที่หลังบาร์ที่มีแท็บเครื่องดื่มแทนที่จะเป็นข
Backstage Cocktails Bar
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • ทองหล่อ
  • แนะนำ

บาร์บนชั้นล็อบบี้ของโรงแรม Playhaus แห่งนี้เคยเป็นที่ทำการของ Behind the Scene Lounge & Bar ก่อนที่จะถูกปรับปรุงโดยบาร์เทนเดอร์แนวหน้าของเมืองไทยจนกลายเป็น Backstage Cocktails Bar การตกแต่งบาร์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากละคร 4 เรื่องรวมไปถึงงานคลาสสิคอย่างโรมิโอและจูเลียตและสี่แผ่นดิน

การโฆษณา
  • 5 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • พร้อมพงษ์
  • ราคา 4 จาก 4
  • แนะนำ
ตัวร้านหลบซ่อนอยู่ด้านหลังประตูไม้โดยไม่ได้มีป้ายชื่ออะไรนอกจากสายไฟของการไฟฟ้าที่ระโยงระยางอยู่ริมถนน ขณะที่ด้านในเป็นโถงทางเดินแคบๆ ติดเคาน์เตอร์บาร์ไม้ที่นำทางเราไปสู่โซนที่นั่งหลักขนาดกว้างขวาง ซึ่งมีเปียโนหลังใหญ่กับกลองชุดจัดวางไว้สำหรับการแสดงดนตรีแจ๊สสดในทุกคืนวันพุธถึงวันอาทิตย์ โดยที่ชั้นบนนั้นยังเป็นซิการ์บาร์และช็อปแผ่นเสียงไวนิลของร้าน Recoroom อีกด้วย ก้อง-อนุภาส เปรมานุวัติ ผู้อยู่เบื้องหลังบาร์ลับๆ ในย่านเมืองเก่าอย่าง Ku Bar คือคนที่มารับหน้าที่ดูแลดริงก์ทั้งหมดของที่นี่ โดยเขาตั้งใจให้ที่ร้านไม่มีค็อกเทลซิกเนเจอร์ และสอดแทรกความพิเศษบางอย่างลงไปในคลาสสิกค็อกเทลแต่ละแก้วด้วยการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่หาได้ในบ้านเราหรือเหล้าโฮมเมดแทนที่ส่วนผสมทั่วไปแทน "เพราะว่าผมต้องการจะให้ลูกค้าเดินเข้ามาในบาร์แล้วสามารถสั่งคลาสสิกค็อกเทลที่พวกเขาชอบอย่าง จินโทนิก หรือ วิสกี้โซดา ได้เลย" ก้องกล่าว เพื่อให้เห็นภาพเราลองสั่ง Sazerac (420 บาท) ค็อกเทลที่เหล้า absinthe ถูกแทนที่ด้วยใบโปร่งฟ้า พืชสมุนไพรที่มักจะใช้ในการทำลาบของภาคเหนือ ซึ่งมีรสชาติที่ใกล้เคียงกับเหล้า absinthe อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งยังให้ความสดชื่นในสัมผัสสุดท้ายซึ่งจะแตกต่างจากที่อื่นๆ กับอีกแก้วยอดนิยมอย่าง piña colada (380 บาท) ที่ถูกรีครีเอตขึ้นมาใหม่ให้ดื่มง่ายขึ้น ด้วยการใช้น้ำมะพร้าวสดและเหล้ารมควันกลิ่นมะพร้าวโฮมเมด หรือจะเป็นค็อกเทลแก้วง่ายๆ อย่าง Screwdriver (380 บาท) ที่โดยปกติแล้วจะถูกชงขึ้นจากวอดก้าและน้ำส้มธรรมดาๆ ก็ได้รับการดัดแปลงให้อยู่ในลักษณะของน้ำแข็งเกล็ดหิมะ พร้อมด้วยเท็กเจอร์ของส้มให้เคี้ยวเพลินๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมี happy hour ในช่วงเวลา 18.00-20.00 น. ที่คุณสามารถสั่งค็อกเทลอะไรก็ได
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • อโศก
  • แนะนำ

Q&A มาพร้อมกับค็อกเทลแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ท่ามกลางดีไซน์ร้านที่ชวนให้นึกถึงตู้รถไฟเก่า ดูมีมนตร์ขลังด้วยเก้าอี้สีน้ำตาลคาราเมลตั้งอยู่ติดกับบาร์ที่มีบาร์เทนเดอร์คอยต้อนรับและพูดคุยอย่างสนุกสนาน บาร์แห่งนี้เปลี่ยนเมนูใหม่ทุกเดือน โดยนำแแก้วคลาสสิกมาใส่ความนำสมัยให้ดูตื่นตาตื่นใจ ทำไมไม่ลอง Pinkish ที่นำค็อกเทลคลาสสิกอย่าง Negroni มาผสมผสานกับจินรสรูบาร์บและทับทิมได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การโฆษณา
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • คอนแวนต์
  • แนะนำ

