ถ้าเป็นแต่ก่อนการทานอาหารไทยราคาแพงๆ หลายคนก็ต้องคิดว่าเป็นราคาขายชาวต่างชาติทั้งนั้น เพราะเราคงไม่อยากทานแกงส้มราคา 300 บาท ทั้งๆ ที่คุณแม่ก็ทำได้และอร่อยมากๆ ด้วย แต่ตอนนี้ความคิดนี้เปลี่ยนไปแล้ว ต้องขอบคุณบรรดาเชฟรุ่นใหม่ที่นำสูตรโบราณที่หาทานได้ยากและวัตถุดิบชั้นยอดมาสร้างสรรค์เมนูที่ควรค่าแก่การลิ้มลอง และนี่ก็คือลิสต์ร้านอาหารไทยในกรุงเทพฯ ที่ Time Out รับรองว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน นอกจากนี้เราขอแนะนำร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ Street Food และร้านอาหารจีนที่บอกเลยห้ามพลาด

10 ร้านอาหารไทยในกรุงเทพฯ แนะนำ
ร้านอาหารไทยร่วมสมัยจากเชฟแพม - พิชญา สุนทรญาณกิจ ที่เพิ่งคว้ารางวัล World’s Best Female Chef 2025 จาก World's 50 Best Restaurant นำเสนอประสบการณ์มื้ออาหารที่ไม่เพียงแค่อร่อย แต่ยังเต็มไปด้วยรายละเอียด ร้านตั้งอยู่ในตึกเก่า 3 ชั้น ย่านทรงวาด มาพร้อมกับคอนเซปต์วัตถุดิบศักดิ์สิทธิ์ 5 อย่าง ได้แก่ ข้าว พริก มะพร้าว น้ำปลา และน้ำตาลโตนด จากแหล่งท้องถิ่นทั่วไทย ให้ได้เป็นจานอาหารที่เปี่ยมด้วยเรื่องราว ที่ข้าวสารเสกจะมี House menu หรือ “วงข้าว” ซึ่งเป็นการรวมเมนูแนะนำของทางร้านให้ลูกค้าได้รับประทานอย่างครบทุกวัตถุดิบศักดิ์สิทธิ์ หรือสามารถสั่งเป็นอาหารจานเดียวได้ เมนูที่ห้ามพลาดมีทั้ง ดอกหอมสะดุ้งเคยกากหมูกรอบ (195 บาท) ใช้ดอกหอมนำมาผัดจนหอมกะทะ และคัดสรรน้ำเคยจาก บ้านกาหลง จังหวัดสมุทรสาคนมาเป็นส่วนผสมหลักในจาน ปลาประจําวัน นํ้าปรุงสาโทข้าวหมัก (250 บาท) คัดสรรปลาไทยจากชาวประมงที่เปลี่ยนไปทุกวันทานคู่กับซอสที่ทำจากสาโทหมักจากทางร้าน ซี่โครงหมูซอสสามเกลอนํ้าตาลโตนด (350 บาท) ซี่โครงหมูตุ๋นนาน 3 ชั่วโมง ทานพร้อมกับตัวซอสที่ทำจากน้ำตาลโตนดจากสวนตาลลุงณรงค์ จังหวัดเพชรบุรี นํ้าพริกแกงปู (390 บาท) เลือกใช้พริกของไทยจากจังหวัดจันทบุรีมาทำน้ำพริก เสิร์ฟพร้อมเนื้อปูเนื้อแน่น และผักพื้นบ้านของไทย เนื้อริบกระดูกหมักกะทิ แกงเขียวไข่ครอบ (1,390 บาท) แกงเขียวหวานสูตรเฉพาะของทางร้านที่เสิร์ฟพร้อมเนื้อที่เราใช้เวลาตุ๋นกับกะทิถึง 4 ชั่วโมงโดยใช้กะทิจากสามพราน จังหวัดนครปฐม ทานคู่กับไข่ครอบเพื่อลดความจัดจ้าน นอกจากนี่ยีงมีจาน vegetarian หรือ เจ ที่สามารถรับประทานได้ทุกคนอย่าง ยําผลไม้เจรากบัวกรอบ (185 บาท) ทุกจานรับประกันความหอม กรุ่น ละมุน ร้อน และนัว ในส่วนของเครื่องดื่ม ทางร้านคิดค้นขึ้นมาใหม่ มี 2 แก้ว ได้แก่ น้ำขวัญนา เป็นม็อกเทล ดื่มแล้วสดชื่นชุ่มฉ่ำใจ และน้ำมนต์ธรณีสาร ซึ่งเป็นค็อกเทล ที่มีการผสมสาโทของทางร้าน และในวันที่ 2 กรกฎาคม นี้ ข้าวสารเสกถือฤกษ์เปิด Grand Opening มีการทำบุญเลี้ยงพระ พร้อมเสิร์ฟเมนูวงข้าวใหม่อย่างเป็นทางการ สนใจสอบถามเพิ่มเติมตามข้อมูลด้านล่าง
ที่ ข้าวสารเสก 1121-1123 ถนนทรงวาด แขวงสัมพันธวงศ์ เปิดให้บริการ ทุกวัน เวลา 16.30 - 23.00 น. ติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook: Khao San Sek BKK และ Instagram: khaosansek.bkk โทร 097-016-9824
Discover Time Out original video