ร้านอาหารสุดหรูจากฝีมือการรังสรรค์ของโชติพงษ์ ลีนุตพงษ์และ Debby Tang แท็กทีม Luca Appino เจ้าของร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดัง La Bottega di Luca จนได้ออกมาเป็นอาหารเมดิเตอร์เรเนียนที่นำสมัย ในส่วนของเครื่องดื่ม ทางร้านยังมีเครื่องดื่มเริ่ดๆ อย่าง Hemmingway’s Sazerac รับรองว่าอร่อยจนไม่รู้ลืม

Rabbit Hole
  • 5 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • ทองหล่อ
  • แนะนำ

บาร์โพรงกระต่ายขนาด 3 ชั้นตั้งอยู่ติดกับร้าน Ainu ดูโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบดิบๆ ตัดกับการตกแต่งที่ดูหรูหรา บาร์แห่งนี้คือสวรรค์ของคนรักวิสกี้ที่มีให้เลือกอย่างมากมาย เครื่องดื่มของที่นี่ยังเน้นการผสมผสานค็อกเทลให้เข้ากับสมุนไพร และวัตถุดิบที่ทางร้านรมควันด้วยตัวเอง จนได้ค็อกเทลที่ไม่เหมือนใคร

การโฆษณา
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • เยาวราช
  • แนะนำ

จินบาร์แห่งแรกในประเทศไทยที่มีเครื่องดื่มบสเป็นจิกว่า 80 ชนิดได้ผ่านการคัดสรรโดย ณิกษ์ อนุมานราชธน มิกโซโลจิสต์ฝีมือฉกาจที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เมนูเครื่องดื่มจะถูกครีเอตแบบวันต่อวัน ขึ้นอยู่กับว่ามีวัตถุดิบใดบ้างที่น่าสนใจ

  • 4 จาก 5 ดาว
  • Restaurants
  • อาหารวิจิตร
  • ทองหล่อ
  • ราคา 4 จาก 4
  • แนะนำ

ชั้นสองของร้านเป็นพื้นที่ของบาร์คอยเสิร์ฟเครื่องดื่มที่มีคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ เช่น จินกับโทนิคเสิร์ฟกับน้ำมะม่วง (350 บาท) หรือจะลองเป็นคอนยัคหมักกับใบแนม ผสมด้วยกาแฟ เหล้าเวอร์มุตหวาน รมควันกับโป๊ยกั๊ก (420 บาท) ก็อร่อยไปอีกแบบ

การโฆษณา
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • นานา
  • แนะนำ

ย้อนกลับไปกรุงฮาวาน่าในช่วงปี 1940 ก่อนฟิเดล คาสโตรจะเข้ามาปฏิวัติประเทศ ครั้งสมัยก่อนที่ฮาวาน่ายังเป็นเหมือนลาสเวกัสแห่งคาริบเบียน กับค็อกเทลอร่อยๆ ที่คุณไม่ควรพลาด

Just A Drink (Maybe)
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • สาทร 10-12
  • ราคา 2 จาก 4
  • แนะนำ

บาร์สุดลึกลับที่แอบซ่อนตัวในย่านเที่ยวสุดฮิต ชักชวนให้ผู้คนเข้ามา "ดื่มสักแก้ว" ก่อนกลับบ้าน แต่ด้วยลิสต์เมนูจิน และเครื่องดื่มอื่นๆ เราขอบอกว่า แก้วเดียวก็ไม่พอ ออกเดินทางไปกับโลกของจินที่ทางร้านมีให้เลือกกว่า 50 แบรนด์ 

การโฆษณา
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • สุขุมวิท 24
  • แนะนำ

บาร์เล็กๆ ที่แอบซ่อนอยู่ในวอยสุขุมวิท 21 เปิดเพียง 3 วันเท่านั้น ทำไมไม่ลองแวะมาฟังเพลงสนุกๆ และดื่ม "ยาพิษ" สุดคลาสสิกที่มาพร้อมกับลูกเล่นสุดโมเดิร์น

Ku Bar
  • 4 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • รัตนโกสินทร์
  • ราคา 2 จาก 4
  • แนะนำ

ถ้ามาที่นี่ครั้งแรกขอบอกเลยว่าต้องสับสนแน่นอน เพราะซอยเล็กๆ ข้าง Brown Sugar Jazz Bar มีตึกที่ดูเหมือนกับตึกร้างตั้งอยู่หลังศาลพระภูมิ (อย่างกับในหนังผีเลยก็ว่าได้) หลังจากผ่านบันไดมืดๆ เราจะได้พบกับ Ku Bar บาร์สบายๆ บรรยากาศเป็นมิตรอยู่เบื้องหลังประตูไม้ที่ชั้น 3  

การโฆษณา
  • 3 จาก 5 ดาว
  • Bars
  • ค็อกเทลบาร์
  • หลังสวน
  • แนะนำ

ถึงแม้การตกแต่งจะมีกลิ่นอายของความเก่า แต่ถ้าพูดถึงเพลงที่นี่ เราขอรับรองได้ว่าทันสมัยแน่นอน เพราะดีเจเปิดเพลงเฮ้าส์อยู่ชั้น Rooftop (ชั้น 25) และเพลงป็อบอยู่ที่ชั้น 24 

เรื่องเด่น
    เรื่องน่าสนใจอื่นๆ ที่คุณน่าจะชอบ
      การโฆษณา